10 ก.ค. 2022 เวลา 09:42 • บันเทิง
หนังฮ่องกง ที่ไม่ได้ตาย แค่กลายเป็น...
ถ้าใครอายุประมาณ 30 ขึ้นไปน่าจะทันกระแสหนังฮ่องกงที่เข้ามาในประเทศไทยอย่างหนักหน่วงในช่วยปี 1980-90 ถ้าให้ยกตัวอย่างดังๆ อย่างเช่น
หนังตระกูล วิ่งสู้ฟัด
ที่ทำให้เฉินหลงโด่งดัง ก่อนที่จะไปเล่นหนัง Hollywood
โหด เลว ดี
ที่สร้างชื่อให้กับ ผู้กำกับจอห์น วู และทำให้เราได้รู้จัก โจวเหวินฟะ
ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ
หนังสุดเท่ห์ของ หลิวเต๋อหัว อย่าง
สองคน สองคม
หนังหักเหลี่ยมเฉือนคมของแก็งมาเฟียกับตำรวจ
แต่ปัจจุบันคำว่า "หนังฮ่องกง" หายไปจากหน้าสื่อในประเทศเราไปอย่างสิ้นเชิง วันนี้เราหาคำตอบกันว่าจริงๆแล้ว หนังฮ่องกงนั้นหายไปไหนแล้ว !?
ย้อนกลับถึงช่วงจุดเริ่มต้นที่ทำให้หนังฮ่องกงโด่งดังมากๆ
คือ ช่วงปี 1970 ที่ Bruce Lee ทำให้หนังฮ่องกงนำเสนอ Kung Fu ที่ดุเดือดมากขึ้น และการเป็นแนวทางใหม่สำหรับหนังในยุคนั้นไปเลย ซึ่งก่อนหน้านั่น Kung Fu จะเป็นการใช้อาวุธกันซะมากกว่า แต่เรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้นในปี 1973 คือการเสียชีวิตของ Bruce Lee ที่ทำให้วงการหนังฮ่องกงต้องตามหา ดารา Kung Fu คนใหม่ นั้นคือ เฉินหลง
ที่มาพร้อมตำนานไอ้หนุ่มหมัดเมา ที่สร้างรูปของตัวเองที่ผสมผสาน Kung Fu เข้ากับ comedy ได้อย่างลงตัวและแปลกใหม่ในปี 1978 และในปี 1980 เฉินหลง ก็ได้จับมือกับ หง จินเป่า สร้างหนังที่กลายเป็นช่วงเวลาสำคัญทำให้หนังฮ่องกงโด่งดังกระจายไปทั่วเอเชียและเข้ามาได้บ้านเราในช่วงเวลานั้นเอง
ซึ่งเป็นช่วงที่มีหนังแนวแก๊งสเตอร์ มาเฟีย ตำรวจดี ตำรวจเลว ที่เราได้เห็น โจว เหวินฟะ ,หลี่ เหลียนเจี๋ย,หลิวเต๋อหัว, กลายเป็นดาราที่มีชื่อเสียงในช่วงเวลานี้
และในปี 1988 กระทำความหว่อง ก็มาถึง As Tears Go By หรือชื่อไทยคือ ทะลุกลางอก ของ หว่อง ก๊าไหว่ ผู้กำกับหัวสมัยใหม่ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว
1989 ถือเป็นการมาของดาราที่ไปไกลถึงระดับ hollywood อีกคนอย่าง หลี่ เหลียนเจี๋ย หรือ เจ็ท ลี กับหนังเรื่อง หวง เฟยหง
และในปี 1990 ผู้นำพาความฮาสายปั่นก็มาถึงคือ โจว ซิงฉือ ที่สร้างหนังแนวตลกล้อเลียนเหนือจริงที่แปลกใหม่มากๆในยุคนั้น
และก็เป็นจุดเริ่มต้นของขาลงของหนังฮ่องกง ซึ่งจริงๆแล้วมีหลายปัจจัยที่น่าสนใจ ดังนี้
1.การเข้ามาอย่างหนักของหนังhollywoodในปี 1994 ที่ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของหนังฮ่องกงได้รับน้องลง
2.วิกฤตการเงินของเอเชีย(เวลาเดียวกับวิกฤตต้มยำกุ่งบ้านเรา)ที่ฮ่องกงเองก็โดนผลกระทบนี้เช่นกัน
3.เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่กระแสหนังฮ่องกงดีมากก่อนปี 1990 ทำให้ราคาตั๋วหนังขึ้นสูงตามไปด้วย
4.คนฮ่องกงเองเริ่มมองเห็นว่าคุณภาพหนังฮ่องที่แย่ลงเรื่อยๆ ทำให้ดูถูกหนังของตัวเอง และเลือกที่จะดูหนังต่างประเทศมากกว่า
.
5.การระบาดของการละเมิดลิทธิหนังอย่างหนักที่กระทบต่ออุตสาหกรรมหนังโลกเลยที่เดียว
6.ช่วงเวลา 10ปี ทำให้มีการผลิตหนังมากเกินไป แต่กลับไม่มีคุณภาพดีพอ กลายเป็นไม่สมดุลกับอุปสงและอุปทาน กลายเป็นเหมือนฟองสบู่ของอุตสหกรรมหนังฮ่องกงกำลังจะแตกนั้นเอง
ทำให้รายได้ค่อยๆลดลงเรื่อยๆจนน่าตกใจ แม้จะมีหนังในช่วงปี 2000 ที่ดีๆหลายเรื่องอย่าง Happy Together (โลกนี้รักใครไม่ได้นอกจากเขา) Infernal Affairs (สองคน สองคม) ก็ยังไม่ดึงกระแสกลับมาไม่ได้ ด้วย
เหตุผลเหล่านี้ก็ทำให้ช่วง 2004-2005 ผู้สร้างหนังในฮ่องกง เริ่มเดินทางไปสร้างหนังในจีนมากขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้คำว่าหนังฮ่องกงกลับจางหายไป แต่กลายเป็นหนังจีนแผ่นดินใหญ่มาทบแทน
โฆษณา