19 ก.ค. 2022 เวลา 02:38 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
รีวิว : The Witch Part 2 : The Other One - แม่มดมือสังหาร
Filmment Rating : 6.0
#เนื้อเรื่องย่อ
เรื่องราวของเด็กสาวคนหนึ่ง ผู้รอดชีวิตจากการบุกโจมตีห้องทดลองลับ และสูญเสียความทรงจำทั้งหมดของตัวเอง เธอได้เดินทางออกสู่โลกภายนอกพร้อมเจอกับ คยองฮี หญิงสาวที่ตัดสินใจช่วยเหลือและดูแลเธอ ในขณะที่พวกเขากำลังดื่มด่ำกับชีวิตอันแสนเรียบง่ายธรรมดา กลุ่มมือสังหารลึกลับกำลังเตรียมการที่ปลิดชีพพวกเธออย่างไร้ความปราณี
#ความเห็น
ภาพยนตร์เรื่อง The Witch Part 2 : The Other One - แม่มดมือสังหาร เป็นภาพยนตร์ภาคต่อโดยตรงจาก The Witch Part 1 : The Subversion โดยแม้ว่าจะมีเส้นเรื่องใหม่เป็นของตัวเอง แต่ภาพยนตร์ภาคนี้ก็ต้องอาศัยองค์ความรู้จากภาพยนตร์ภาคที่แล้วอยู่พอสมควร และวางตัวเองเป็นดั่งบันไดสู่บทสรุปที่ยิ่งใหญ่กว่าในภาพยนตร์ภาคต่อไปครับ
หลายต่อหลายครั้งภาพยนตร์ที่มีความยาวราว 3 ชั่วโมงกลับให้ความรู้สึกเพลิดเพลินจนรู้สึกสั้นกว่าความเป็นจริง ในทางกลับกัน ภาพยนตร์บางเรื่องแม้จะมีความยาวไม่มากนัก แต่กลับรู้สึกถึงความเนิบช้าและเนิ่นนานเหลือเกินในการรับชม น่าเสียดายที่ภาพยนตร์เรื่อง The Witch Part 2 : The Other One เป็นอย่างหลังครับ
ด้วยความยาวราว 137 นาที ภาพยนตร์เลือกที่จะเปิดตัวละครใหม่แบบยกทีม พร้อมแบ่งเส้นเรื่องออกเป็นหลายเรื่องย่อย ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละเรื่องนั้นมีความเกี่ยวโยงและผูกพันธ์กันทั้งจากเรื่องราวในอดีตและปัจจุบันของตัวละคร
ไม่ว่าจะเป็น เส้นเรื่องของเด็กสาวที่รอดชีวิตจากการสังหารหมู่และการเริ่มต้นใช้ชีวิตในฐานะสามัญชนของเธอ , เรื่องราวของ 2 พี่น้องคยองฮีและแดกิลที่ต้องต่อกรกับมาเฟียเพื่อปกป้องที่ดินของตัวเอง , เรื่องราวของ 2 มือปืนรับจ้างที่ทะเลาะกันอยู่ตลอดเวลาและ 4 มือสังหารพลังเหนือมนุษย์ที่พร้อมจะขัดขากันเพื่อเป้าหมายของพวกเขา
อย่างไรก็ตามเรื่องราวที่น่าสนใจจากภาพยนตร์ภาคที่แล้วกลับไม่ได้รับการสานต่อไปในทิศทางที่ควรจะเป็นมากนัก โดยเฉพาะปูมหลังและความเป็นมาขององค์กรมืดทางวิทยาศาสตร์ ที่ผลิตมนุษย์ทดลองอันแข็งแกร่งและมีพลังเหนือธรรมชาติ ซึ่งไม่ได้ถูกขยายความเรื่องราวในภาพรวมมากขึ้นจากภาคที่แล้วเลย และยังคงไว้ซึ่งคำถามมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สาเหตุที่เหล่าแม่มดมือสังหารเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาคืออะไร , การมีอยู่ของพวกเธอส่งผลกระทบอะไรกับองค์กรบ้าง หรือกระทั่งตัวองค์กรเองคาดหวังอะไรจากการสร้างมนุษย์ทดลองเหล่านี้ขึ้นมา
นอกจากนี้การเล่าเรื่องของภาพยนตร์ยังเต็มไปด้วยความสับสนและยุ่งเหยิง เหล่าตัวละครล้วนพุ่งไปหาเป้าหมายที่ได้รับโดยไร้เหตุผลและแรงจูงใจ ในขณะที่แต่ละเส้นเรื่องที่ภาพยนตร์วางเอาไว้ยังขาดการพัฒนาที่มีน้ำหนัก จึงทำให้ภาพยนตร์ไม่สามารถโน้มน้าวให้ผู้ชมเข้าใจได้เลยครับว่า กลุ่มตัวละครในเรื่องพร้อมจะเสี่ยงชีวิตและเข่นฆ่ากันเพื่ออะไรกันแน่
นอกจากนี้ปัญหาสำคัญของ The Witch Part 2 : The Other One ก็คือ ภาพยนตร์ไม่สามารถทำให้ผู้ชมหลงรักหรือสงสารชะตากรรมที่ตัวละครหลักต้องเผชิญได้เหมือนกับภาพยนตร์ภาคแรก นั่นจึงทำให้หลายต่อหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นขาดอารมณ์ร่วมและไม่ชวนให้ผู้ชมเอาใจช่วยตัวละครได้มากเท่าไรนัก
The Witch Part 2 : The Other One วางตัวเองอย่างชัดเจน ในฐานะภาพยนตร์ที่ใช้ปูทางไปสู่เหตุการณ์ในภาคต่อไป แต่ถึงแม้จะมองจากมุมนั้นแล้ว ภาพยนตร์ก็ควรที่จะตอบโจทย์เรื่องราวของตัวเองให้ครบสมบูรณ์ด้วยเช่นกัน ซึ่ง The Witch Part 2 : The Other One ล้มเหลวในจุดดังกล่าว
เช่นเดียวกันกับการเฉลยปมที่ค้างคาจากภาคที่แล้ว ที่ยิ่งทวีความสับสนวุ่นวายให้กับเรื่องราวมากขึ้น ภาพรวมของภาพยนตร์ในแง่ของเรื่องราว จึงเป็นการหยิบเอาภาพยนตร์ภาคที่แล้วมาทำซ้ำโดยเปลี่ยนตัวละครและสถานที่ทั้งหมด มากกว่าที่จะเป็นภาพยนตร์ภาคต่อที่ยืนได้ด้วยขาของตัวเองครับ
จากฉากแอ็คชั่นที่ผสมผสานกลิ่นอายของภาพยนตร์แนวสยองขวัญลงไปในภาคแรก ถูกยกระดับให้กลายเป็นฉากแอ็คชั่นของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่แบบเต็มตัว นำมาซึ่งความยิ่งใหญ่ตระการตามากขึ้นของงาน Visual Effect รวมถึงการต่อสู้ที่ดุเดือด รุนแรง และนองเลือดขึ้นกว่าในภาคที่แล้ว
แต่น่าเสียดายที่ The Witch Part 2 : The Other One นั้นมีตัวละครอยู่มากจนเกินไป และไม่สามารถจัดการกับเหล่าตัวละครนั้นได้อย่างเหมาะสม เมื่อผสมรวมกับเทคนิคการถ่ายทำที่เน้นภาพแคบและจังหวะการตัดต่อที่รวดเร็วแล้ว ทำให้ฉากแอ็คชั่นในช่วงท้ายเรื่องกลับไม่สามารถถ่ายทอดทุกอย่างออกมาได้อย่างลงตัว แม้ว่ามันจะสนุกและเลือดสาดขนาดไหนก็ตามครับ
โดยรวมแล้ว The Witch Part 2 : The Other One นั้นเป็นการสานต่อจักรวาลของแม่มดมือสังหารด้วยกลุ่มตัวละครใหม่ พร้อมปูทางไปสู่ศึกครั้งใหญ่ในภาพยนตร์ภาคต่อไป มากกว่าที่จะเป็นภาพยนตร์ที่จบในตัวเหมือนกับภาคแรกครับ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มรสชาติใหม่อย่างความคอมเมดี้และโรแมนติกเข้ามาในเรื่องราวด้วย ซึ่งนับเป็นความแปลกใหม่ที่ลงตัวสำหรับภาพยนตร์ภาคนี้
แต่ต้องยอมรับตามครับว่า The Witch Part 2 : The Other One มีเส้นเรื่องที่ยุ่งเหยิงและชวนสับสน พร้อมกับให้เวลากับเรื่องราวที่ไม่จำเป็นมากจนเกินไป สิ่งที่กอบกู้ภาพยนตร์เอาไว้ได้อย่างฉิวเฉียดก็คือ ฉากแอ็คชั่นอันดุเดือดเลือดสาดนั่นเองครับ
#ประเด็นตกผลึก
ประเด็นตกผลึกจากภาพยนตร์เรื่อง The Witch Part 2 : The Other One ที่ผมจะชวนผู้อ่านทุกท่านมาคุยกันในวันนี้ก็คือ
การเลี้ยงดูในวัยเด็ก คือแรงผลักดันสำคัญต่อทุกการตัดสินใจ
สิ่งสำคัญที่ถูกถ่ายทอดและนำเสนอมาตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่อง The Witch Part 1 : The Subversion และยังคงถูกตอกย้ำอีกครั้งในภาพยนตร์ภาคนี้ก็คือ ครอบครัวที่แตกต่างกันของตัวละครครับ โดยในภาคนี้ภาพยนตร์โฟกัสไปที่ตัวละครใหม่อย่างเด็กสาวนิรนามคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุการณ์โจมตีและสังหารหมู่ในห้องทดลองลึกลับที่มีชื่อว่า ‘อาร์ค’ ครับ โดยเด็กสาวคนนี้ได้รับการเลี้ยงดูมาในห้องทดลองมาตลอดชีวิต และเพิ่งจะมีโอกาสได้เห็นโลกภายนอกเป็นครั้งแรกหลังจากอาร์คถูกทำลายลงครับ
ระหว่างที่กำลังหลงทางอยู่นั้นเธอได้พบเจอกับ คยองฮี โดยคยองฮีได้พาเธอกลับมาที่บ้านและให้การช่วยเหลือทุกอย่างที่เธอต้องการ ที่บ้านของคยองฮีนั้นเธอยังได้พบกับ แดกิล น้องชายของคยองฮี โดยแม้ว่าทั้งคู่จะไม่ลงรอยกัน แต่ทั้งคยองฮีและแดกิลก็ช่วยเหลือกันเมื่อยามคับขันเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาถูกกลุ่มมาเฟียมารังแกเพื่อบีบบังคับให้พวกเขาขายที่ดินของครอบครัว การจับมือกันของ 2 พี่น้องนี้เองทำให้เด็กสาวนิรนามได้เข้าใจนิยามของความรักเป็นครั้งแรก
เนื่องจากตลอดชีวิตของเด็กสาวนิรนามคนนี้ถูกเลี้ยงดูมาด้วยความรุนแรงมาตลอดภายใต้การดูแลของ ผู้อำนวยการแบค ผู้คิดค้นโครงการแม่มดมือสังหารขึ้นมา ซึ่งการจะผลักดันเหล่าแม่มดมือสังหารให้ไปถึงศักยภาพสูงสุดของพวกเธอได้นั้น จำเป็นต้องเลี้ยงดูพวกเธอขึ้นมาด้วยความรุนแรงครับ ซึ่งแม้ว่าการฝึกฝนและเลี้ยงดูดังกล่าวจะแลกมากับความสามารถที่เพิ่มมากขึ้น แต่มันก็เปลี่ยนพวกเธอให้กลายเป็นมนุษย์ที่ไม่รู้จักสิ่งอื่นเลยนอกจากความรุนแรงและเคียดแค้น
แม้ว่าเด็กสาวนิรนามนั้นจะได้เรียนรู้ถึงความรัก ความอบอุ่น การให้ และความสุขมากขึ้นกว่าที่เธอเคยได้รับมาตลอดทั้งชีวิต แต่เมื่อสถานการณ์ในภาพยนตร์เดินทางมาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อและเป็นจุดที่ตัวละครต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ เด็กสาวนิรนามจึงเลือกตัดสินใจตามสัญชาตญาณที่เธอคุ้นเคยมาทั้งชีวิต และแน่นอนครับว่าความรุนแรงและการฆ่าฟันกันนั้นมีสิ่งที่ต้องแลกมาเสมอ ส่วนชะตากรรมของเหล่าตัวละครในเรื่องจะเป็นอย่างไรนั้นต้องไปติดตามกันในภาพยนตร์นะครับ
นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากองค์ความรู้ที่มากขึ้นของสังคมยุคปัจจุบัน จึงทำให้หลายต่อหลายครอบครัวมีวิธีการเลี้ยงดูบุตรที่แตกต่างจากสมัยก่อน ซึ่งมักจะเน้นสอนลูกด้วยความกลัว การเฆี่ยนตี และการดุด่าว่ากล่าวหรือการลดทอนคุณค่า โดยการกระทำดังกล่าวนั้นตั้งอยู่บนเจตนาและความเชื่อของการควบคุมลูกๆ ให้อยู่ภายใต้โอวาท เพื่อให้พวกเขาทุกคนเติบโตขึ้นมาเป็นบุคคลคุณภาพ ซึ่งถูกครอบด้วยนิยามของความรักจากพ่อแม่อีกชั้นหนึ่งครับ
เราคงปฏิเสธไม่ได้ครับว่าแนวทางดังกล่าวนั้นประสบความสำเร็จสำหรับบางครอบครัว บุคคลตัวอย่างหลายต่อหลายคนในสังคมนั้นเติบโตขึ้นมาจากวิธีการเลี้ยงดูดังกล่าว แต่สิ่งที่แลกมาก็คือรอยแผลที่เกิดขึ้นในจิตใจของเด็กทุกคน ที่ถูกทำร้ายจากคนที่พวกเรารักมากที่สุด และแน่นอนว่ารอยแผลเหล่านั้นมันคือแผลเป็นที่ไม่อาจลบออกได้
ซึ่งรอยแผลเหล่านั้นย่อมแปรเปลี่ยนเป็นแรงผลักดันเมื่อพวกเขาต้องตัดสินใจเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิต ตัวอย่างง่ายที่สุดก็คือ เมื่อเด็กคนหนึ่งเติบโตขึ้นมาจากการเลี้ยงดูที่ผิด พวกเขาจะเลือกส่งต่อความรุนแรงเหล่านั้นให้กับลูกๆ ของตัวเองหรือไม่ คำตอบของคำถามข้อนี้อาจนิยามชีวิตของเด็กสักคนไปโดยที่พวกเขาไม่มีสิทธิเลือกเลยก็ได้ ฝากไว้ให้คิดกันนะครับ
#TheWitchPart2TheOtherOne #แม่มดมือสังหาร #Filmment
โฆษณา