"อะไรยิ่งดีจะยิ่งดี อะไรยิ่งไม่ดีจะยิ่งไม่ดี"
สมมติเราขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัด ระหว่างทางแวะหาข้าวกิน มี 2 ร้านติดกัน ขายอาหารเหมือนๆกัน ดูดีพอๆกัน
ร้าน A คนแน่น พนักงานวิ่งกันวุ่น เข้าไปน่าจะรอนาน
ร้าน B คนว่าง พนักงานพร้อมบริการ เข้าไปคงได้กินเลย
คำถามคือเราจะเลือกกินร้านไหน
เดาว่า 90% เลือกกินร้าน A เพราะเราเชื่อว่าคนเยอะต้องดี+อร่อยแน่เลย
ต่อให้เรารีบ ก็พร้อมจะรอ ทั้งที่เข้าร้าน B ได้เร็วเลยก็ไม่เอา แปลกดี ขัดความรู้สึกไหม
ยังไม่นับ พอร้าน A ขายดี เย็นปิดร้านขายหมด ของไม่ค้าง ยิ่งสด ลูกค้ายิ่งชม คนก็ยิ่งเข้า
ร้าน B ขายไม่ดี เย็นปิดร้านขายไม่หมด ของเก็บค้าง ยิ่งไม่สด ลูกค้ายิ่งด่า คนก็ยิ่งไม่เข้า
แปลกแต่จริง ร้าน A ขายดีจะยิ่งขายดี ร้าน B ขายไม่ดีจะยิ่งขายไม่ดี
อีก ต.ย.นึง สมมติถามว่า อยากทำอะไรสักอย่าง ต้องทำยังไงจึงจะสำเร็จ
คำตอบคือ ต้องมีความมั่นใจ เพราะถ้าไม่มั่นใจแต่แรก ทำไปก็ไม่สำเร็จ
ถามต่อ แล้วทำยังไงถึงจะมีความมั่นใจล่ะ
คำตอบคือ ต้องเคยสำเร็จอะไรมาถึงจะมั่นใจ คนทำอะไรล้มเหลวไปหมดจะมั่นใจได้ยังไง
สรุปถ้ามั่นใจจะทำให้สำเร็จ และ ถ้าสำเร็จจะทำให้มั่นใจ ไม่รู้ตกลงอะไรเกิดก่อน
แต่เห็นได้ทั่วไปว่า คนสำเร็จจะยิ่งมั่นใจ พอยิ่งมั่นใจก็จะยิ่งทำอะไรสำเร็จไปเรื่อยๆ
กลับกัน คนล้มเหลวจะขาดความมั่นใจ พอยิ่งขาดความมั่นใจทำอะไรก็จะยิ่งล้มเหลวไปเรื่อยๆ
คนรวย รู้ช่อง มีอำนาจต่อรอง มักซื้อของได้ถูก ยิ่งซื้อถูกก็ยิ่งรวย
คนจน ไม่รู้ช่อง ไม่มีอำนาจต่อรอง มักซื้อของได้แพง ยิ่งซื้อแพงก็ยิ่งจน
โลตัส/เซเว่นลูกค้าเยอะ ขายเงินสด แต่ซื้อเครดิต เงินหมุนเยอะ ยิ่งลดราคาได้ต่ำ ของยิ่งหมุนเวียนเร็ว คนก็ยิ่งเข้า
ร้านโชว์ห่วยลูกค้าน้อย ขายเงินสด และซื้อเงินสด เงินหมุนไม่มี ยิ่งลดราคาไม่ได้ ของยิ่งค้างสต็อค คนก็ยิ่งไม่เข้า
ดาราดัง งานยิ่งเยอะ โฆษณาแทบทุกตัวเป็นหน้าเขาหมด ยิ่งดัง งานก็ยิ่งเข้า
ดาราไม่ดัง งานน้อย ไม่ค่อยได้เห็นหน้า คนยิ่งลืม งานก็ยิ่งไม่เข้า
คนมีความสามารถ ผ่าน S Curve มาได้ ก็ยิ่งรู้เคล็ดลับ ก็ยิ่งเริ่มอะไรใหม่ๆ ก็ยิ่งมีความสามารถเยอะขึ้นเรื่อยๆ
คนไม่มีความสามารถ ผ่าน S Curve ไม่ไหว ก็ยิ่งไม่เข้าใจกลไก ทำอะไรก็ยิ่งไม่สำเร็จไปเรื่อยๆ
เคยพูดถึง S-Curve ว่าผลของความทุ่มเทเทียบกับเวลาจะเป็นรูปตัว S -->ย้อนอ่านได้ที่นี่
ยก ต.ย.หลากหลายให้เห็นภาพ ว่าเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติจริงๆ เกิดขึ้นกับทุกเรื่อง ทุกวงการ
อยากให้ทำใจกับสัจธรรมข้อนี้ว่า "อะไรยิ่งดีจะยิ่งดี อะไรยิ่งไม่ดีจะยิ่งไม่ดี"
ธรรมชาติไม่ได้คัดสรรให้เกิดการกระจายอย่างเท่าเทียม ไม่ได้ใช้ระบบยุติธรรมนะครับ
ความจริงที่โหดร้ายคือ คนที่ได้จะยิ่งได้ วนลูปหมุนซ้ำๆสูงขึ้นๆ คนไม่ได้จะยิ่งไม่ได้ วนลูปหมุนซ้ำๆต่ำลงๆ ยิ่งวันยิ่งถ่าง
ที่โบราณว่า ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน เขาใช้กับเรื่องอื่นนะ ไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้
หาให้เจอตอนนี้เราเป็นกลุ่มไหนจุดใด และตั้งเป้าให้ชัดว่าอยากเป็นกลุ่มไหนจุดใด
อย่างน้อยความยุติธรรมอย่างนึงที่ธรรมชาติมีให้ ก็คือ ทุกคนมี "เวลา" เท่ากัน อยู่ที่เราจะเอาไปใช้ทำอะไร
หากเราต้องการเก่งขึ้น ก็ต้องเอาเวลาไปทำสิ่งที่ควรทำเพื่อพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ (หากทำแต่สิ่งที่อยากทำก็ได้แต่ความสุข)
ไม่มีอะไรลอยจากฟ้ามาทำให้เราดีขึ้น ถ้าเราแย่ ก็ต้องเข้าไปแก้อะไรสักอย่างเท่านั้น เดี๋ยวก็ดีขึ้นและไปถึงเป้าที่ต้องการ เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
