24 ก.ค. 2022 เวลา 08:23 • หนังสือ
“ไฮล์ ฮิตเลอร์”
The Book Thief จอมโจรขโมยหนังสือ
ต้องบอกว่านานแล้วที่ไม่ได้อ่านวรรณกรรมแปลจากโซนยุโรป ส่วนใหญ่ปัจจุบันจะมีโอกาสได้อ่านทางฝั่งของเอเซียเสียมาก เรื่องนี้การันตีด้วยยออดขายกว่า 8 ล้านเล่มทั่วโลก และแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นอยู่ในมือเราตอนนี้แล้ว
หากดูจากความหนาของเล่มหลายคนอาจตกใจ (และคิดว่าเมื่อไหร่จะอ่านจบนี่ 55+) แต่เราขอบอกเลยว่าเนื้อหาในเล่มไม่ได้อ่านยากเลย แถมมีการแบ่งช่วงแต่ละย่อหน้าสั้นๆ ให้พอได้หายใจหายคอ
ขอสรุปเนื้อหาให้ฟังสั้นๆ แล้วกันว่า เรื่องราวของจอมโจรขโมยหนังสือนี้เป็นเรื่องของลีเซล เมมิงเกอร์ เด็กสาวคนหนึ่งได้ได้มาอาศัยอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ในยุคนาซีเยอรมัน (ค.ศ.1939-1945) และดำเนินชีวิตอยู่ในช่วงเวลานั้น แต่อย่าตกใจว่านี่จะเป็นหนังสือที่เน้นหนักเรื่องประวัติศาสตร์หรือเปล่า ไม่เลย ผู้เขียนเพียงสอดแทรกวิถีชีวิตในยุคสมัยนั้นผ่านการดำเนินชีวิตของเด็กสาว และแน่นอนว่าสงครามนำมาซึ่งการสูญเสีย
ใครที่อ่านเล่มนี้อาจต้องเตรียมใจไว้สักนิดหากคิดว่าเรื่องราวจะจบลงอย่าง happy ending แต่แน่นอนว่านั่นคือชีวิตจริงที่ไม่อาจมีใครปฏิเสธได้
ความน่าสนใจของหนังสือเล่มนี้คือเรื่องราวทั้งหมดถูกถ่ายทอดผ่านยมฑูตตนหนึ่ง และมีการหยอดตอนท้ายเรื่องหรือบทสรุปเอาไว้ล่วงหน้า บางคนอาจจะบอกว่าอย่างนี้ก็ไม่มีลุ้นให้ตื่นเต้นน่ะสิ แต่เราขอบอกเลยว่ามันทำให้ตื่นเต้นมากกว่าเดิมเสียอีก จนตอนที่เราอาจเราเองก็แอบกลัวเหมือนกันวว่าตอนจบสุดท้ายทุกคนจะตายหมดเหลือเพียงคนอ่านคนเดียว 55+ แต่ถ้ามองในมุมมองของยมฑูตแล้วนี่คือเรื่องปกติธรรมดา
“จอมโจรขโมยหนังสือ” ได้ยินคำนี้คงสร้างความสนใจและทำให้หลายคนนึกถึงจอมโจรมืออาชีพ แต่เปล่าเลย จอมโจรที่ว่านี้กลับเป็นเด็กสาวที่แอบขโมยหนังสือและรักการอ่านคนหนึ่ง หนังสือนำพาให้เธอได้ใกล้ชิดกับปาปา นำพาให้เธอได้หวนย้อนนึกถึงอดีต นำพาให้เธอพบมิตรภาพ และสุดท้ายคือนำพาให้เธอรอดพ้นจากความตาย
เราไม่รู้ว่าสมัยนั้นการอ่านหนังสือเป็นเรื่องต้องห้ามหรือเปล่า แต่เราเชื่อว่าถ้อยคำสามารถเปลี่ยนแปลงคนได้ เหมือนอย่างที่ฮิตเลอร์ทำในสมัยนั้น แม้หนังสือจะไม่ได้เน้นเรื่องประวัติศาสตร์ แต่หนังสือก็สะท้อนให้เห็นว่าไม่ใช่คนเยอรมันทุกคนจะเห็นด้วยกับฮิตเลอร์ ไม่ใช่ทุกคนจะรังเกียจคนยิว อย่างน้อยครอบครัวของลีเซลก็เป็นหนึ่งในนั้น เราได้รับรู้ถึงความยากลำบากในการดำเนินชีวิต การกดดขี่ข่มเหง ความกลัว และความสูญเสีย ขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงมิตรภาพ ความรัก และความหวังดีได้เช่นกัน
หากจะถามว่าหนังสือเล่มนี้ให้อะไร เราว่าสิ่งสำคัญที่หนังสือเล่มนี้ให้คือบทสรุปของสงครามที่ไม่ว่าใครจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย สุดท้ายก็ต้องได้รับผลกระทบจากสงครามและความสูญเสียทั้งสิ้น เราไม่รู้ว่าลีเซลใช้ชีวิตที่เหลืออย่างไร แต่เรามั่นใจว่าชีวิตที่เหลืออยู่ของหญิงสาวนั้นมีบาดแผลของสงครามอยู่ในทุกกาลเวลาที่ผ่านไป
พอสงครามสิ้นสุด ฮิตเลอร์ส่งตัวเองเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของข้า
“ไฮล์ ฮิตเลอร์”
#จอมโจรขโมยหนังสือ #The Book Thief
#อ่านแล้วนะ
ชื่อเรื่อง : The Book Thief จอมโจรขโมยหนังสือ
ผู้เขียน : มาร์กัส ซูซัก
ผู้แปล : พรรณี ชูจิรวงศ์
สำนักพิมพ์ : แพรวสำนักพิมพ์
จำนวนหน้า : 574 หน้า
ราคาปก : 545 บาท
โฆษณา