สตรีมมิ่งเจ้าดังอย่าง Netflix ยังคงพยายามอย่างต่อเนื่องในการสร้างภาพยนตร์แฟรนไชส์ฟอร์มยักษ์เป็นของตัวเอง คราวนี้พวกเขาควักเงินก้อนโตมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ในการสร้างภาพยนตร์แอ็คชั่นฟอร์มยักษ์อย่าง The Gray Man - ล่องหนฆ่า พร้อมดึงเอา 3 นักแสดงระดับแม่เหล็กของวงการอย่าง Ryan Gosling , Chris Evans และ Ana De Armas มาประชันบทบาทกันอย่างถึงเลือดถึงเนื้อครับ
ด้วยองค์ประกอบของความเป็นภาพยนตร์สายลับ ทำให้ The Gray Man มีวัตถุดิบมากมายให้เลือกใช้และเจาะลึกลงไปให้ถึงแก่นของเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็น เกมส์การเมือง ความซับซ้อนของสถานการณ์ และการหักเหลี่ยมเฉือนคมกันภายในองค์กรสายลับ , ความเป็นมาของหน่วยเซียร์ร่าซิกส์ , เส้นทางของการปลุกปั้นสายลับและเหล่ามือสังหาร หรือกระทั่งจะเจาะลึกลงไปยังปูมหลังอันแสนเจ็บปวด ที่นิยามตัวตนของตัวละครก็สามารถทำได้เช่นกัน
แต่ The Gray Man เลือกที่จะเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นป็อบคอร์นสูตรสำเร็จอย่างเต็มตัว ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่ผิดนะครับ รวมถึงภาพยนตร์ยังชัดเจนในแนวทางที่ตัวเองเลือกได้จนสุดทางอีกด้วย หากแต่เพียงว่า ถ้าภาพยนตร์เลือกจะใส่องค์ประกอบข้างต้นลงไปสัก 1 ข้อ ก็น่าจะทำให้ภาพรวมของภาพยนตร์นั้นเข้มข้นและมีน้ำหนักมากขึ้น
สิ่งที่ภาพยนตร์เรื่อง The Gray Man โดดเด่นที่สุดก็คือฉากแอ็คชั่นครับ โดยภาพยนตร์ถลุงงบประมาณราว 200 ล้านดอลลาร์ได้อย่างมันส์มือ พร้อมประเคนฉากแอ็คชั่นขนาดใหญ่ให้กับเรื่องราวมากมาย ทั้งการขับรถไล่ล่ากลางถนน , การต่อสู้กลางอากาศ รวมถึงการสาดกระสุนกลางเมืองแบบเต็มอัตราศึก ซึ่งทุกฉากก็ล้วนเต็มไปด้วยพลังการทำลายล้างและสามารถเรียกอะดรีนาลีนของผู้ชมได้เป็นอย่างดี
นักแสดงนำอย่าง Ryan Gosling ยังคงมีเสน่ห์และรักษามาตรฐานการแสดงของเขาเอาไว้ได้เป็นอย่างดี แต่อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น บทภาพยนตร์นั้นถ่ายทอดตัวละครของเขาออกมาอย่างแบนราบขาดมิติ และไม่มีพื้นที่ให้เจ้าตัวได้โชว์ความสามารถทางการแสดงมากมายนัก ถึงกระนั้นก็ยังน่าแปลกใจครับที่ Ryan Gosling สามารถเล่นฉากแอ็คชั่นได้อย่างกระฉับกระเฉง และแปลกตากว่าบทบาทแนวรางวัลในภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเขา
และคงจะไม่ผิดนักหากผมจะบอกว่า สปอตไลต์ของภาพยนตร์เรื่อง The Gray Man นั้นส่องไปที่ Chris Evans แบบเต็มๆ ด้วยการพลิกโฉมจากชายผู้แสนดีอย่างกัปตันอเมริกา สู่การเป็นนักฆ่าโรคจิตอันถ่อยเถื่อน ซึ่ง Chris Evans ก็สามารถรับมือกับพลังอันล้นเหลือของตัวละครนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมและโดดเด่นครับ การปะทะกันระหว่าง Ryan Gosling และ Chris Evans ทั้งในเชิงคารมและการต่อสู้ทุกรูปแบบคือเสน่ห์สำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้
ขณะที่ Ana De Armas ก็ยังคงยอดเยี่ยมและโดดเด่นกับฉากแอ็คชั่น เมื่อรวมกับผลงานก่อนหน้านี้อย่าง No Time to Die และ Ballerina ผลงาน Spin-Off จากจักรวาล John Wick ที่กำลังจะถูกสร้างในอนาคต เชื่อว่า Ana De Armas น่าจะกลายเป็นนางเอกนักบู๊ชั้นนำของวงการได้ไม่ยาก
โดยรวมแล้วภาพยนตร์เรื่อง The Gray Man - ล่องหนฆ่า เป็นภาพยนตร์ป็อบคอร์นสูตรสำเร็จที่เหมาะแก่การรับชมเพื่อความบันเทิงครับ ถึงจะมีจุดอ่อนในด้านบทภาพยนตร์อยู่บ้าง แต่ฉากแอ็คชั่นอันตระการตาและวินาศสันตะโรของภาพยนตร์ มุกตลกที่มาอย่างถูกที่ถูกเวลา รวมถึงการได้เห็น Ryan Gosling ปะทะกับ Chris Evans บนจอภาพยนตร์ ก็คุ้มค่าแก่การรับชมแล้วล่ะครับ
#ประเด็นตกผลึก
ประเด็นตกผลึกจากภาพยนตร์เรื่อง The Gray Man - ล่องหนฆ่า ที่ผมจะชวนผู้อ่านทุกท่านมาคุยกันในวันนี้ก็คือ