28 ก.ค. 2022 เวลา 05:16 • การเมือง
ตัวพ่อรัฐศาสตร์...ไขปม !! “พิชาย” มองการเมืองหลังศึกเด็ดหัว สอยนั่งร้าง
"ลิงกินกล้วย ฟาร์มงูเห่า อัตลักษณ์ระบอบประยุทธ์ บั่นทอนความเข้มแข็งประชาธิปไตย จบศึกซักฟอก พล.อ.ประวิตร มีสัญญาณเดินหน้า ยืนขั้วประชาธิปไตย”
คีย์แมสเสจ “รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผอ.หลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหาร ศาสตร์ (นิด้า) ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ ฉายภาพอัตลักษณ์การเมืองระบอบประยุทธ์ว่าเป็น...ลิงกินกล้วย ฟาร์มงูเห่า !!?
2 อัตลักษณ์นี้มาจากผลพวงรัฐธรรมนูญ (รธน.) พ.ศ. 2560 การคำนวณ ส.ส.แบบปัดเศษ ที่ทำให้เกิดอัตลักษณ์การเมืองขึ้นมาคู่กับระบอบประยุทธ์
การเมืองแบบลิงกินกล้วย !? โดยปกติตัวระบบการเลือกตั้งแบบสัดส่วนตามอารยะประเทศ จะมีวิธีการกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำ มีแต่ประเทศไทยไม่กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำ ทำให้ 20,000 กว่าเสียงได้เป็น ส.ส.แล้วในคะแนนปาร์ตี้ลิสต์
ทำให้มี ส.ส.เกิดขึ้นมากมาย และส.ส บางคนไม่ได้มีอุดมการณ์ทางการเมือง – เข้ามาแบบจับพลัดจับผลูไม่ได้คาดหวังอนาคตทางการเมืองเท่าไหร่
เมื่อไม่มีจุดยืน ย่อมง่ายต่อการหวั่นไหว ต่ออามิสสินจ้างต่าง ๆ ทำให้เกิดภาพการเมืองแบบลิงกินกล้วยขึ้น และคนกระทำส่วนใหญ่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลนั่นแหละ เพราะต้องการสร้างเสถียรภาพแก่รัฐบาล ต้องการเสียงสนับสนุนจาก ส.ส. พรรคการเมืองเล็ก ๆ เหล่านี้ในบางจังหวะ
ขณะที่การเมืองแบบงูเห่า !? เกิดในอดีตเมื่อนานมาแล้วก็หายไประยะหนึ่ง เพราะระบบไม่เอื้อ แต่ที่นี้ระบบเอื้อ ส.ส. งูเห่าต่างโผล่ขึ้นมา ทั้งงูเห่าแบบเปิดเผย – งูเห่าแบบฝากเลี้ยงเต็มไปหมด กลายเป็นแบบแผนในปัจจุบัน
“...........อดีตมีการแก้เพื่อไม่ให้เกิดลิงกินกล้วยขึ้น โดยบังคับให้ ส.ส.สังกัดพรรค แล้วกำหนดให้ต้องสิ้นสภาพ ส.ส. ถ้าโดนพรรคขับไล่ออกมา พอสร้างมาตรฐานอย่างนี้ขึ้น มันทำให้เกิดความสุดขั้วอีกแบบ คือ เผด็จการรัฐสภา จึงมีบัญญัติใน รธน. ว่าการลงมติของ ส.ส. มีความเป็นอิสระ สามารถมีหลักปฏิบัติคิด ลงมติได้โดยไม่ต้องได้รับผลพวงต่าง ๆ จากพรรค รธน. เปิดเอาไว้ถ้า ส.ส.ถูกขับจากพรรค สามารถหาพรรคใหม่ได้ภายใน 30 วัน........”
ทั้ง 2 อัตลักษณ์นี้เป็นภาพสะท้อนทางการเมืองในระบอบ
ประยุทธ์ ที่มาบั่นทอนมาตรฐานประชาธิปไตย ความเข้มแข็งของประชาธิปไตยให้ต่ำลง ในอนาคตอาจต้องมีการแก้ไขโดยเน้นเรื่องเหล่านี้ !!
สำหรับทิศทางการเมืองหลังศึกเด็ดหัว สอยนั่งร้าน มี 2 ประเด็นน่าตามต่อ !?
บิ๊กป้อมส่งสัญญาณไปต่อ !!
“อ.พิชาย” แปลกใจมากกับคำตอบจริงจังกลางศึกซักฟอกของพี่ใหญ่ ปฏิเสธ 3 ปง 3 ปออะไร ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐประหารเลย ไม่รู้ว่าเกิดรัฐประหารเมื่อไหร่ และผู้นำรัฐประหารคนเดียวคือพล.อ.ประยุทธ์
แล้วชี้ไปที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ยิ้มรับ ยกมือขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ...แกคงคิดไม่ทันว่าตัวเองทำอะไรลงไป !!
เพราะสิ่งเหล่านี้จะถูกบันทึกในสภา และพวกนักศึกษา นักวิชาการในอนาคตมาเปิดประวัติศาสตร์การเมืองสมัยนี้ อันนี้เป็นหลักฐานชัดเจนอย่างหนึ่งที่มีการบันทึกไว้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ คือผู้นำการรัฐประหารแต่เพียงผู้เดียว และไม่มีการปฏิเสธเลย เท่ากับเป็นการยอมรับ !!
เรียกว่าเป็นความเก๋าเกมของ “บิ๊กป้อม” ที่มองสถานการณ์การเมือง และพยายามทำให้ตัวเองกลับมาอยู่ฝั่งประชาธิปไตย อาจเป็นจังหวะก้าวที่จะไปทำอะไรทางการเมืองในอนาคตได้
ดังนั้นถ้า “บิ๊กป้อม” ต้องการเล่นการเมืองแล้วให้เกิดความชัวร์ ต้องลงสมัครเป็น ส.ส. เขต เรื่องนี้ไม่ยากเลย !!
เพราะเคยมีในสมัยอดีตนายกฯ “พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์” ก็ให้ส.ส.ในพรรคที่ฐานเสียงแน่นหนาลาออกแล้วให้ตัวเองไปลง...ก็จบ
หรือช่วงพฤษภาทมิฬ ตนได้รับข้อมูลจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในพรรคสามัคคีธรรม มีการเสนอว่าตอนนั้นไม่อยากได้นายกฯ ที่มาจากคนนอก ก็มีคนเสนอและเตรียมการให้ไว้แล้วว่า...จะให้ ส.ส. พรรคบางคนลาออก แล้วให้ “พล.อ.สุจินดา คราประยูร” ไปสมัคร ส.ส.
แต่ว่าท่านไม่รับข้อเสนอนี้ มันเลยบานปลายเกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ซึ่งตอนนั้นถ้าท่านรับข้อเสนอนี้ เราอาจมีนายกชื่อสุจินดาก็ได้
อันนี้ถือเป็นหลักการเดียวกัน !!
ทางฟาก “บิ๊กตู่” ถ้ายังเล่นการเมืองต่อ ต้องไปอยู่พรรคใหม่ คือรวมไทยสร้างชาติ ถือว่ามีความเหมาะสมภายใต้ระบบเลือกตั้งหาร 500
นอกจากนี้เกมอำนาจจะย้ายไปศาลธรรมนูญ ปม 8 ปีนายกฯ !!
อย่างที่รู้กันศาลรธน. ไทยท่านจะผสมหลักนิติศาสตร์กับรัฐศาสตร์ พลังอำนาจไทยอาจมีส่วนนำมาใช้ในการพิจารณาเหมือนกัน ทำให้สามารถออกมาได้ทั้งนั้น
อีกอย่างรู้ ๆ ไม่เป็นทางการว่า “บิ๊กป้อม” เป็นคนที่มีบารมีต่อคนในทุกองค์กรอิสระ จากปมแหวนแม่ นาฬิกาเพื่อน ที่ฝ่ายค้านต้องการชี้ให้เห็นถึง ความเป็นผู้มีอำนาจ – บารมีเหนือตำแหน่งเข้าไปแทรก แซงองค์กรอิสระ !!
แต่ที่นี้ภายใต้ระบบรัฐสภา แม้คะแนนความนิยมของ “บิ๊กตู่” ตกต่ำลง แต่ว่ายังคุมเสียงในสภาได้ เท่ากับรัฐบาลยังไปต่อ
ซึ่งปมปัญหาสำคัญของระบอบนี้ที่ทำให้ไม่มีเสถียรภาพ คือ ความแตกแยก...ที่มีร่องรอยให้เราเห็นตั้งแต่คุณธรรมนัส พรหมเผ่า แยกตัวจากพลังประชารัฐ – ข่าวความขัดแย้ง 2 ป. มันมีสัญญาณออกมาชัดเจนผ่านการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการอภิปราย แสดงว่ามันไม่มีความกลมกลืน ไม่แนบสนิทเหมือนเดิมแล้ว
สิ่งนี้เป็นเงื่อนไขทำให้รัฐบาลขาดเสถียภาพหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผสมโรงกับบทบัญญัติใน รธน. กำหนดว่านายกฯ ต้องดำรงตำแหน่งไม่เกิน 8 ปี ที่ครบ 24 ส.ค. 65 มันเลยทำให้สถานการณ์มีความเข้มข้นขึ้น
ถ้าบังเอิญศาลรธน.วินิฉัยว่า !??
1. สั่ง “บิ๊กตู่” ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ “บิ๊กป้อม” ก็ต้องมาเป็นนายกฯ รักษาการไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่นานจะหมดวาระของสภาแล้ว
2. สั่ง “บิ๊กตู่” ให้ทำหน้าที่นายกฯ ต่อไปได้จนกว่าศาลจะมีคำพิจารณา
อาจจะออกมารูปแบบใด รูปแบบหนึ่งต้องดูกันต่อไป !! ว่าพรรคเพื่อไทยจะยื่นหรือไม่ตามที่ประกาศไว้ แต่เท่าที่รู้ภาคประชาชนเตรียมการเคลื่อนเรื่องนี้แล้ว --//--
.
WhoChillDay
28 กรกฎาคม 2565
ขอบคุณที่เข้ามาติดตามอ่านทุกเรื่องราว
และทักทาย WhoChillDay นะคะ
#WhoChillDay #พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต
#บิ๊กตู่หยุดปฏิบัติหน้าที่ #นายกรักษาการ
#พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ #24สิงหาคม65

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา