31 ก.ค. 2022 เวลา 09:55 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
The Gray Man (2022)
Netflix 7/10
นี่เป็นการพักเบรคหนังหนัก ๆ เพื่อมาดูอะไรแบบไม่ต้องคิดมาก จริง ๆ หนังประเภทนี้ฉันมักจะเลือกดูในวันที่เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว อยากพักสมอง แบบที่ปล่อยให้ตาดู หูฟัง ไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องคิดวิเคราะห์มากความ ซึ่ง The Gray Man ตอบโจทย์
➖➖➖➖➖➖➖➖➖
10 Short Notes หลังดูจบแบบไม่สปอยล์ เพราะไม่รู้จะสปอยล์อะไร มันไม่มีอะไรเป็นความลับซับซ้อน
➖➖➖➖➖➖➖➖➖
1. นี่คือหนังนักฆ่า+สายลับตามสูตร พระเอกพูดน้อยต่อยหนัก หน้าตาไร้อารมณ์มีปมวัยเด็ก เก่งชิบหาย ทั้งสู้แบบประชิด ทั้งสู้ด้วยปืน ทั้งสู้ในอากาศ (โอ๊ยมึงจะเก่งไปไหน) แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเก่ง ฉลาดหลักแหลม อึดฆ่าไม่ตาย ดูเหมือนไร้หัวใจแต่แท้จริงอ่อนโยนเด้อ เอาล่ะพระเอกแบบนี้มึงชนะตัวโกงทั้งโลกนั่นแหละ
➖➖➖➖➖➖➖➖➖
2. หนังว่าด้วยองค์กร CIA ได้ผุดโปรแกรม เอานักโทษมาฝึกให้เป็นสายลับ พระเอกของเราแสดงโดย ไรอัน ก็อสลิง (Ryan Gosling) คือสายลับหนึ่งในนั้น มีชื่อประจำตัวว่า Six หรือหมายเลข 6
(มีแอบแซะตัวเองเล็กน้อยว่า 007 มีคนใช้ไปแล้ว เดี๋ยวค่ะ มึงตกเลขเหรอคะ เลข 7 มาหลังเลข 6 นะคะ จะบอกว่า 007 มีคนใช้ไปแล้วไม่ได้ค่ะ)
➖➖➖➖➖➖➖➖➖
3. ซึ่งคุณหมายเลข 6 เนี่ยจะถูกส่งให้ปฏิบัติการลับฆ่าคนชั่วทั้งหลายในโลกนี้ แต่แล้ววันหนึ่งคุณหมายเลข 6 ก็ได้ข้อมูลหลักฐานลับมาว่าถูกหลอกใช้โดยหัวหน้าระดับสูงในองค์กร ให้ไปทำงานที่ตรงกันข้าม ร้ายที่สุดคือให้ฆ่าพวกเดียวกันเองซะงั้น คุณหมายเลข 6 เลยต้องการเปิดโปง เปิดหน้ากากเผยความเลวมันออกมา เรื่องราวในเรื่องก็คือ อีหัวหน้าสั่งมือดีนักฆ่าอีกคนให้จัดปฏิการพิเศษ ไล่ล่าหมายเลข 6 เพื่อชิงหลักฐานนั้นมาให้ได้
➖➖➖➖➖➖➖➖➖
4. ตัวร้ายในเรื่องสร้าง Conflict ในใจฉันมาก เพราะใช้ตัวแสดงที่เป็นพระเอ๊ก พระเอกอย่าง Captain America (Chris Evans) ฉันใช้เวลาประมาณห้านาทีในการค่อย ๆ ปรับสมองตัวเองเพื่อลบภาพกัปตันอเมริกา
เอาล่ะ ว่ากันตามจริง คริส อีวานส์ ที่มารับบท ลอยด์ แฮนด์เซ่น นักฆ่าโรคจิต สามารถเปลี่ยนบุคลิคทางด้านการแสดงให้เชื่อว่าเป็นตัวร้ายได้ดีทีเดียว การติดหนวดเอย เสื้อผ้าเอย ท่าทางการเดินเอย การพูดการจาเอย ....โอเค ไม่ใช่กัปตันอเมริกาก็ได้ นั่นคือความสามารถของนักแสดงมืออาชีพที่เราต้องชื่นชม
➖➖➖➖➖➖➖➖➖
5. นางเอกของเรื่องคือ Ana de Armas เคยเล่นประกบกับ Ryan Gosling มาแล้วในเรื่อง Blade runner 2049 เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์โดยที่ยังไม่ต้องทำอะไรเลย แค่นั่งเฉย ๆ ปล่อยตากลมโตทำงานไปตามอารมณ์ แค่นั่งดูหน้าเธอก็เพลิดเพลินแล้ว นางเอกของเราเป็นสายลับของ CIA เช่นกัน แต่เป็นสายลับในหน่วยงานปกตินี่แหละ ไม่ใข่อดีตนักโทษเหมือนพระเอก และไม่ใช่นักฆ่าโรคจิตเหมือนตัวร้าย
เรื่องมันจับพลัดจับผลูให้นางต้องมาวุ่นวายด้วยก็เพราะ มันมีงานนึงที่เธอต้องร่วมมือกับพระเอก แล้วผลงานผิดพลาด นางถูกลงโทษไปด้วย นางก็เอะใจได้กลิ่นพิรุจ สุดท้ายนางก็ไปช่วยพระเอก เบื้องต้นแค่อยากให้พระเอกไปยืนยันกับองค์กรว่า นางไม่มีเอี่ยวกับความผิดพลาดนั้นเด้อ แต่ไป ๆ มา ๆ นางก็ร่วมหัวจมท้ายสร้างความวายป่วงไปกับพระเอกด้วย
พูดถึง Air Time ของนางเอกมีไม่เท่าไหร่ ทั้งยังมีบทบาทไม่มากนัก ทั้งที่จริง ๆ แล้วสามารถใส่เพิ่มเข้าได้อีก จะเรียกว่านางเอกฉันก็ยังกระดากปาก ทั้ง ๆ ที่เปิดตัวมาเฟียส ๆ คูล ๆ แท้ ๆ นางควรเคียงบ่าเคียงไหล่และได้แสดงแสนยานุภาพมากกว่านี้นะ นี่เสียดายความมีเสน่ห์ของนางที่คนเขียนบทและผู้กำกับไม่ค่อยแล แต่ได้ข่าวว่าจะทำภาคต่อ ต้องวอนขอคนเขียนบทให้ใช้งานนางมากกว่านี้หน่อย
➖➖➖➖➖➖➖➖➖
6. โดยรวมโทนหนังไม่ทำให้เราผิดหวัง การปะทะต่อสู้แบบประชิดตัว ออกแบบท่าทางได้รวดเร็วสวยงาม ส่วนตัวรู้สึกว่าไม่น่าเบื่อดี ภาพการขับรถไล่ล่ากันแม้ว่าจะเห็นมาจากหนังเป็นร้อยเรื่องแล้วก็ตาม ซึ่งปกติฉันจะกด fast forward ให้มันผ่าน ๆ ไป แต่คราวนี้ฉันเผลอดูไปเรื่อย ๆ แฮะ ซึ่งแปลว่ามันไม่แย่
ส่วนพระเอกสายลับซึ่งต้องอึดและตายยาก ก็ใส่ความเป็นมนุษย์ให้พอรู้สึกจับต้องได้นิดหน่อย เช่นหลังจากตกจากที่สูง มึงควรมีอาการจุกอกนะคะ เป็นคนธรรมดาก็ต้องนอนโรงยาเป็นเดือนค่ะ ในหนังก็มีให้เห็นว่ากระอักเลือดบ้าง มีเสียงโอดโอยบ้าง อ่ะแล้วก็ค่อยสู้ต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไปค่ะ
1
➖➖➖➖➖➖➖➖➖
7. หลายคนบอกว่าดูเรื่อง The Gray Man แล้วให้อารมณ์เหมือนดู John Wick รุ่นหนุ่ม ส่วนตัวรู้สึกว่าบารมีของหมายเลข 6 ยังไม่ได้ แม้พล็อตเรื่องจะเดินในเส้นทางเดียวกันเป๊ะ คือโดนรุมจากทุกทิศทาง แต่ John Wick มีสเกลที่ใหญ่กว่าและโดนรุมหนักกว่ามาก การรอดจากการโดนรุมสกรัมของ John Wick มันจึงเหนือกว่าอยู่สองหรือสามขั้น
แต่เอาจริง ๆ ฉันก็เพลิดเพลินในการดูคุณหมายเลข 6 มากกว่านะ ด้วยความหนุ่มกว่าและสดกว่าอ่ะเนอะ ดูพี่ John Wick มันจะแอบเจือความน่าสงสาร+สังเวชในสังขารและความชราลงไปด้วย โดยเฉพาะในภาค 3 ที่เริ่มหง่อมขึ้นทุกที
➖➖➖➖➖➖➖➖➖
8. นี่ฉันตัดเรื่องความสมเหตุสมผลออกไประหว่างดูบ้างแล้วนะ อะไรหยวนได้ก็หยวน แต่ก็จะเกิดอาการเอ๊ะ เป็นระยะ คือไม่ได้หมายความว่ามึงจะทำหนังสายลับยิงกันตะพึดตะพือแล้วคนจะทำหลับตากับเหตุผลของเนื้อเรื่องนะคะ อะไรที่อยู่บนพื้นฐานของ Logic ต้องอย่าให้มันหลุดเยอะ
ซึ่ง The Gray Man หลุดตลอดทาง แต่คนเขียนบทก็ไม่แคร์หรอก เพราะน่าจะให้น้ำหนักกับการใส่พาร์ทแอคชั่น การออกแบบคิวบู๊ ภาพการทำลายล้างแบบสวย ๆ อาร์ท ๆ ซึ่งอะไรแบบนี้มันเรียกคอหนังระเบิดภูเขา เผากระท่อม ดูเพื่อความสะใจ ดูแล้วจบกันไป
มันก็เลยทำให้ The Gray Man ไม่สามารถขึ้นไปอยู่ระดับเดียวกับ The Bourne Inentity หรือ James Bond 007 หรือแม้แต่ Jack Bouer จาก 24 ได้ - และฉันก็ไม่แปลกใจที่บางคนให้คะแนน The Gray Man แค่ 4/10 เท่านั้น
1
➖➖➖➖➖➖➖➖➖
9. เนื่องจากเรื่องนี้เป็นหนังสายลับ พระเอกจึงเดินทางไปหลายประเทศ เริ่มต้นที่ประเทศไทยด้วยนะ ซึ่ง Location นึงที่ฉันชอบก็คือกรุงเวียนนา เพราะหนังพาเข้าไปในอาคารที่ออกแบบโดย Hundertwasser ทำให้ฉันรำลึกถึงเมื่อสิบปีก่อนที่ไปเดินพิพิธภัณฑ์ของเขา แล้วอยากเห็นเหลือเกินว่าอาคารบ้านเรือนที่เขาออกแบบให้คนอาศัยนั้น ด้านในจะเป็นอย่างไร ซึ่งก็ได้เห็นในเรื่องนี้ ทำให้ฉันเพิ่มคะแนนให้อีก 1 คะแนนด้วยความพิศวาสส่วนตัว
➖➖➖➖➖➖➖➖➖
10. ชอบตัวประกอบอย่างอดีตหัวหน้า CIA อย่าง Alfre Woodard มาก นางเป็นหญิงผิวดำที่เล่นเรื่องไหนก็ใช้สายตาได้ดี เรื่องนี้ออกมาไม่ถึง 10 นาที แต่ออกมาทีไรขโมยความสนใจของทุกคนไปหมด อีกคนที่ไม่ได้เห็นมาสักพัก มาเล่นเป็นหัวหน้าเก่าของหมายเลข 6 คือ Billy Bob Thornton การได้เห็นเขาในจอ ก็เหมือนได้เจอเพื่อนเก่า บทบาทเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นี้ฉันก็ชื่นใจละ
➖➖➖➖➖➖➖➖➖
สรุปว่าเป็นหนังแอ็คชั่นที่ดูได้ เป็นหนังที่อย่าถามหาเหตุผลอะไรเยอะ ดูเอาสนุกกับฉากต่อสู้ตูมตามโครมครามก็เพลินอยู่นะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา