1 ส.ค. 2022 เวลา 02:45 • ปรัชญา
ทำงานให้มีความสุขเริ่มได้ที่เราเลือก
การทำงานก็เหมือนการเลือกคนรักเพราะเราจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับงานนั้นไปตลอด
เปรียบเสมือนการอยู่กับคนที่เรารักไปตลอด
เลือกถูกหรือผิดนั้น
ขึ้นอยู่กับงานเลยใช่ไหมคะ
ว่างานชิ้นนั้นทำให้เรามีความสุขไหมหรืองานชิ้นนั้นทำให้เรามีความทุกข์ไหมมันอยู่ที่เราเลือกเลย
แล้วการที่เราจะเลือกงานที่เรารู้ว่าทำแล้วมีความสุขได้อย่างไร
ก่อนอื่นเลยเราจะต้องรู้ก่อนว่าความสุขของเรามันอยู่ที่ตรงไหน
เคยได้ยินมั้ยคะเวลาที่เรามีความสุขเวลามันจะผ่านไปเร็วมากๆ
มันจะเพลิดเพลินมากๆ
แบบแป๊บเดียวหมดเวลาแล้ว
แต่ถ้างานใดก็ตามที่เราทำแล้วมันเกิดความรู้สึก
อึดอัด ทุกข์ใจ รู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้ามากๆเลยเมื่อไหร่จะหมดเวลางานสักทีนะ อันนี้เป็นความทุกข์แล้วค่ะ
หรือ งานงานนั้นกดดันมากแต่เวลาเดินผ่านไปเร็วมากอึดอัดมากเหนื่อยมากๆทรมานร่างกายทรมานจิตใจแต่เวลาก็ผ่านไปไวเพราะทำอะไรไม่ทันแต่ก็ไม่ได้มีความสุขอยากจะทำมัน อันนี้ก็ไม่ใช่ความสุข อีกเหมือนกันค่ะ
แม้ว่างานนั้นจะทำให้เวลาผ่านไปไวก็จริงแต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันคือความรู้สึกอึดอัดและกดดันค่ะ และความทุกข์ได้บังเกิดขึ้นในการทำงานค่ะ
หางานที่เราทำแล้วเรามีความสุขสนุกกับมันทำมันได้เรื่อยๆ
รู้สึกเพลิดเพลิน
เวลาผ่านไปไวมากๆ
มีความหลงใหลที่อยากจะทำอยู่เสมอนะคะ
ก็อย่างว่าแหละค่ะเวลาที่เราชอบอะไรเราก็อยากจะทำมันซ้ำๆไม่เบื่อเลย
อย่าง จิ้นพุริ้น เป็นคนที่ชอบฟังเพลงมากๆจนตอนนี้ จิ้นพุริ้น ก็ยังคงชอบฟังเพลง และไม่เคยหมดความหลงใหลในการฟังเพลงเลยค่ะ
ถ้าชอบฟังมากๆก็ต้องเป็นนักฟังได้นะคะ
อาชีพบนโลกใบนี้มันมีมากมายมากๆเลยนะคะลองค้นหาดูดีๆ
ศึกษาให้ลึกๆมันหลากหลายมากมากจนไม่สามารถที่จะบอกได้หมดเลยค่ะ
ขอแนะนำอย่างหนึ่งค่ะสิ่งหนึ่งที่มันจะเป็นความสุขของเราได้นั่นคือสิ่งที่เราทำมันได้ในชีวิตประจำวันและเราโหยหาอยากจะทำมันในทุกวันค่ะนั่นแหละค่ะคือความสุข
มันไม่เหมือนสมัยก่อนแล้วนะคะ
ที่มีอาชีพเพียงแค่ไม่กี่อาชีพที่เมื่อก่อนนี้ตอนเด็กๆเรานั้น พอครูถามว่าในอนาคตอยากเป็นอะไร ส่วนใหญ่ นึกออกเพียง แพทย์ ครู พยาบาล ตำรวจ นักร้อง ฯลฯ ไม่ค่อยมีหรอกค่ะอาชีพที่แอดวานซ์ในยุคสมัยนี้
แต่ในสมัยนี้นั้นโลกพัฒนาไปมากมีสาขาอาชีพที่แตกแขนงแยกย่อยออกไปมากมายจากที่มีแค่อาชีพตำรวจก็อาจจะมีอาชีพผู้ช่วยตำรวจหรือผู้ช่วยพยาบาลผู้ช่วยนักร้องเป็นต้นค่ะ
เมื่อเรารู้แล้วว่า สิ่งไหนที่เราทำแล้วมีความสุขและเพลิดเพลินอยากจะทำมันอีกเรื่อย ไม่หมดความหลงใหล
แล้วชีวิตเราก็จะมีความสุขในการทำงานมากๆเลยค่ะ
พอรู้แบบนี้แล้วก็รีบค้นหาความต้องการของตนเองให้เจอนะคะเพราะว่า
ในช่วงชีวิตของคนเรานั้นทำงาน 8 - 9 ชั่วโมงต่อวัน
โดยเฉลี่ยแล้วในหนึ่งวันนั้นมี 24 ชั่วโมง ก็จริง
แต่อย่าลืมว่าใน 24 ชั่วโมงนั้นเราต้องนอนไปอีก 9 ชั่วโมง เลยนะคะ
(มนุษย์ควรนอนให้ได้อย่างน้อย 9 ชั่วโมงต่อวันนะคะ)
9+9 = 18
หนึ่งวันมี 24 ชั่วโมง
24-18 = 6 ชั่วโมง
ทีเหลือแค่ 6 ที่เราจะสามารถทำอะไร
นอกเหนือจากงานและการนอนหลับพักผ่อน
อ๋อแล้วก็ใน 6 ชั่วโมงนี้ ก็เป็นช่วงเวลาที่เราจะต้อง กินข้าว อาบน้ำ แต่งตัว ขับรถ เดินทางไปทำงาน พบปะพูดคุย เข้าสังคม กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า ล้างจาน ขัดห้องน้ำ
ที่เหลือก็ทำอะไร ที่อยากทำนอกเหนือจากงานที่ทำ
ใช้เวลานี้หาสิ่งใหม่ๆในชีวิตให้ไม่น่าเบื่อเกินไปก็ได้ อย่างไปเที่ยวผจญภัยมองเห็นโลกใบใหม่ในมุมมองที่แตกต่าง ก็ได้นะคะ
เห็นไหมคะพอมาคิดแบบนี้แล้ว เวลาน้อยมากๆ
เราก็ควรที่จะหางานที่ทำแล้วเรามีความสุขในทั้ง 9 ชั่วโมงนั้น
เพราะหากเราจะหาความสุขเพียงไม่ถึง 6 ชั่วโมงต่อวัน
สักวันก็จะเกิดคำถามอีกว่า
ทำยังไงถึงจะมีความสุขในการทำงาน
อาจจะคิดว่า ที่ จิ้นพุริ้น บรรยายมามันดูง่าย จะบรรยายอะไรออกมาก็ได้
โลกสวยเกินไปแล้วใช่ไหมคะ
แต่ท่านผู้อ่านก็อย่าลืมนะคะ
ว่าที่ท่านผู้อ่านต้องทำงานก็เพื่อที่จะหาความสุขให้ท่านผู้อ่านเอง
ไม่ใช่ว่าท่านผู้อ่านทำงานเพื่อหาความทุกข์มาเติมเต็มชีวิตนะคะ
อย่าลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงของการทำงานสิคะ
จริงๆเราสามารถที่จะมีความสุขได้ตั้งแต่วินาทีนี้เลยนะคะไม่ใช่ว่าเรารวยแล้วเรามีเงินแล้วเราถึงจะมีความสุขเวลามันผ่านไปไม่รอเรา นะคะ
เราจะทุกข์หรือเราจะสุข
เวลามันก็ไม่ได้หยุดเดินนะคะ
มันก็เดินของมันไปเรื่อยๆ
หาความสุขในทุกๆวินาที
ยังจะดีซะกว่ารอมีความสุขทีเดียวนะคะ
ถึงตอนนั้นความสุขที่เราคิดว่าเป็นความสุขอาจจะไม่ใช่ความสุขจริงๆก็ได้นะคะ
อย่างเราคิดว่าถ้าเรามีเงินมีบ้านมีครอบครัวแล้วจะทำให้เรามีความสุข
แต่ในความเป็นจริงแล้วการมีบ้านนั้นเป็นภาระในชีวิตมากๆ ต้องซ่อมต้องบำรุงรักษา และการมีครอบครัวก็ทำให้เราเกิด ห่วงของความทุกข์ เพราะเราเป็นห่วงลูกมากๆ
กลัวว่าลูกจะไม่ปลอดภัยเป็นต้นค่ะ
อาจใช่ ว่าการทำงานนั้นทำให้ได้เงิน เพื่อนำเงินที่ได้มาซื้อความสุขให้ตัวเอง
แต่ลองนึกถึงคนที่มีเงินแล้ว มีมากมากจนไม่รู้จะเอาไปทำอะไร
เขาอาจจะยังไม่สามารถซื้อความสุขให้ตัวเองจริงๆได้เลย
เพราะความสุขจริงๆแล้วไม่ได้อยู่ที่เงินตรา ราคา หรือสิ่งใด
ความสุขนั้นเกิดได้ทุกที่และอยู่ในหัวจิตหัวใจของเราค่ะ
คนบางคนมีความสุขที่จะได้ใช้ของเก่า เพราะการที่ใช้ของเก่าชิ้นนั้นทำให้นึกถึงแต่เรื่องดีๆที่เกิดขึ้นกับของชิ้นนั้นก็ได้
คนบางคนซื้อกระเป๋าราคาแพงมากใบเป็นแสน แล้วในทุกคืนต้องมานอนเครียดคิดมากว่าโจรจะมาขโมย กระเป๋าไปหรือเปล่า
หรือเครียดคิดมากที่ใช้กระเป๋าแล้วต้องมากลัวว่ากระเป๋าจะเสียรูปทรง
อย่าลืมจุดประสงค์ของการใช้กระเป๋านะคะ
มันอาจจะทำให้เราดูดีในสายตาสังคมแต่มันก็เท่านั้นแหละค่ะท้ายที่สุดแล้วคนเราจะคบกับใครได้นานนานนอกจากผลประโยชน์แล้ว
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้คบกันได้นานก็คือความจริงใจ ความเชื่อใจ ความซื่อสัตย์นะคะ
หากขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปก็จะเกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกันและเกิดความระแวงสงสัยในการและกันและนำมาซึ่งการแตกหักความสัมพันธ์ในที่สุดค่ะ
มองหาความสุขที่จะอยู่กับเราได้นานนานดีกว่า
หาความสุขที่อยู่กับเราได้แป๊บเดียว
เราที่เหลือเป็นความทุกข์นะคะ
เพราะฉะนั้นงานใดใดที่ท่านผู้อ่านทำแล้วรู้สึกอึดอัดกดดันอยู่แล้วทุกข์อยู่แล้ว ไม่มีความสุขก็ออกมาเถอะนะคะ
ท่านผู้อ่านน่ะมีความสามารถและมีคุณค่าในตัวของท่านผู้อ่านอยู่แล้วนะคะ
ค้นหาคุณค่าของท่านผู้อ่านให้เจอเถอะค่ะ
จะได้รู้ว่าความสุข ในการทำงานของท่านผู้อ่านคืองานใด
จะได้ไม่เสียเวลาไปทำงานให้ตัวเองเกิดความทุกข์นะคะ
ชีวิตหนึ่งมันสั้นมากๆเลยพรุ่งนี้อาจจะไม่มีก็ได้
อย่าคิดเลยค่ะว่าพรุ่งนี้มี
พรุ่งนี้อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ใครก็คาดไม่ถึงเลยก็ได้
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้เสมอ
อย่างโรคระบาดที่เกิดขึ้นก็ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้นได้
จู่ๆก็เกิดขึ้นเห็นมั้ยคะ
พรากชีวิตคนไปมากมายเลย
อะไรก็เกิดขึ้นได้ไม่มีอะไรแน่นอนหรอกค่ะ
สิ่งที่เราสามารถควบคุมได้มาตลอดนั่นคือจิตใจของเราเองนะคะ
จะคิดให้มันสุขมันก็สุขใจคิดให้มันทุกข์ มันก็ทุกข์อะค่ะ
แล้วในโลกใบนี้มีงานมาก็เพื่อที่จะทำให้มีการเอื้อเพื่อให้มนุษย์ได้ดำรงอยู่ต่อไป
เพราะมนุษย์ต้องการปัจจัย 4
มาดำรงชีวิตและสืบสายพันธุ์ให้มนุษย์คงอยู่ต่อไป
ปัจจัย4 คือ
อาหาร
ที่อยู่อาศัย
เครื่องนุ่งห่ม
ยารักษาโรค
เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติ
คนเราก็เริ่มมาจากเกิดกันทั้งนั้นแหละค่ะ
ไม่มีใครอยู่บนโลกใบนี้แล้วแก่เลยเนอะ
ทุกคนก็ผ่านวัยเด็กกันมาหมดแล้วทุกคน
ใช้ว่าผู้ใหญ่ทุกคนจะไม่เคยเป็นเด็กนะคะ
เป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว
สู้สู้นะคะหาความสุขของตัวเองให้เจอ
เมื่อวันหนึ่งเราตายไปเราก็จะไม่เสียดายที่ในชีวิตของเรานั้น
เราได้สร้างความสุขให้ตัวเองได้
และมีความสุขกับมันจริงๆค่ะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านนะคะ
ขอให้บทความนี้เป็นข้อคิดหรือคติเตือนใจในชีวิตประจำวันให้ท่านผู้อ่านได้มีความสุขในทุกวันนะคะความสุขเริ่มได้ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปอยู่ที่เราจะคิดยังไงนะคะมองหาความสุขในชีวิตเถอะค่ะ
ใครจะไปรู้นั่งอ่านบทความอยู่แบบนี้ อาจจะมีคนมาบอกข่าวดีกับเราให้เรามีความสุขมากขึ้นไปอีกก็ได้ค่ะ😊
ความสุขเริ่มต้นได้ที่ หัวจิตหัวใจของท่านผู้อ่านนะคะ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งอื่นสิ่งใดเลย สิ่งอื่นสิ่งใดเป็นที่เพียงส่วนร่วมของความรู้สึกเท่านั้นนะคะ
JINNPUURINNจิ้นพุริ้น
JINNPUURINN
จิ้นพุริ้น
🤍
โฆษณา