2 ส.ค. 2022 เวลา 00:02 • คริปโทเคอร์เรนซี
ทำไมผมถึงเขียนเรื่องคริปโต ตอนที่ 4 “The Power of Mutability”
ในขณะที่โลกกำลังตื่นเต้นกับบล็อกเชน และคุณสมบัติที่ทำให้ธุรกรรมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้นั้นว่ามันเป็นคุณสมบัติที่สุดยอด จริง ๆ แล้วโลกของเรามันก้าวข้ามมันไปนานแล้ว และการที่อะไรมันสามารถเปลี่ยนได้ บางครั้งมันนำอะไรที่ดี ๆ มาสู่โลกตั้งมากมาย
  • กฎหมาย
ประมาณ 1700 ปีก่อนคริสตกาล Code of Hammurabi เป็นกฎหมายที่ใช้นโยบายตาต่อตา ฟันต่อฟัน ในการลงโทษผู้ทำผิดกฎหมายในช่วงสมัยที่ Hammurabi กษัตริย์องค์ที่หกของราชวงศ์ First Babylonian ปกครองประเทศอยู่ พระองค์อ้างว่าได้กฎเหล่านี้มาจาก Shamash เทพแห่งความยุติธรรม และได้จารึกกฎเหล่านี้ไว้ในหิน (Carved in stone) และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (https://www.worldhistory.org/Code_of_Hammurabi/)
ซึ่งในปัจจุบันนี้ กฎหมายเหล่านั้นถึงแม้จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ก็ไม่ได้ถูกใช้แล้ว เพราะมันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมกับสภาพของสังคมที่เปลี่ยนไป
2
กฎหมายในทุกวันนี้จึงสามารถเปลี่ยนแปลง เพิ่ม ลด แก้ไข ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ จึงสามารถรองรับสิ่งใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นได้อยู่เสมอ
1
ต่างกับ Smart Contract ซึ่งเดิมทีอ้างว่า Code is law แต่ในภายหลังคนที่เพิ่งจะเข้าใจว่า Smart Contract มันไม่ได้สมบูรณ์แบบ บางครั้งมันอาจจะมีจุดบกพร่อง ก็ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขมัน พอบางทีอ้างว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ผู้ที่ต้องรับผลกรรม ก็คือนักลงทุนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ที่ลงทุนนั่นเอง
2
พอในภายหลัง Smart Contract ที่อยู่บน Ethereum จึงมีผู้ทำสิ่งที่เรียกว่า Upgradable Smart Contract (https://docs.openzeppelin.com/upgrades-plugins/1.x/proxies)
2
เพื่อเปิดโอกาสให้ Smart Contract ถูกแก้ไขได้ เพื่อปิดจุดอ่อน เช่น bug หรือ vulnerability แต่สร้างปัญหาอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย (https://blog.trailofbits.com/2018/09/05/contract-upgrade-anti-patterns/)
1
  • รายการทางบัญชี
การทำบัญชีต่าง ๆ ในอดีต หากอ้างว่า ควรจะบันทึกแบบไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทำไมโลกเราตลอดนับพันปีที่มีการจดบันทึกบัญชีกัน ถึงไม่ทำให้เป็นแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่ทำมันได้ สาเหตุก็มีหลายประการด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เวลาเกิดข้อผิดพลาดขึ้น เราต้องสามารถแก้รายการให้ถูกต้องได้นั่นเอง ซึ่งความผิดพลาดก็มักจะเกิดขึ้นเสมอ ๆ
1
ส่วนเรื่องที่ว่า การทำให้ข้อมูลบัญชีนั้นถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้นั้น ทำให้เกิการฉ้อโกงได้นั้น จริงอยู่ มันอาจจะมีความจริงอยู่บ้าง แต่มันมีวิธีที่ดีกว่าที่โลกของนักบัญชีได้แก้ไขปัญหาเหล่านั้นไปแล้ว เช่น การจดบันทึกบัญชีคู่ (Double-entry bookkeeping) ทำให้การลงบัญชีต้องมีอีกหนึ่งรายการที่มายันกัน
2
ซึ่งลดข้อผิดพลาด และการทุจริตได้ นอกจากนั้นการปิดบัญชียังเป็นเสมือนการบันทึกจุดหยุดเป็นช่วง ๆ ทำให้หลังการปิดบัญชีไปแล้ว ข้อมูลนั้นจะไม่เปลี่ยนแปลงอีก ซึ่งก็ช่วยลดปัญหาเหล่านั้นได้ดีอยู่แล้ว
2
  • รายการทางการเงิน
ชาวคริปโตมักจะอ้างข้อดีของการที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลในบล็อกเชนได้ว่าเป็นเรื่องดี เพราะทำให้รัฐบาลไม่สามารถยึดทรัพย์สินได้ หลาย ๆ คนถูกกล่อมให้เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องดี
ในความเป็นจริงแล้ว ประชาชนที่ดี ที่อยู่ในประเทศที่มีรัฐบาลที่ดีในระดับหนึ่ง แทบจะไม่ต้องเป็นห่วงกับเรื่องดังกล่าวเลย คนที่ไม่ดีสิ ถึงเป็นคนต้องกังวลในเรื่องดังกล่าว คนที่ดีควรจะคิดว่า หากรัฐบาลตรวจพบคนไม่ดี ค้าอาวุธ ยาเสพติด การที่มีช่องทางให้ยึดทรัพย์ ติดตาม และลงโทษคนเหล่านั้นได้ มันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับสังคมมากกว่า
4
ส่วนคนร้ายที่โกงเงิน อย่างเรื่องของเงินหายจากบัญชี หรือแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ หากธนาคารตรวจสอบติดตามได้ทัน ก็สามารถที่จะย้อนธุรกรรมเหล่านั้นกลับได้ ทำให้คนร้ายไม่ได้เงินไปอย่างที่หวังนั่นเอง
1
ในระบบที่ดี และผู้ใช้ที่ดี การที่ข้อมูลถูกเปลี่ยนแปลงได้จึงเป็นกลไกหลักในการทำให้คนดีมีต้นทุนต่ำ และคนเลวมีต้นทุนสูง และขับไล่คนเลวออกจากสังคมไป ส่งผลให้สังคมนั้นสามารถดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1
การออกแบบระบบที่ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ จนไม่สามารถโอนเอียงเพื่อยังประโยชน์ให้คนดี คนสุจริตได้ ในขณะเดียวกันในกรณีที่มีผู้กระทำผิดก็ไม่สามารถย้อนธุรกรรมเหล่านั้นได้ จึงเป็นเหมือนการปฏิเสธความรับผิดชอบที่พึงมีต่อสังคมนั่นเอง
4
และหากจะใช้ข้ออ้างว่า เรามีระบบที่ดี และมีคนที่ดีมากกว่าคนเลวมาก ๆ ไม่ได้ เราควรเอาเวลาและพลังที่มีนั้นไปแก้ปัญหาสังคมและระบบจะดีกว่าไหม แทนที่จะยอมแพ้ให้กับระบบที่ไม่ดี และหันไปใช้ระบบที่ปฏิเสธความรับผิดชอบในการทำสังคมให้ดีแทน?
3
และด้วยสาเหตุเหล่านี้ ผมจึงค่อย ๆ เกิดความสงสัยในจุดขายของบล็อกเชน และคริปโตต่าง ๆ ว่ามันเป็นเรื่องดีจริง ๆ หรือ?
4
สามารถติดตามตอนอื่นๆ ได้ที่ซีรีย์ “ทำไมผมถึงเขียนเรื่องคริปโต”

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา