3 ส.ค. 2022 เวลา 04:43 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
พี่ภพคลั่งรัก เมธัสนักข้ามกาลเวลา และเกสรผู้ไม่เชื่อเรื่องบุพเพสันนิวาส [8/10]
1
เชื่อว่าผู้สร้างภาพยนตร์ต้องมีความกดดันไม่น้อยกับการหยิบผลงานที่เคยประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มาดัดแปลงและเขียนขึ้นใหม่โดยเชื่อมโยงให้อยู่ในจักรวาลเดียวกัน
“บุพเพสันนิวาส” เล่าถึงความผูกพันธ์ข้ามกาลเวลาที่ถูกกำหนดให้คู่กันในทุกชาติไป แต่คราวนี้คนข้ามเวลาไม่ใช่ทั้งพี่โป๊บและเบลล่า
กิมมิคการข้ามเวลานั้นถูกใส่ผ่านตัวละคร “เมธัส” รับบทโดย “ไอซ์-พาริส” หนุ่มวัยรุ่นที่กำลังขายสมบัติเก่าของต้นตระกูล แต่ดันย้อนเวลามา 177 ปีโดยไม่ตั้งใจ และต้องมาพบกับบรรพบุรุษของตัวเอง
มาที่เนื้อเรื่องคร่าวๆ ใครที่ยังไม่ดูก็สามารถอ่านได้ค่ะ
เรื่องราวในภาพยนตร์ดำเนินอยู่ในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ราวๆสมัยรัชกาลที่ 3 “ภพ” (รับบทโดยพี่โป๊บ)หนุ่มนายช่างฝีมือดีที่เฝ้าฝันถึงเนื้อคู่บุพเพสันนิวาสของตนเองมาตลอด
GDH
“ภพ” ตัดสินใจถอนหมั้น “เกสร” (รับบทโดยเบลล่า) สาวหัวสมัยใหม่ที่วันๆสนใจแต่ที่จะเรียนรู้เรื่องวิทยาการ ประวัติศาสตร์และภาษาต่างชาติจากบาทหลวงปาลเลอกัวซ์
จนกระทั่งได้พบหน้ากัน พี่ภพจึงรู้ตัวว่าได้ทำพลาดไป เพราะนางในฝันของเขานั้น…
ก็คือ “เกสร” นั่นเอง
GDH
เกิดอาการ ”พี่ภพ” คลั่งรักตามจีบ “แม่เกสร” อยู่ทุกวี่วัน ส่วน “เกสร” นั้นกลับไม่เชื่อเรื่องบุพเพฯและคิดว่าภพตกหลุมรักใครที่ไม่ใช่เธอ
ทางด้าน “เมธัส” ที่จับพลัดจับผลูมาใช้ชีวิตผิดยุค ก็ถูก ”เกสร” จับได้ว่าเกี่ยวข้องกับการข้ามเวลา เนื่องจากเขาใช้ภาษาแปลกๆคล้ายคลึงกันกับภาษาในบันทึกของ “คุณหญิงการะเกด”(เบลล่าเวอร์ชั่นบุพเพสันนิวาสภาคละครโทรทัศน์) ที่ดูเหมือนจะข้ามเวลามาเช่นกัน
GDH
ช่วงเวลานั้นสถานการณ์ในกรุงรัตนโกสินทร์เริ่มมีกลิ่นไม่ชอบมาพากล พี่ภพ เกสร และเมธัสจึงต้องเข้าปกป้องบ้านเมืองและรักษาประวัติศาสตร์ของตนเอง
🌼:::::::จุดที่ชอบ:::::::🌼
📍เป็นภาพยนตร์ที่สามารถดูได้ทุกเพศ ทุกวัย ย่อยง่าย ไม่ต้องตีความเยอะ และใส่มุกตลกไม่หยาบคายตามสไตล์ GDH ตอนที่นั่งชมยังได้ยินเสียงเด็กหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเลยค่ะ
1
ว่าแต่….เด็กหัวเราะตอนที่ทั้งโรงกำลังอยู่ในความเงียบนะคะ ไม่แน่ใจว่ามีเด็กจริงไหม แล้วคนอื่นได้ยินหรือเปล่า เอ๊ะ เล่าไปเดี๋ยวเรื่องราวมันจะหักมุม
1
หยุดตรงนี้ก่อน 🤣
ขอสรุปประเด็นนี้ว่าเด็กและผู้สูงอายุดูได้ไม่มีพิษมีภัยค่ะ
📍สำหรับคนที่ไม่เคยดูภาคละครโทรทัศน์มาก่อนก็สามารถทำความเข้าใจได้ บทภาพยนตร์ยังผูกกิมมิคเรื่องการย้อนเวลา และหาจุดจรดกันของคำว่า “บุพเพสันนิวาส” ได้อย่างลงตัว โดยใช้ฉากหลังเป็นเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ไม่หนักและไม่เบาจนเกินไป
📍มีการใส่บุคคลในประวัติศาสตร์จริงเข้าไปในภาพยนตร์ถึง 4 ท่าน ได้แก่
“สุนทรภู่” กวีเอกของไทย,
“หมอบรัดเลย์” มิชชันนารีชาวอเมริกัน,
“บาทหลวงปาลเลอกัวซ์” หมอสอนศาสนา
และ “นายห้างหันแตร” เจ้าของห้างแห่งแรกในประเทศไทย
อยากให้ไปดูกันค่ะว่าในภาพยนตร์จะแต่งเรื่องราวให้ทั้ง 4 ท่านนี้เกี่ยวข้องกับพี่ภพ เมธัส และแม่เกสรอย่างไร
📍มนต์กฤษณกาลีที่เป็นต้นเรื่องของบุพเพสันนิวาสภาคละคร ยังถูกนำมาใช้อีกครั้ง ทำให้เรารู้สึกถึงการโลดแล่นอยู่ในจักรวาลเดียวกัน เมื่อไอเทมสำคัญได้ปรากฏขึ้น แต่จะใช้ออกมาในรูปแบบไหนให้ไปชมเองนะ
1
📍สำหรับใครที่ชอบเคมีพี่โป๊บ-เบลล่ารับรองว่าไม่ผิดหวังเพราะทั้งคู่นั้นเข้ากันได้เป็นอย่างดี ดูไปก็อาจจะเผลอยิ้มตาม เตรียมส่งต่อเคมีนี้ในเรื่องพรหมลิขิตได้เลย วิ้วววว
📍การมีอยู่ของเมธัส (ไอซ์-พาริส) ส่งเสริมให้เรื่องราวมีสีสันมากขึ้น และคุมโทนความคลั่งรักของพี่ภพไม่ให้หวานเลี่ยนจนเกินไป
🌼:::::::จุดที่น่าเสียดาย:::::::🌼
📍พอกลายมาเป็นภาพยนตร์ ความเข้มข้น ความต่อเนื่องของอารมณ์และความละเมียดละไมในแบบของบทละครนั้นหายไปหมด ถ้าเทียบกันแล้วส่วนของภาพยนตร์เป็นเหมือนน้ำจิ้มที่ตอกย้ำความเชื่อเรื่องบุพเพสันนิวาส และนำไปสู่การรอชมละครบุพเพสันนิวาสภาค2 อย่าง “พรหมลิขิต” มากกว่า
2
จริงๆพอเขียนถึงตรงนี้ยังอยากกลับไปดูละครบุพเพฯภาคละครอีกรอบเลย ถ้าดูอีก = รอบที่ 3 แล้วนะคะ 😆
📍มีนักแสดงมากฝีมือมาสร้างสีสันหลายคน แต่น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไร ทางนี้ชอบพี่ปี่ (รับบทโดยคุณปุ๊กกี้) ,สุนทรภู่ (รับบทโดยคุณรุจแห่งเนื้อคู่ประตูถัดไป) และคุณกิ๊ก-สุวัจนีในบท คุณแม่ของพี่ภพ
📍โดยเฉพาะตอนเห็นพี่กิ๊ก-สุวัจนี ปรากฏตัว ทางนี้คือขำล่วงหน้าไปแล้วค่ะ ถ้าย้อนกลับไปสมัยบุพเพสันนิวาสภาคละคร เกศสุรางค์ในร่างแม่การะเกด(เบลล่า) เคยล้อเลียนท่าถลึงตาปากคว่ำของพี่กิ๊กสุวัจนี ทางนี้เลยแอบคาดหวังว่าเมื่อเชิญตัวจริงมาเล่นแล้ว จะได้เห็นพี่กิ๊กปล่อยของออกมาอีก แต่ทว่าบทพี่กิ๊กมาแค่ไม่กี่ฉากเท่านั้น
ฉากปากคว่ำในตำนาน
📍ฉากแอคชั่น กลายเป็นฉากคอมเมดี้ คิวบู๊ไม่เท่ ทั้งไอซ์พาริสทั้งพี่โป๊บกลายเป็นตัวตลกไปแล้ว หรือแม้กระทั่งตัวร้ายก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว คิวบู๊โดยรวมจืดไปเลยค่ะ
📍จุดน่าเสียดายที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาภาพยนตร์ คือ
ซื้อตั๋วหนังด้วยโปร มา 2 จ่าย 4 ‼️
อ่านไม่ผิดค่ะ….😓
2
เม้าท์ก่อนว่า ก่อนจะดูหนังทางเราก็นัดกับ…(ขอเรียกคุณพี่ละกัน)ไว้เรียบร้อย เพื่อความสะดวก คุณพี่ของเรานั้นจองตั๋วล่วงหน้า แคปจอมาอวดอย่างดี
แต่เมื่อไปถึงหน้าโรงภาพยนตร์เพื่อขอรับบัตรก็ได้รู้ว่าที่จองมานั้น คือรอบของเมื่อวาน
มันเป็นเวลาเดียวกันของเมื่อวานค่ะทุกคน
และถ้าจะดูต้องซื้อใหม่เท่านั้น
1
🥲
สรุป คุณพี่ก็จ่ายรวมไป 4 ที่นั่งจุกๆ จะโอนช่วยก็ไม่รับค่ะ
1
ถือว่าอุดหนุนหนังพี่โป๊บเบลล่า เป็นกำลังใจให้คนทำหนังในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคือง ขอให้ไปสู่ 200 ล้านไวไว
…หรือว่าถึงแล้วนะ…??
เป็นคนจนที่เปย์คนรวยอีกแล้ว
1
💕:::::::สรุปอีกครั้ง:::::::💕
โดยรวมภาพยนตร์ดี เป็นหนังครอบครัว พล็อทสนุก เน้นไปทางคอมเมดี้ แม้จะไม่ถึงขั้นตลกเอิ๊กอ๊ากตลอดทาง แต่ก็มีมุมอมยิ้มพอให้เพลิดเพลินไปกับเรื่องราวตรงหน้าได้ ลองไปดูแบบปล่อยใจโล่งสบาย อย่าคาดหวังสูงเพราะละครต้นฉบับทำมาตรฐานไว้สูงมากทีเดียวค่ะ
ความยาวภาพยนตร์ 166 นาทียังไม่รวมโฆษณา
ถือว่าเป็นภาพยนตร์ไทยอีกเรื่องที่อยากชักชวนให้ไปดูในโรงฯ
สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ
โฆษณา