7 ส.ค. 2022 เวลา 00:00 • หนังสือ
เราทำงาน อย่าปล่อยให้งานทำเรา
1. ในโลกยุคที่มีทุกสิ่ง มีความสะดวกสบายมากกว่าทุกยุคที่เคยมา และทุกอย่างดูเร่งรีบ เวลาทุกนาทีต้องถูกใช้ไปอย่างมีค่าเพื่อได้อะไรตอบแทนกลับมา เรารู้ตัวหรือไม่ว่าเรากำลังสูญเสียอะไรบางอย่างไปเช่นกัน นั่นคือ เวลาคุณภาพที่เราจะได้จากความเชื่องช้า โอกาสที่เราจะคิดไปเรื่อยเปื่อย (ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์ และ การเติมพลังทางความคิด ที่ได้จากการหยุดและไม่ทำอะไรเลยเป็นการเฉพาะเจาะจง
2. โลกที่ทุกอย่างเชื่อมต่อกันติดทุกสิ่ง ผลักดันให้เราเชื่อมต่อกับโลกโดยไม่ว่าจะด้วยความเต็มใจหรือหลงเข้าไปไม่มีโอกาสได้หยุดพัก ผลสุดท้ายคือเราทุกคนเครียดและกังวลมากขึ้น
3. Fear of Missing Out (FOMO) ความกลัวที่จะพลาดอะไรบางอย่าง คือสาเหตุที่ทำให้เราหยุดตัวเองจากมือถือไม่ได้ เพราะเรากลัวที่จะพลาดข้อมูลบางอย่าง พลาดการตอบคำถามของเพื่อนที่ทักมา หรือกลัวพลาดที่จะได้แสดงตัวตนออกไปให้ผู้อื่นได้รับรู้
4. ความรู้สึกที่แท้จริงเบื้องหลัง FOMO คือ เรากลัวความเหงา โดดเดี่ยว ไมมีอะไรมากไปกว่านั้น
5. ยิ่งเรามีระบบการประเมินคุณค่าของเวลาจากสิ่งที่ได้รับตอบแทน (เวลา = เงิน) เรายิ่งทำให้ทุกอย่างยากขึ้น จังหวะและความเครียดจากการทำงานจะส่งผลถึงทุกด้านในชีวิตของเรา เราจะอุทิศเวลามากกว่า 12 ชั่วโมงต่อวันไปกับงานลองคิดดูว่าในแต่ละวัน เรามีโอกาสใช้เวลาไปกับเรื่องอื่นใดบ้างที่เจ้านายไม่ได้สั่ง
6. ความคิดที่ดีที่สุดของคนเรา จะเกิดขึ้นตอนเรานั่งเฉยๆ หรือได้เดินคิดไปเรื่อยๆ โดยไม่มีข้อจำกัดของเวลา
7. สมองแต่ละส่วนของคนเราทำงานต่างกันแต่เชื่อมโยงถึงกัน เช่นสมองส่วนคิดเจาะจง (Focus) กับสมองส่วนคิดล่องลอย (free associated) 2 ส่วนนี้จะทำงานสลับกัน และจะดีที่สุดคือปล่อยให้มันได้ทำงานทั้งคู่ ผ่านการให้เวลาตัวเองได้คิดอะไรแบบไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาบ้าง หลังจากที่แต่ละวันเราจำกัดตัวเองมาตลอดแล้ว
8. การเชื่อมต่อตัวเองกับโลกอินเตอร์เนตตลอดเวลาส่งผลกระทบอันตรายต่อความคิดสร้างสรรค์ การแสดงออกทางอารมณ์ ปฏิกิริยาตอบสนองตอสิ่งรอบตัว
9. เมื่อเราปิดเครื่อง จิตใจของเราจะได้รับการปลดปล่อยจากพันธนาการของสิ่งกระตุ้นรอบตัว
10. ในโลกการทำงานและธุรกิจ การปิดเครื่องถือเป็นสิ่งไม่สมควร แต่ในทางชีวิตและจิตใจ การปิดเครื่องคือสิ่งที่ควรทำเพื่อชำระล้างจิตใจเพิ่มพลังสงบนิ่งให้สมอง การไม่ปิดเครื่องเลยจะส่งผลกับเราเหมือนการอดนอน
11. ลองใช้ชีวิตบางวัน บางช่วงแบบไม่ดูนาฬิกาบ้าง เราจะพบความรู้สึกสงบนิ่งข้างในอย่างน่าประหลาดใจ ทุกอย่างจะดูช้าลง ปัญหาที่ค้างคาจะกลายเป็นง่ายขึ้น
12. แนวคิดของการอยู่เฉยๆ เพื่อใช้เวลาครุ่นคิดและฟื้นฟูจิตใจ ปล่อยให้ตัวเรามีเวลาใช้ความคิดได้นานเท่าที่เราต้องการ ไม่ควรถูกมองว่าเป็นการเสียเวลา แต่ควรมองว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการเติบโตในฐานะมนุษย์
13. เราควรกำหนดชีวิตในบ้านให้มีชั่วโมงถอนตัวออกจากโลกต่อติด ส่วนที่ทำงานก็ควรมีห้องเงียบให้พนักงานเข้าไปนั่งพักผ่อนตัวเอง
14. การเปลี่ยนนิสัยจิต จากที่เคลื่อนไหวทำงานตอลดเวลาให้หัดหยุดพักอยู่เฉยๆ เป็นเรื่องจำเป็นต้องทำ เพราะจะส่งผลดีระยะยาวและสร้างความแตกต่างระหว่างผู้ที่ฝึกกับไม่เคยฝึกได้อย่างเห็นได้ชัด
15. การฝึกจิตที่ง่ายที่สุดและทำได้ทันที คือการรู้จักอยู่เฉยๆ ไม่คิด ไม่ทำ ไม่เชื่อมต่อตัวเองกับโลกภายนอก แค่ปิดเครื่องทุกชนิดแล้วอยู่เฉยๆวันละ 10-15 นาที เพียงไม่ถึงสัปดาห์ ก็จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวเองแล้ว

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา