12 ส.ค. 2022 เวลา 02:00 • ธุรกิจ
[ แก้ปัญหาธุรกิจได้ ด้วยน้องเป็ดยาง ]
เทคนิคการแก้ปัญหาด้วยน้องเป็ดยาง หรือที่เรียกว่า Rubber Duck Debugging เป็นเทคนิคการแก้ปัญหาของโปรแกรมเมอร์ที่มักพกตุ๊กตาเป็ดยางติดตัวไว้ และเมื่อเจอปัญหาในการโค้ดดิ้งก็จะค่อยๆ เล่าปัญหาให้น้องเป็ดฟัง เพื่อช่วยเรียบเรียงความคิด ตกตะกอนปัญหาและเกิดไอเดียแก้ปัญหาที่ผุดขึ้นในระหว่างการเล่า ซึ่งผู้ประกอบการก็สามารถประยุกต์ใช้เทคนิคนี้กับการแก้ปัญหาในธุรกิจได้เช่นเดียวกัน
แก้ปัญหาธุรกิจได้ ด้วยน้องเป็ดยาง
“ปัญหา” คือ สิ่งที่น่าจะเรียกได้ว่า เป็นเรื่องธรรมดาของคนทำธุรกิจทุกคน ที่ต้องเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และในหลายครั้ง ปัญหาก็มักจะมาในรูปของไอเดียหรือจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจ ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาก็มีได้หลากหลายวิธี โดยหนึ่งในวิธีที่นำมาแนะนำในบทความนี้ คือเทคนิคการแก้ปัญหาที่เรียกว่า Rubber Duck Debugging
มีเรื่องราวที่น่าสนใจ จากหนังสือ “ทำไมเป็นคนแบบนี้” โดย ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ ซึ่งสามารถยืมได้จากห้องสมุดมารวย ได้เล่าถึงเทคนิคที่แก้ปัญหาสำหรับโปรแกรมเมอร์เวลาเจอความผิดพลาดในการเขียนโค้ดดิ้ง (เขียนเว็บ แอปพลิเคชัน หรือโปรแกรม ฯลฯ) ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า Rubber Duck Debugging ซึ่งสามารถปรับใช้ในการแก้ปัญหาสำหรับเจ้าของธุรกิจได้ไม่ยาก
วิธีการแก้ไขปัญหาของโปรแกรมเมอร์นั้น จะใช้ตุ๊กตาเป็ดยางพกติดตัวไว้ด้วย และเมื่อเจอปัญหา ก็จะลองเล่าปัญหาให้น้องเป็ดฟัง อธิบายวิธีคิดในการใส่โค้ดดิ้งทีละบรรทัดให้น้องเป็ดยางฟังอย่างช้าๆ แล้วน้องเป็ดยางจะช่วยแก้ไขได้ จากการที่โปรแกรมเมอร์นั้นได้ค่อยๆ คิดตามที่เล่าให้น้องเป็ดยาง และมีไอเดียการแก้ปัญหาผุดขึ้นระหว่างการเล่า
ไม่น่าเชื่อว่า เทคนิคที่ดูง่ายๆ แบบนี้นี้ จะทำให้โปรแกรมเมอร์แก้ไขปัญหาหลายอย่างได้ จนทำให้เขาพกเป็ดยางไว้กับตัวตลอดเวลาทำงาน และเมื่อเกิดปัญหาอะไรก็ตามที่ต้องใช้ความคิดในการหาทางออก เขาจะจัดเวลาคุยกับเป็ดยางประจำตัว จนหาทาทางออกได้ในที่สุด
ทำไมเป็ดยาง ถึงได้ผลในการแก้ไขปัญหา!? และเราเอามาประยุกต์ใช้กับการทำธุรกิจได้อย่างไร ลองมาวิเคราะห์กัน
1. ช่วยเรียบเรียงความคิด
การคุยกับน้องเป็ดยาง ช่วยให้เราต้องเรียบเรียงความคิดที่เคยฟุ้งกระจายอยู่ในหัวออกมาเป็นความคิดที่เป็น
ระบบ เป็นขั้นตอน 1-2-3 โดยเฉพาะการพูดออกเสียง จะทำให้คนที่พูดได้ยินเสียงว่า ตัวเรากำลังคิดอะไรอยู่ เป็นการกระตุ้นให้สมองได้คิด มองเห็นทางออกในการแก้ปัญหาได้ดียิ่งขึ้น
2. ช่วยให้เข้าใจปัญหา
การอธิบายให้น้องเป็ดยางที่เหมือนเด็กน้อย ที่ไม่รู้เรื่องและไม่มีพื้นฐานใดๆ ทำให้เราต้องค่อยๆ เล่าให้น้องเป็ดฟังอย่างไม่ซับซ้อน อย่างช้าๆ โดยละเอียด เพื่อทำให้น้องเป็ดยางเกิดความเข้าใจในปัญหานั้น และตัวคนเล่าเอง ก็จะเริ่มมองเห็นปัญหาที่แท้จริง เห็นว่า เกิดข้อผิดพลาดตรงไหน
3. มีผู้รับฟังที่ดี
เนื่องจากน้องเป็ดยางเป็นตุ๊กตา พูดไม่ได้แบบมนุษย์ ทำให้เรากล้าเล่าปัญหาให้น้องเป็ดฟัง โดยไม่ต้องกลัวว่าน้องจะมาตัดสิน พูดโต้เถียงหรือให้คำแนะนำ รวมถึงไม่เดินหนีเราไป ส่งผลให้เราเกิดความรู้สึกสบายใจ ไว้วางใจ เกิดการตกตะกอนความคิดได้ดีขึ้น
ในการประยุกต์ใช้กับการทำธุรกิจ เริ่มจากตัวเราเอง เจอคนที่เป็น “เป็ดยาง” ในชีวิตหรือยัง? เป็นคนที่ยินดีรับฟังปัญหาที่เราเจอ และจะอยู่เคียงข้างเรา เมื่อเกิดปัญหาโดยไม่หนีไปไหน หรือคอยซ้ำเติมเรา อาจเป็นคนในครอบครัว เพื่อนฝูงที่เราเชื่อใจ หรือที่ปรึกษาธุรกิจที่เราให้ความเคารพ ได้หมด โดยเมื่อเราเจอคนเหล่านี้ ขอให้ดูแลรักษาไว้ให้ดี เพราะคนที่เป็น “เป็ดยาง” ในชีวิตเรา เขาจะเป็นคนที่หวังดี รักและอยากผลักดันให้เราประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง
เช่นเดียวกัน ตัวเราเองในฐานะเป็น “ผู้นำ” ของบริษัท เราสามารถเป็น “เป็ดยาง” ให้กับคนในบริษัทเรา โดยเฉพาะธุรกิจที่กำลังเติบโต ย่อมมีปัญหาเข้ามาในการทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ซึ่งเราควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่คนอื่นจะเล่าปัญหาที่เจอได้ เป็นผู้ฟังที่ดีที่ไม่ตัดสิน แต่ช่วยสะท้อนสิ่งที่เขากำลังคิดเพื่อให้เขาตกตะกอนความคิดได้ และมีเวลาให้เขาเสมอเมื่อมีปัญหา รวมถึงให้คำแนะนำได้ แต่ให้เท่าที่จำเป็น เมื่อพนักงานหรือคนในบริษัทร้องขอ เมื่อเราทำแบบนี้ได้ ปัญหาในธุรกิจก็จะถูกแก้ไขปัญหาอย่างลุล่วง และคนที่มาขอคำปรึกษาเรา จะเกิดความไว้วางใจในตัวเรามากขึ้น
ทุกครั้งที่เจอปัญหา ให้ระลึกเสมอว่า ตอนนี้ ธุรกิจของเรามีคนที่เป็น “เป็ดยาง” แล้วหรือยัง?
ถ้ายัง ขอให้คนที่เป็น “เป็ดยาง” คนแรกของธุรกิจ คือ ตัวเราเอง
ไม่มีใครในธุรกิจ ที่จะช่วยแก้ปัญหาได้ดีเท่าตัวเราเอง จริงมั้ย!?
เรียบเรียงจากหนังสือ ทำไมเป็นคนแบบนี้ โดย ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ สำนักพิมพ์ KOOB
บทความโดย: ธนโชค โลเกศกระวี
นักเขียนอิสระและผู้ประกอบการออนไลน์
โฆษณา