16 ส.ค. 2022 เวลา 00:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
The Godfather เป็นภาพยนตร์อเมริกันเกี่ยวกับแก๊งสเตอร์ที่ดีที่สุดในโลก สมบูรณ์แบบในทุกจุด มันเซ็ตค่ามาตรฐานงานภาพยนตร์แก๊งอาชญากรรมสูง จนยากจะมีหนังเรื่องไหนขึ้นเทียบ
องค์ประกอบของเรื่องมีตั้งแต่การกราดยิงปืนกล รถระเบิดเมื่อสตาร์ท การลอบสังหาร ฯลฯ ฉากมีตั้งแต่ชาวบ้านมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าพ่อ การสวดในโบสถ์ การฆ่ากันตายในตรอกมืด การเผชิญหน้าระหว่างเจ้าพ่อ การซื้อนักการเมือง ฯลฯ
จากแก๊งข้างถนน ตระกูลคอร์ลิโอนก้าวเข้าสู่ธุรกิจต่างๆ เรื่องเกี่ยวพันกับการพนัน อาชญากร การค้ายา การเมือง นักฆ่า ตำรวจเลว ไปจนถึงพระเลว
จนถึงจุดจุดหนึ่ง ไมเคิล เจ้าพ่อคนใหม่ (เขาเคยอาสาเป็นทหารในสงครามโลกครั้งที่ 2) ก็รู้ว่าจำเป็นต้องล้างคาวเลือดให้สะอาด โดยทำธุรกิจ(เกือบ)ทุกอย่างให้ถูกกฎหมาย แล้วเข้าสู่การเมือง ในท่อนหนึ่งของ The Godfather ไมเคิลบอกภรรยาของเขาว่า "ภายในห้าปี ตระกูลคอร์ลิโอนจะถูกต้องตามกฎหมาย"
หนังซีรีส์ 36 ตอนเรื่อง Peaky Blinders ก็คือ The Godfather เวอร์ชั่นไอริช มันประกอบด้วยองค์ประกอบและฉากดังที่เล่ามาข้างต้น หัวหน้าแก๊ง Peaky Blinders ก็เคยอาสาเป็นทหารในสงครามโลกครั้งที่ 1 และเช่นกันเขาบอกภรรยาว่า ภายในกี่ปีๆ ธุรกิจของ Peaky Blinders จะถูกต้องตามกฎหมาย
(มีสปอยเลอร์)
หัวหน้าสืบสวนหน่วย Royal Irish Constabulary ได้รับคำสั่งจาก วินสตัน เชอร์ชิล (อนาคตนายกฯของอังกฤษ) ไปตามหาอาวุธสงครามที่หายไป เชื่อว่าเป็นฝีมือของแก๊ง Peaky Blinders
1
หัวหน้าสืบสวนใช้กลอุบายทุกอย่างจัดการแก๊งอาชญากรรมนี้ และพบว่าทำได้ยากกว่าที่คิด เรื่องซับซ้อนขึ้น ตามมาด้วยความรุนแรงและการเข่นฆ่า การชิงไหวชิงพริบ
ใครคือ Peaky Blinders? พวกนี้มาจากไหน?
Peaky Blinders เป็นชื่อแก๊งอาชญากรรมที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ ฐานอยู่ที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ ในช่วงศตวรรษที่ 19 แต่ในหนังชุดนี้ แต่งเรื่องราวของ Peaky Blinders เสียใหม่ เป็นแก๊งตระกูลเชลบีที่มีรากเหง้าของพวกไอริชกับ Romani (หรือพวกยิปซี)
แก๊ง Peaky Blinders ค่อยๆ เติบโตขึ้นมา งัดข้อกับทั้งฝ่ายตำรวจและแก๊งอื่นๆ จนในที่สุดก็กลายเป็นหมายเลขต้นๆ ในโลกอาชญากรรม
1
Peaky Blinders เดินตามวิธีคิดหลักของ The Godfather ตรงที่ยึดมั่นเรื่องครอบครัว แม้จะทำเรื่องเลวร้าย แต่ครอบครัวต้องมาก่อน
สิ่งที่แตกต่างจาก The Godfather มีสองจุด
1 มันอิงประวัติศาสตร์จริงแต่ละท่อนของอังกฤษช่วงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 กับสงครามโลกครั้งที่ 2
2 หนังรุนแรงกว่า The Godfather ร้อยเท่า เลือดมากกว่า เหล้ามากกว่า และเต็มไปด้วยฉากเซ็กซ์นับไม่ถ้วน
1
Peaky Blinders เป็นหนัง plot-based เน้นที่พล็อต ในส่วนนี้ทำได้ดี หนังเต็มไปด้วยการหักมุมซ้อนหักมุม หนังแต่ละซีซันเสียบเรื่องแต่งเข้ากับประวัติศาสตร์ช่วงเหตุการณ์ พัวพันกับตัวละครทั้งจริงและปลอมในประวัติศาสตร์ (คล้ายๆ กลวิธีเล่าเรื่องของ ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน แต่ละบทคือแต่ละช่วงเหตุการณ์)
2
ตัวละครจำนวนหนึ่งมีจริงในประวัติศาสตร์ เช่น Winston Churchill, Oswald Mosely (ผู้ก่อตั้ง The British Union of Fascists), Jessie Eden (ผู้นำกลุ่ม British trade union และนักกิจกรรมคอมมิวนิสต์) รวมถึงองค์กร IRA (The Irish Republican Army) เป็นต้น
ฉากของเรื่องจำนวนมากก็มีจริง เช่น การต่อสู้กับพวกคอมมิวนิสต์ พวกบอลเชวิก การแข่งม้า ฯลฯ ดังนั้นคนดูควรรู้ประวัติศาสตร์มาก่อนบ้าง จึงจะดูสนุกขึ้น
หนังเดินเร็ว กระชับ ฉับไว พล็อตหักมุมหลายท่อนทำได้ดี
2
จุดเฝือในเรื่องมีสองอย่าง หนึ่งคือท่าเดินสโลว์โมชั่นของเหล่าอาชญากรรม แบบหนังของ ไมเคิล เบย์ ความจริงใช้ครั้งสองครั้งไม่เป็นไร แต่มันใช้มากจนเฝือ
1
สองคือฉากสูบบุหรี่ หากซีรีส์นี้ฉายในเมืองไทยเมื่อ 20 ปีก่อน ภาพคนสูบบุหรี่จะถูกทำเบลอทุกสองนาที แม้มันอาจเป็นความจริงในยุคนั้นที่คนสูบบุหรี่จัด แต่ฉากคาบบุหรี่และจุดสูบรวมๆ กันแล้ว น่าจะยาวพอได้หนึ่งตอน
3
จุดแตกต่างอีกจุดหนึ่งของเรื่องนี้คือดนตรี ใช้ดนตรีสมัยใหม่ ทั้งที่เป็นหนังพีเรียด บางเพลงเข้ากับอารมณ์หนังดี บางเพลงก็สะดุด เช่น เพลงที่มีคำว่า โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น ก็เป็นการทดลองอย่างหนึ่ง
1
จุดที่น่าสนใจคือ หลังจากหนังชุดนี้ออกฉาย ปรากฎว่าชาวอังกฤษตั้งชื่อลูกตามชื่อตัวละคร ชื่อที่นำโด่งมาคือ Arthur ซึ่งเป็นคนเลวร้ายสุดบรรยาย ฆ่าคนเป็นผักปลา นี่เป็นเรื่องแปลก เกิดอะไรขึ้น? เรามักตั้งชื่อลูกตามชื่อของคนดี หรือไม่ใช่?
1
ในจุดหนึ่งช่วงท้ายเรื่อง ตัวเอกพบความจริงว่า แม้ว่าจะมีทองท่วมหัว ก็ไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่าง และรักษาชีวิตคนด้วยทอง (เป็นวิธีหนึ่งในการรักษายุคนนั้น) ก็ช่วยอะไรไม่ได้
1
เงินซื้อความตายได้ แต่ซื้อชีวิตไม่ได้ อำนาจซื้อคำสรรเสริญได้ แต่ซื้อความสุขไม่ได้ แต่โลกไม่เคยขาดแคลนคนที่ปรารถนาสองสิ่งจอมปลอมนี้
3
เพราะนี่คือโลกของ Peaky Fxxxing Blinders
9.5/10
Netflix
โฆษณา