14 ส.ค. 2022 เวลา 12:19 • ธุรกิจ
Momofuku Ando ชายผู้สร้างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในชาติที่เป็นเลิศในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ มากมาย ที่สร้างความตกตะลึงและประทับใจต่อผู้คนทั่วโลก
ตัวอย่างเช่น รถไฟหัวกระสุน หุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ เครื่องเล่นเพลงพกพา ล้วนเป็นนวัตกรรมสุดพิเศษ ซึ่งเป็นที่ภาคภูมิใจของคนญี่ปุ่น ที่โด่งดังไปทั่วโลก
แม้จะมีนวัตกรรมมากมายหลายสิ่งที่โด่งดั่งและแพร่หลายไปทั่วโลก
แต่มีหนึ่งในนวัตกรรมที่มีชื่อเสียงและเชื่อได้ว่าเป็นที่นิยมมากที่สุดอย่างหนึ่งที่คนญี่ปุ่นเองก็ชื่นชอบมันอย่างยิ่ง นวัตกรรมนั้น คือ “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป”
ซึ่งชายผู้ที่อยู่เบื้องหลังนวัตกรรมนี้ เป็นผู้อพยพจากไต้หวันที่มาร่ำรวยในญี่ปุ่นในช่วงตอนสี่สิบปลายๆ คนๆ นั้น คือ คุณ “Momofuku Ando”
📌 นวัตกรรมที่ฝังใจจากการเห็นความยากลำบากหลังสงคราม
คุณ Ando เกิดที่ไต้หวันในปี 1910 ก่อนจะอพยพมาสู่ญี่ปุ่นหลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีชื่อเดิมว่า “Wu Baifu”
แต่พอมาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นจึงได้ทำการเปลี่ยนมาใช้ชื่อปัจจุบัน
ชีวิตในญี่ปุ่นของคุณ Ando ก็ไม่ได้เรียบง่าย อันที่จริง เขาได้ผ่านการทำหลายอาชีพก่อนที่จะมาคิดค้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้สำเร็จ
โดยอ้างอิงจากหนังสืออัตชีวประวัติของเขาเอง คุณ Ando เล่าว่า ได้ไอเดียการคิดค้นสิ่งนี้มาจากการเดินทางกลับบ้านในช่วงค่ำ ในโอซากา
ภาพที่เขาเห็น คือ ซุ้มข้างทางที่มีควันพวยพุ่งออกมา และผู้คนที่ต่อแถวเรียงยาว “รอราเมนที่ต้องใช้เวลาแสนนานในการลวก และทำทีละจาน”
หากอยู่ในสภาวะปกติ เรื่องนี้ก็คงไม่ฝังใจมากนัก
ทว่า เหตุการณ์นี้ดันมาเกิดขึ้นในช่วงหลังจากที่ญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2
ทำให้ตอนนั้นประเทศมีภาวะขาดแคลน “ข้าว” ซึ่งเป็นอาหารหลักของคนญี่ปุ่น
ประกอบกับทางสหรัฐอเมริกาได้บริจาค “ข้าวสาลี” จำนวนมากให้ญี่ปุ่น
ซึ่งตอนแรกก็หวังจะให้นำมาทำเป็นขนมปังที่เป็นอาหารหลักของชาวตะวันตก
แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นพวกเขาชอบทานอาหารอย่างราเมนมากกว่า จึงทำให้ข้าวสาลีเหล่านี้ ถูกนำมาแปรรูปเป็นเส้นราเมนจำนวนมากนั่นเอง จนกลายเป็นอาหารที่ช่วยให้คนญี่ปุ่นผ่านภาวะยากลำบากตอนนั้นมาได้
ซึ่งทางคุณ Momofuku Ando มองเห็นโอกาสและก็มาตั้งคำถามว่า เขาจะสามารถทำให้การทำราเมนง่ายและรวดเร็วขึ้นได้อย่างไร ซึ่งก็ต้องใช้เวลาทดลองอยู่นานทีเดียวก่อนจะประสบความสำเร็จในปี 1958
📌 การก่อตั้งบริษัทผ่านนวัตกรรมญี่ปุ่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 20
โดยหลังจากทดลองอยู่หลายปี ที่สุดแล้วในปี 1958
คุณ Ando ก็ค้นพบวิธีในการสร้าง “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” ซึ่งอยู่ได้นานและปรุงได้เร็วเพียงเติมน้ำร้อนลงไปรอเพียง 2 นาทีก็ทานได้แล้ว
1
โดยกรรมวิธีนั้นก็คือ นำเส้นที่ปรุงแล้วไปทอดน้ำมัน หรือที่เรียกว่า “Flash Flying”
ในปีเดียวกันนั้นเขาก็ได้เปิดบริษัทที่ยังคงอยู่มาถึงปัจจุบัน ชื่อว่า Nisshin และก็ได้ออกขายผลิตภัณฑ์ของเขา ซึ่งก็ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วทันทีและก็มีการเติบโต พัฒนาเทคนิคและรสชาติใหม่ๆ ออกมาเสมอ
อย่างในปี 1971 ก็มีการออกผลิตภัณฑ์ “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วย” อันได้รับแรงบันดาลใจมาจากการที่คนนำแก้วกาแฟใช้แล้วมาต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต่อ
ซึ่งหลังจากเปิดตัวออกมาก็ได้รับความนิยมมหาศาลเช่นกัน
คนญี่ปุ่นชื่นชอบนวัตกรรมนี้อย่างมาก ถึงขนาดที่ในปี 2000
เคยมีการทำโพลโดย Fuji Research สำรวจคนญี่ปุ่นกว่า 2000 คนว่า
นวัตกรรมใดในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20 ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของญี่ปุ่น
ซึ่งผลออกมาว่า นวัตกรรมที่ได้คะแนนสูงสุด คือ “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” เอาชนะนวัตกรรมอื่นๆ แม้กระทั่งรถไฟหัวกระสุนไปอย่างขาดลอยทีเดียว
โดยคุณ Momofuku Ando เสียชีวิตไปเมื่อปี 2007 ในวัย 96 ปี แต่นวัตกรรมที่เขาสร้างขึ้นก็ยังถูกส่งต่อและพัฒนาไปอย่างไม่หยุดหย่อน มีรสชาติและรูปแบบใหม่ๆ ออกมาอยู่เสมอ และก็ยังเป็นทางเลือกที่สะดวกและราคาไม่แพงสำหรับทุกคน
ปัจจุบันประมาณกันว่า มีคนบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วโลก
ในแต่ละปีมากกว่า 1 แสนล้านชามต่อปี
ท้ายที่สุดขอปิดท้ายด้วยคำพูดของคุณ Momofuku Ando ที่เคยกล่าวเอาไว้ ซึ่งสะท้อนสภาพสังคมของผู้คนได้อย่างเป็นจริงอย่างยิ่งว่า
สันติจักบังเกิด หากผู้คนท้องอิ่ม
(Peace will come when people have food)
ผู้เขียน : ณัฐนันท์ รำเพย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References :
เครดิตภาพ : Nissin
1
#APEC2022COMMUNICATIONPARTNER
โฆษณา