[Bnomics] Sam Walton ผู้สร้างอาณาจักร Walmart ในวัย 44 ปี ไม่มีใครแก่เกินเรียน และไม่มีใครแก่เกินกว่าที่จะเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ…

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

7 ส.ค. 2022 เวลา 12:19 • ธุรกิจ

Sam Walton ผู้สร้างอาณาจักร Walmart ในวัย 44 ปี

ไม่มีใครแก่เกินเรียน และไม่มีใครแก่เกินกว่าที่จะเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ…

สำหรับบางคนที่กำลังหมดไฟในการทำงาน ท้อแท้กับชีวิต ทำงานมาจนอายุเยอะแล้วแต่รู้สึกว่าตัวเองยังไม่ประสบความสำเร็จสักที บางทีหลังจากอ่านบทความนี้คุณอาจได้กำลังใจมากขึ้น

Blockdit Original by Bnomics สำหรับเดือนนี้ จะพาทุกคนไปรู้จักกับเหล่าคนที่พบกับความสำเร็จในช่วงที่อายุล่วงเลยวัยกลางคนไปแล้ว และในบทความแรกนี้เราจะขอเริ่มต้นด้วย คุณ Sam Walton เจ้าของอาณาจักร Walmart ร้านค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก

จุดเริ่มต้นความสำเร็จของคุณ Sam Walton เป็นมาอย่างไร ในบทความนี้ Bnomics จะเล่าให้ฟัง

📌 จากชายหนุ่มชนบทผู้มีความฝันและความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม

คุณ Sam Walton ถือกำเนิดมาในครอบครัวที่ค่อนข้างจะมีฐานะยากจน เติบโตมาในฟาร์ม แถบรัฐโอคลาโฮมาทางตอนใต้ของสหรัฐฯ

เขาเริ่มต้นชีวิตในสายงานค้าปลีก ด้วยการเป็นพนักงานฝึกหัดของ JC Penney store ในปี 1940 และกลายเป็นพนักงานขาย ก่อนที่จะไปเกณฑ์ทหารในปี 1942

หลังออกจากกรมมาในปี 1945 เขาได้ตัดสินใจที่จะไปตามความฝันของตนเอง ด้วยเงินเก็บ 5,000 ดอลลาร์ ที่เก็บออมไว้ขณะเป็นทหาร รวมกับเงินอีก 20,000 ดอลลาร์ที่ยืมมาจากคนในครอบครัว เพื่อไปซื้อร้านค้าแฟรนไชส์ Ben Franklin variety store ซึ่งนับได้ว่าเป็นธุรกิจค้าปลีกแรกที่เขาเริ่มลงมือทำ

ด้วยประสบการณ์ในการทำงานที่ผ่านมา บวกกับการทำงานอย่างหนัก และร้านของเขายังกำหนดราคาสินค้าให้ต่ำกว่าผู้ค้ารายอื่นๆ ทำให้ในไม่ช้าธุรกิจของเขาก็ขยายตัวไปกว่า 3 เท่า จนกระทั่งในปี 1950 เขาได้กลายเป็นเจ้าของสาขา Ben Franklin variety store ทั้งหมด 6 รัฐ

📌 เมื่ออายุ ไม่ใช่อุปสรรคในการเริ่มต้นใหม่

แต่แล้วเจ้าของที่ดินที่ร้านของเขาไปตั้งอยู่ ต้องการจะซื้อกิจการของคุณ Sam Walton ให้ลูกชายของตัวเอง แต่ด้วยความที่ฝันของคุณ Sam Walton ยิ่งใหญ่กว่านั้น เขาจึงไม่ได้มีความตั้งใจที่จะขาย ส่งผลให้เจ้าของที่ปฏิเสธที่จะต่อสัญญาเช่า

เมื่อถูกปฏิเสธการต่อสัญญาเช่า คุณ Sam Walton กลับไม่ยอมแพ้และเปลี่ยนไปหาที่ตั้งร้านในเมืองแถบชนบทของรัฐอาร์คันซอแทน

จนกระทั่งในปี 1962 ที่คุณ Sam Walson อายุ 44 ปีแล้ว อันที่จริงเขาจะหยุดอยู่กับความสำเร็จในการบริหารร้าน Ben Franklin แล้วใช้ชีวิตสบายๆ ก็ได้ แต่เขากลับเลือกเส้นทางที่ท้าทายกว่านั้น

ในปีนั้นเองเขาได้ตัดสินใจที่จะสร้างธุรกิจร้านค้าปลีกของตนเองขึ้นมา โดยมีไอเดียคือจะต้องเป็นร้านที่ขายสินค้าราคาถูก ตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ

และแล้วร้าน Wal-Mart Discount City แห่งแรกก็ถือกำเนิดขึ้นที่โรเจอร์ส รัฐอาร์คันซอ ซึ่งเปลี่ยนโฉมของวงการค้าปลีกไปเกิดกว่าที่คู่แข่งจะคาดคิด ด้วยราคาที่ถูกและการบริการลูกค้าอย่างใส่ใจ อีกทั้งยังมีทำเลที่ตั้งที่แตกต่างจากร้านขายสินค้าราคาถูกทั่วไป ที่มักจะนิยมตั้งอยู่ในเมืองใหญ่ๆ มากกว่า

ถ้าถามว่าทำไมร้าน Wal-Mart ถึงสามารถขายสินค้าราคาถูกกว่าที่อื่นได้ ก็เพราะมีการบริหารจัดการต้นทุนสินค้าที่ดี โดยร้าน Wal-Mart แต่ละแห่งนั้นจะต้องตั้งอยู่ห่างจากคลังสินค้าใหญ่ไม่เกิน 1 วัน ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนการขนส่งสินค้าให้ต่ำและกระจายสินค้าได้รวดเร็วทันจำนวนออเดอร์ที่มากมายในแต่ละวันได้

ทำให้ร้าน Wal-Mart เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก

ในปี 1977 มีการขยายสาขาไปกว่า 190 ร้าน

และกลายเป็น 800 ร้าน ในปี 1985

📌 ตั้งเป้าหมายให้ใหญ่ และก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

ในวัย 65 กับร้านค้าปลีกกว่า 800 สาขา ก็นับว่าเป็นความสำเร็จที่น่าพึงพอใจมากแล้ว

แต่สำหรับคุณ Sam Walton เขายังคงขยับเป้าหมายให้ท้าทายขึ้นไปอีก โดยเพิ่มธุรกิจร้านค้าส่ง ที่ขายสินค้าในคลังสินค้าด้วยราคาที่ต่ำมากๆ เขาเรียกชื่อธุรกิจนี้ว่า Sam’s Wholesale Club และยังขยายกิจการต่อด้วยการเปิดซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขนาดใหญ่ที่ขายสินค้าอย่างครบวงจร

คุณ Sam Walton วางมือจากการบริหารจริงๆ ในปี 1988 ในวัย 70 ปี

เขามีโอกาสทันมองเห็นภาพความสำเร็จของธุรกิจที่เขาปั้นมากับมือ

ในปี 1990 ร้าน Wal-Mart ได้กลายเป็นร้านค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ แล้วในปีถัดมาก็ได้ขยายไปเปิดสาขาในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเม็กซิโก, แคนาดา, จีน, เยอรมนี, และสหราชอาณาจักร

แม้จะวางมือแล้ว แต่คุณ Sam Walton ก็ยังคงดำรงตำแหน่งประธานบริษัทอยู่จนกระทั่งเสียชีวิตลงในปี 1992

ณ เวลานั้น มีร้านค้าปลีกของ Wal-Mart ในเครือทั้งสิ้น 1,735 ร้าน

ร้านค้าส่ง Sam’s Wholesale Club 212 ร้าน

และซูเปอร์มาร์เก็ต 13 แห่ง

ทุกวันนี้ Walmart ถูกจัดให้เป็นร้านค้าปลึกที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีรายได้กว่า 538.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีร้านค้าปลีกเกินกว่าหมื่นแห่ง อยู่ใน 24 ประเทศ และสร้างงานให้คนกว่า 2.3 ล้านคนทั่วโลก

ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากชายวัย 44 ปี ผู้ไม่เคยหมดไฟ ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับความสำเร็จที่มี แต่กลับพยายามตามล่าความท้าทายใหม่ๆ ขยับเป้าหมายให้ยิ่งใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ