19 ส.ค. 2022 เวลา 02:28 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
รีวิว : The Lake บึงกาฬ
Filmment Rating : 6.2
#เนื้อเรื่องย่อ
เมย์ เด็กสาวคนหนึ่งได้ค้นพบไข่ยักษ์ปริศนา และนำมันกลับมาที่บ้านของเธอ นั่นจึงหลายเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ เมื่อสัตว์ประหลาดยักษ์จากใต้น้ำโผล่ขึ้นมาเพื่อตามหาลูกของมัน ทุกคนจึงต้องหนีเอาชีวิตรอดจากการตามล่าของสัตว์คลั่งตัวนี้
#ความเห็น
หากเปรียบเทียบภาพยนตร์เรื่อง The Lake - บึงกาฬ เป็นดั่งรถยนต์ธรรมดาสักหนึ่งคัน ก็คงจะเป็นรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์สวยงามโฉบเฉี่ยว สตาร์ทเครื่องยนต์ได้อย่างกระหึ่มหู และพุ่งออกตัวได้แรงไม่แพ้กับรถแข่งเลยครับ แต่ด้วยการความทะเยอทะยานและการพยายามเป็นในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เป็นมากจนเกินไป ทำให้รถยนต์คันนี้กลับยิ่งเร่งยิ่งแผ่ว ยิ่งพยายามจะไปทางลัด ก็กลายเป็นยิ่งอ้อมไกลกว่าเดิม จนสุดท้ายแม้รถยนต์คันนี้จะสามารถไปถึงจุดหมายได้ แต่ระหว่างทางนั้นทุลักทุเลเหลือเกินครับ
ไม่ต้องให้ผู้ชมรอนานจนเสียเวลา ภาพยนตร์เปิดตัวสัตว์ประหลาดยักษ์ที่ถูกขนานนามว่า ‘ไทจู’ ให้ผู้ชมประจักษ์อย่างรวดเร็วครับ โดยไทจูตัวนี้ถูกนิยามว่ามันมีร่างกายเหมือนปลา ที่หัวมีหนวดยาวใหญ่ ผิวหนังแข็งเหมือนจระเข้ และมีแขนขาสามารถเดินได้ ซึ่งนับเป็นการออกแบบสัตว์ประหลาดได้อย่างมีเอกลักษณ์ ด้วยการผสมสัตว์หลายชนิดเข้าด้วยกันและสามารถปรากฏตัวขึ้นในภูมิประเทศของจังหวัดบึงกาฬได้อย่างไม่ขัดเขิน
นอกจากการออกแบบบนหน้ากระดาษแล้ว ภาพยนตร์ยังสามารถถ่ายทอดไทจูตัวนี้ออกมาได้อย่างน่าชื่นชม ด้วยการผสมผสานเทคนิคทางคอมพิวเตอร์ เข้ากับเทคนิคอย่าง Animatronics หรือหุ่นยนต์บังคับขนาดยักษ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการถ่ายทำโดยเฉพาะ ซึ่งภาพยนตร์ก็สามารถผสมผสานทั้ง 2 เทคนิคเข้าด้วยกันได้อย่างเหมาะสม และยังเลือกสร้างฉากหลังของเหตุการณ์เป็นคืนที่มรสุมโหมกระหน่ำ ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศและภาพรวมของเจ้าสัตว์ร้ายน่าสะพรึงกลัวยิ่งขึ้น
จะด้วยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ภาพยนตร์เรื่อง The Lake - บึงกาฬ มีการแสดงความเคารพต่อภาพยนตร์สัตว์ประหลาดชื่อดังจากยุค 90 มากมายครับ เด่นชัดที่สุดคงหนีไม่พ้น Jurassic Park และ Jurassic Park : The Lost World รวมถึงภาพยนตร์อย่าง Godzilla ฉบับของ Roland Emmerich ด้วยเช่นกันครับ แต่สิ่งที่ The Lake - บึงกาฬ ยังห่างชั้นกับภาพยนตร์ข้างต้น คือการถ่ายทอดการโจมตีของไทจูให้อย่างชัดเจนครับ
โดยภาพยนตร์เลือกที่จะใช้ภาพขนาดแคบ เพื่อถ่ายทอดอารมณ์และสีหน้าของตัวละครเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายเป็นหลัก ผสมผสานกับลูกล่อลูกชนด้านภาพและการจัดแสงที่ทำให้ไทจูน่าเกรงขามมากขึ้น แต่ถึงกระนั้นภาพยนตร์กลับเลือกใช้เทคนิคดังกล่าวบ่อยจนเกินไป และไม่เลือกที่จะใช้ภาพกว้างในการอ้างอิงหรือยืนยันตำแหน่งของเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างเด่นชัด เมื่อผสมรวมกับการตัดต่อที่ชวนสับสนและไม่สามารถถ่ายทอดเหตุการณ์ได้อย่างตรงไปตรงมา จึงทำให้ภาพรวมของทุกฉากโจมตีนั้นดูสับสนอลหม่านมากกว่าชวนระทึกขวัญครับ
ภายใต้การโจมตีของไทจูยักษ์ ภาพยนตร์แบ่งเรื่องราวทั้งหมดออกเป็นหลากหลายเส้นเรื่อง ซึ่งถูกเล่าผ่านตัวละครหลายกลุ่มครับ ไม่ว่าจะเป็น คู่พี่น้องอย่างลินและเก่งที่พยายามตามหาน้องสาวที่หายตัวไป , สุวัต ผู้บังคับบัญชาตำรวจที่ต้องพยายามควบคุมสถานการณ์และดูแลประชาชนในพื้นที่ , เจมส์ ตำรวจสืบสวนที่ต้องพยายามไขคดีและสานสัมพันธ์กับลูกสาวที่ห่างเหิน , 2 นักวิทยาศาสตร์ชาวจีนที่พยายามหาคำตอบของเรื่องที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ยังรวมถึงเรื่องราวของตัวไทจูเอง ซึ่งเกี่ยวพันกับตำนานปรำปราและเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติบางอย่างที่เชื่อมโยงกับตัวละครครับ ปัญหาก็คือแต่ละเส้นเรื่องนั้นมีความเป็นเอกเทศในตัวเองและไม่ได้สนับสนุนซึ่งกันและกันในภาพรวมครับ กล่าวคือทุกเส้นเรื่องล้วนต้องการเวลาและพัฒนาการทางการเล่าเรื่อง
ซึ่งหากแยกออกมาวิเคราะห์แต่ละเรื่องอย่างเฉพาะเจาะจงแล้ว ทุกเส้นเรื่องก็สามารถขมวดปมของตัวได้ครบสมบูรณ์ แต่เมื่อมองจากความเป็นภาพยนตร์หนึ่งเรื่องแล้ว ทุกเส้นเรื่องไม่ได้ถูกผูกโยงเข้าหากันอย่างมีนัยสำคัญมากนัก นอกจากนี้ยังทำให้ภาพยนตร์ต้องแบ่งเวลาให้กับทุกตัวละคร จนทำให้ The Lake - บึงกาฬ ขาดโฟกัสหลักที่จะยึดผู้ชมเอาไว้กับเรื่องราวได้ครับ นอกจากนี้แต่ละเส้นเรื่องยังมีประเด็นที่ต้องการพูดเป็นของตัวเอง จนทำให้แก่นสารสำคัญของภาพยนตร์ถูกปั่นรวมกันจนจับต้องไม่ได้อีกด้วย
เมื่อแต่ละตัวละครไม่ได้รับเวลาในการนำเสนอที่มากพอ จึงทำให้ผู้ชมไม่รู้จักตัวละคร และพาลให้ไม่เข้าใจในทุกการตัดสินใจของพวกเขาไปในเวลาเดียวกันครับ โดยเฉพาะในช่วง 15 นาทีสุดท้ายไปจนถึงตอนจบของเรื่อง ซึ่งภาพยนตร์พยายามที่จะจับทุกประเด็นมาขมวดรวมเป็นข้อคิดสอนใจ แต่ทุกอย่างถูกนำเสนอออกมาอย่างกลวงเปล่า และไม่มีความจำเป็นกับภาพยนตร์เลยแม้แต่นิดเดียวครับ
โดยสรุปแล้ว The Lake - บึงกาฬ เป็นภาพยนตร์ที่ยกระดับคุณภาพของวงการภาพยนตร์ไทย ในแง่ของงานสร้างและความทะเยอทะยานได้อย่างไร้ข้อกังขาครับ แต่ด้วยเส้นเรื่องที่ยุ่งเหยิงและบทภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยปัญหา จึงทำให้ภาพยนตร์ขาดโฟกัสหลักในการนำเสนอที่ชัดเจน แม้ว่าจะยังไปไม่ถึงดวงดาว แต่อย่างน้อย The Lake - บึงกาฬ ก็สามารถก้าวข้ามคำปรามาสสบประมาทจากหลายฝ่ายได้ครับว่า ภาพยนตร์ไทยไม่สามารถสร้างสัตว์ประหลาดที่สมจริงได้ ซึ่งภาพยนตร์ควรได้รับคำชมในแง่นี้จริงๆ ครับ
#ประเด็นตกผลึก
ประเด็นตกผลึกจากภาพยนตร์เรื่อง The Lake - บึงกาฬ ที่ผมจะชวนผู้อ่านทุกท่านมาคุยกันในวันนี้ก็คือ
อย่าเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ในวันที่เรากำลังจะสูญเสียมันไป
ภาพยนตร์เลือกจะนำเสนอเรื่องราวของความสัมพันธ์ให้สอดแทรกอยู่ในทุกเส้นเรื่องอย่างชัดเจนครับ ไม่ว่าจะเป็น ความสัมพันธ์ระหว่าง เจมส์ พ่อผู้บ้างานและกำลังสานสัมพันธ์กับลูกสาวอย่างแพม หลังจากที่แม่และภรรยาของพวกเขาเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้ , ลินและเก่ง 2 พี่น้องผู้ไม่ลงรอยกัน กลับต้องมาร่วมมือร่วมใจกันฝ่าฟันเอาชีวิตรอดจากไทจูยักษ์ หรือกระทั่งเรื่องราวของตัวไทจูยักษ์เองก็ว่าด้วยการตามหาลูกที่หายไปของมันเช่นกันครับ
หลังจากมอบเงื่อนไขให้กับแต่ละความสัมพันธ์อย่างครบถ้วนแล้ว ภาพยนตร์ก็ทยอยโยนอุปสรรค์และบททดสอบให้กับเหล่าตัวละคร เพื่อสร้างความหมิ่นเหม่สั่นคลอนให้กับความสัมพันธ์ของพวกเขา
เริ่มจาก เจมส์และแพมที่เข้าไปพัวพันกับสถานการณ์เฉียดตายจากการตามล่าของไทจู จนทำให้พวกเขาเปิดใจต่อกันและกันมากขึ้น , ลินและเก่งซึ่งได้พบเจอกับปรากฏการณ์ลี้ลับ ที่ทำให้พวกเขาเข้าใจสัตว์ประหลาดยักษ์และต้องการจะปกป้องมันด้วยเหตุผลบางอย่าง นั่นจึงทำให้พวกเขาต้องร่วมมือกันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรือกระทั่งเจ้าไทจูเองก็มีลูกน้อยที่มันต้องการจะดูแลและปกป้องด้วยเช่นกันครับ
สถานการณ์ทั้งหมดของภาพยนตร์และเหล่าตัวละครจะจบลงอย่างไร ขอให้ทุกท่านไปพิสูจน์กันเองในโรงภาพยนตร์นะครับ แต่สิ่งที่ภาพยนตร์ย้ำเตือนกับเราอย่างชัดเจนก็คือ จงอย่ามองเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ในวันที่เรากำลังจะสูญเสียมันไปครับ บางครั้งเมื่อความสัมพันธ์มันอยู่ใกล้ตัวกับเราเกินไป ทำให้เราไม่ได้เอาใจใส่มันอย่างที่ถูกที่ควรมากนัก ซึ่งทุกความสัมพันธ์ก็มักจะต้องพบเจอกับบททดสอบครั้งสำคัญอยู่เสมอ และบททดสอบเหล่านี้เองครับที่มักจะเป็นเครื่องย้ำเตือนจิตใจของเราว่า ความสัมพันธ์เหล่านั้นสำคัญกับเราขนาดไหน
แต่สิ่งที่สำคัญกว่าการเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ในช่วงเวลาอันแสนละเอียดอ่อน ก็คือผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากเราผ่านบททดสอบเหล่านั้นครับ หลายต่อหลายครั้งอุปสรรคที่เข้ามาท้าทายความสัมพันธ์ของเรา ก็เป็นดั่งจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในการที่จะกอบกู้ทุกอย่างให้กลับมาสมบูรณ์แบบอีกครั้ง แต่อย่าลืมนะครับว่า บางครั้งบททดสอบที่วิ่งเข้ามาปะทะเราอย่างไม่ทันตั้งตัวนั้น มันก็อาจจะหนักหนาสาหัสจนเราไม่สามารถประคับประคองความสัมพันธ์เอาไว้ แม้เราจะเห็นคุณค่าของมันขนาดไหนก็ตาม ฝากไว้ให้คิดกันนะครับ
#บึงกาฬ #TheLakeMovie #Filmment
โฆษณา