29 ส.ค. 2022 เวลา 05:00 • ยานยนต์
คนมีรถต้องรู้ วิธีจั้มแบตรถยนต์ ด้วยตัวเอง
2
ปัญหาแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม เป็นหนึ่งในอาการรถเสียที่ผู้ใช้รถหลายท่านอาจเคยเจอมาก่อน การพกสายจั้มแบตเตอรี่รถยนต์ติดไว้ในรถและรู้วิธีจั้มแบตรถยนต์ จึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถควรรู้จักและทำความเข้าใจ
3
เพราะหากเกิดอาการรถสตาร์ทไม่ติดเพราะสาเหตุมาจากแบตเตอรี่เสื่อม จะได้สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง
วิธีจั้มแบตรถยนต์ ทำอย่างไร ?
วิธีจั้มแบตรถยนต์ การจั๊มพ์แบตรถ หรือการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ ที่หลายคนเรียกกัน เป็นการกระตุ้นการทำงานของแบตเตอรี่รถยนต์ ช่วยทำให้มอเตอร์สตาร์ทหมุนให้เครื่องยนต์ติดได้
โดยใช้วิธีจั้มแบตรถยนต์ หรือการพ่วงแบตเตอรี่รถจากแบตเตอรี่ของรถอีกคันหนึ่งโดย วิธีจั้มแบตรถยนต์ จะมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1 .การเตรียมสายจั้มแบตเตอรี่รถยนต์
เริ่มต้นวิธีจั้มแบตรถยนต์ในขั้นตอนแรก ก่อนอื่นจะต้องเตรียมสายจั้มแบตเตอรี่หรือสายพ่วงแบตรถยนต์ ซึ่งสิ่งนี้ควรจะมีติดรถไว้ทุกคัน
เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาจะได้นำมาใช้ได้ สำหรับสายจั้มแบตเตอรี่จะมีอยู่ 2 เส้น สายสีแดงคือประจุไฟขั้วบวก และสายสีดำหรือสีเขียวคือประจุไฟขั้วลบ
โดยความยาวของสายจั้มแบตเตอรี่นั้น ควรจะยาวพอที่จะสามารถพ่วงแบตเตอรี่รถจากอีกคันหนึ่งได้โดยที่ไม่ต้องจอดรถชิดกันมากนัก
2. ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดทั้งหมดของรถ
หลังจากที่เตรียมสายจั้มแบตเตอรี่และมีรถยนต์หรือแบตเตอรี่อีกก้อนสำหรับพ่วงสายจั้มแบตแล้ว นำรถมาจอดใกล้กันแต่ไม่ควรจอดรถชิดกันเกินไป ป้องกันรถเกิดประกายไฟ
3. ต่อสายจั้มแบตเตอรี่รถยนต์เข้าด้วยกัน
นำสายพ่วงแบตเตอรี่ข้างที่เป็นสีแดง หรือขั้วบวก ต่อเข้ากับแบตเตอรี่ขั้วบวกของรถคันที่มีปัญหา แล้วนำสายพ่วงแบตเตอรี่ที่เป็นสีดำ หรือขั้วลบ ไปต่อเข้ากับแบตเตอรี่ขั้วลบของรถยนต์อีกคันที่ปกติ ส่วนปลายอีกด้านให้หนีบตรงโลหะของเครื่องยนต์
4. สตาร์ทเครื่องยนต์
สตาร์ทเครื่องยนต์ของรถคันปกติก่อน ประมาณ 3 นาที แล้วเร่งเครื่องเล็กน้อยเป็นช่วง ๆ เพื่อให้เกิดการถ่ายเทประจุไฟฟ้า จากนั้นให้สตาร์ทเครื่องยนต์ของรถคันที่แบตเตอรี่หมดเพื่อทดสอบว่ามีประจุไฟฟ้าเข้ามาที่แบตเตอรี่หรือยัง
1
5. ถอดสายจั้มแบตเตอรี่รถยนต์
ถอดสายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ โดยต้องถอดตามขั้นตอน ดังนี้ เริ่มต้นจากขั้วลบจากรถคันที่แบตเตอรี่หมดก่อน แล้วค่อยถอดขั้วลบและขั้วบวกของรถคันปกติตามลำดับ ตามด้วยขั้วบวกของรถที่แบตเตอรี่หมด โดยมีข้อระวังตรงที่ไม่ให้สายจั๊มแบตเตอรี่ต่างขั้วมาสัมผัสกัน
ข้อควรระวังในการจั้มแบตรถยนต์
แม้ว่าวิธีการจั้มแบตเตอรี่รถยนต์ จะสามารถทำได้ด้วยตัวเอง แต่ยังมีข้อควรระวังในการจั้มแบตเตอรี่รถยนต์ หรือการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์อยู่บ้าง
ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย เช่น ต้องปิดระบบไฟฟ้าทั้งหมดของรถทั้งสองคัน ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า ระบบแอร์ วิทยุ และเครื่องเสียง เป็นต้น รวมไปถึงห้ามสูบบุหรี่ หรือไฟแช็กเพราะจะทำให้เกิดการก่อประกายไฟได้
และอย่าให้ปลายสายพ่วงแบตเตอรี่สัมผัส เพราะอาจจะทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
หากพบว่ารถสตาร์ทไม่ติดเนื่องจากแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม โดยสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมนั้นเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุทั้งจากผู้ใช้รถเอง สภาพแวดล้อมและการใช้งานรถ เรามาดูกันว่าสาเหตุใดบ้างที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ของคุณเสื่อม รถสตาร์ทติดยากมีอะไรบ้าง
หวังว่าผู้ใช้รถทุกท่านจะสามารถนำเอา วิธีจั้มแบตรถยนต์ นี้นำไปใช้ในกรณีที่แบตเตอรี่รถยนต์หมดกลางทางหรือสตาร์ทรถไม่ติด ทั้งนี้สิ่งสำคัญคือ รถยนต์ทุกคันควรมีสายจั้มแบตเตอรี่รถยนต์ หรือสายพ่วงแบตเตอรี่ติดรถไว้ทุกคัน
เพราะหากไม่มีสายพ่วงแบตเตอรี่ติดรถไว้ ก็จะไม่สามารถให้อุปกรณ์ใด ๆ มาช่วยชาร์จแบตเตอรี่รถของคุณได้เลย เว้นเสียแต่ว่ารถอีกคันที่เข้ามาช่วยเหลือคุณมีสายพ่วงแบตเตอรี่ติดรถไว้
แต่หากพ่วงแบตเตอรี่แล้ว รถสตาร์ทไม่ติดเหมือนเดิม จำเป็นจะต้องโทรเรียกช่างซ่อมรถเพื่อนำรถไปตรวจสอบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และแก้ไขเพื่อให้รถของคุณกลับมาใช้งานได้ตามปกติหรือใครที่ทำประกันรถเอาไว้ ก็ยังสามารถใช้บริการรถยกตลอด 24 ชั่วโมงในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินได้อีกด้วยนั่นเอง
โฆษณา