Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
258 M.21 ผู้รับใช้นาย
•
ติดตาม
28 ส.ค. 2022 เวลา 13:22 • ประวัติศาสตร์
ยุทธการบ้านร่มเกล้า
ตอนที่ 3(จบ)
กองทัพไทยประกาศว่าจะทำการบุกข้ามแม่น้ำโขง
16 ธันวาคม 2530 กระทรวงการต่างประเทศลาวเชิญอุปทูตไทยเข้ารับบันทึกช่วยจำมีเนื้อความว่า
เครื่องบินไทยละเมิดน่านฟ้าลาวและทำการทิ้งระเบิดพื้นที่แขวงไทรบุรีของลาวรวมทั้งมีการยิงปืนใหญ่ใส่บริเวณต่างๆของลาวอีกด้วย
ข้อสังเกตุ
เมื่อลาวเกิดการสูญเสียในการรบอย่างหนักจะยื่นเจรจาหรือใช้วิธีการทางการทูตอื่นๆ เพื่อให้ทางไทยชะลอการรุกและทำการเสริมกำลังของฝ่ายลาว
และปรับปรุงการตั้งรับ
นายทหารสายเหยี่ยวเสนอให้ข้ามโขงเปิดสงครามเต็มรูปแบบแต่ผู้ใหญ่ในรัฐบาลเกรงว่าจะเป็นการสงครามยืดเยื้อปล่อยให้เป็นสงครามจำกัดวงแบบนี้ต่อไป
จากการรบในช่วงแรกที่ทางไทยเข้าตีตามกรอบคือเข้าทางด้านหน้าได้รับการต้านทานอย่างหนักและยากต่อการเคลื่อนกำลัง จึงมีการใช้เครื่องบินรบ เอฟ 5 เข้าไปทิ้งระเบิดบนเนิน 1428 และที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ในเขตลาว จนเสียหายอย่างหนัก
สนามบินบ้านน้ำทาของลาว จากภาพถ่ายทางอากาศเนิน 1428 แต่การโจมตีครั้งนี้มีการใช้อาวุธใหม่เป็นครั้งแรก เช่น GBU 12 500 ibs GBU 10 2000 lbs กระเปาะชี้เป้า
ไทยบอมพวกเดียวกันเอง
เป็นความผิดพลาดของกองกำลังภาคพื้นดิน (ม.พัน 18) ที่ไม่เข้าใจถึงอำนาจการทำลายของระเบิด 500 lb ที่ F-5 ทิ้งลงมาโจมตีเป้าหมาย ทหารเราเคลื่อนที่เข้าใกล้ที่หมายเมื่อได้รับการแจ้งเตือนว่าจะมีการโจมตีทางอากาศ ก็มีการสั่งให้ถอนกำลังออกมาให้อยู่ในระยะที่ปลอดภัยจากรัศมีอำนาจการทำลาย
แต่ด้วยความไม่รู้/ไม่เข้าใจถึงอำนาจการทำลาย หรืออาจเป็นเพราะสภาพภูมิประเทศที่ยากลำบาก จึงถอนกำลังออกมาไม่พ้นรัศมีการทำลายของระเบิดสูญเสียไป 18 นาย
สถานการคับขันพลันคลี่คลาย กระสุนปืนใหญ่ถูกยิงจนหมด
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สั่งการให้อดีตทูตไทยประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน คือ พ.อ.อมรรัตน์ จินตกานนท์ ร่วมกับ “คณะทำงานลับ” คนหนึ่งและทีมงาน ติดต่อประสานงานกับกองทัพจีน นำไปสู่กระบวน การวิธีพิเศษลำเลียงทั้งปืนใหญ่และกระสุนจากจีนมาใช้ เสียงปืนใหญ่ที่เปลี่ยนไปเปรียบเหมือนสาส์น ที่บอกไปยังทางการลาวว่าเราไม่ได้รบอย่างเดียวดายอีกต่อไป !!
2
การทิ้งระเบิดจากเอฟ 5 แต่ทางลาวมีที่ตั้งแข็งแรง และเตรียมการตั้งรับอย่างดี บางรายงานกล่าวว่าเมื่อไม่สามารถเข้าไปตรง ๆ ได้ กองทัพไทยได้ส่งหน่วยสงครามพิเศษแทรกซึมเข้าไปในพื้นที่ของลาวเพื่อทำการโจมตีระบบส่งกำลังบำรุงและค้นหาที่ตั้งปืนใหญ่ ทำให้การปฏิบัติการของลาวถูกกดดันมากยิ่งขึ้น ซึ่งทางการไทยได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบในการรบใหม่เนื่องจากมีการสูญเสียกำลังพลและไม่สามารถรุกคืบหน้าได้
21 มกราคม 2531 มีการปรับยุทธวิธีการสู้รบครั้งใหญ่เพราะไทยเริ่มมีการสูญเสียมากขึ้นและเพื่อลดความสูญเสียดังกล่าว จึงมีการปรับปรุงยุทธการรบให้เหมาะสมยิ่งขึ้นต่อยุทธภูมิที่เป็นอยู่
ทางไทยเริ่มมีการใช้การรบนอกแบบและได้ผล สร้างความกดดันต่อการปฏิบัติการของฝ่ายลาวเป็นอย่างมาก หน่วยรบพิเศษเข้าตัดกำลังในแนวหลัง ลาวเริ่มมีปัญหาการส่งกำลังบำรุงกำลังคนกระสุน
การระดมยิงปืนใหญ่กดดันอย่างหนักในช่วงหลังสงคราม
ลาวเสนอการเจรจา
11 กุมภาพันธ์ 2531 นายไกรสอน พรมวิหาร นายกรัฐมนตรีลาวได้ส่งสาสน์ถึงพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีของไทยเสนอให้ทหารทั้งสองฝ่ายพบแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้โดยเร็ว ลาวพร้อมที่จะส่งคณะผู้แทนทหารมากรุงเทพ มหานครและยินดีที่จะต้อนรับคณะผู้แทนทหารของประเทศไทยที่จะเดินทางไปนครเวียงจันทน์เพื่อปรึกษาหารือ
หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่ากรณี
พิพาทระหว่างไทยกับลาวครั้งนี้เป็นแรงผลักดันที่ลาวได้รับจากเวียดนามและโซเวียตซึ่งพยายามขัดขวางการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับลาวมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๐ และเป็นหนึ่งในแผนตัดขาดและยึดภาคอีสานของไทยตามยุทธการตัว L (L Operation) และรวมภาคอีสานของไทย ลาว เขมร เวียดนาม เป็นสหพันธ์อินโดจีนโดยมีเวียดนามเป็นผู้นำ
ลักษณะภูมิประเทศรูปตัวแอลใหญ่คือพื้นที่ป่าภูเขาบริเวณรอยต่อจังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดเลย ทอดตัวยาวลงมาทางใต้ตามแนวเทือกเขาเพชรบูรณ์มาบรรจบกันบริเวณเขาใหญ่ บริเวณรอยต่อจังหวัดนครราชสีมา จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดนครนายก และจังหวัดสระบุรี ซึ่งทอดตัวยาวมาจากทิศตะวันตกตั้งแต่จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดบุรีรัมย์
ตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก เขาบรรทัด เขากำแพง และบรรจบกันที่เขาใหญ่ อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา
ในช่วงดังกล่าวบางรายงานแจ้งว่ามีทหารเวียดนามในลาวประมาณ ๖๐,๐๐๐ คน และในเขมรประมาณ ๑๕๐,๐๐๐ คน ซึ่งอาจจะต้องการเปิดศึก ๒ ด้าน ให้ไทยพะว้าพะวงทั้งการรุกที่บ้านร่มเกล้าตีเจาะมาทางเหนือและตีรุกเข้ามาที่ช่องบกทางใต้เพื่อตัดและยึดภาคอีสานเลยหากรณีมาอ้างเพื่อทำการรบ
ข้อสังเกตุ
การทำสงครามเหนือพื้นที่พิพาทอาจเป็นเพียงการเช็คกำลังฝ่ายไทยซึ่งจีนคือตัวแปรสำคัญในเหตุการครั้งนี้
อีกหนึ่งตัวแปรสำคัญ
การขัดแย้งกันในกองทัพและสายทางการเมือง
ที่ต้องการแย่งอำนาจการเมืองจากทางทหาร
เลยทำการสร้างความแตกแยกในกองทัพและมีการให้ข้อมูลแก่ฝ่ายตรงข้ามเกี่ยวกับแผนการรบ เนื่องจากในช่วงนั้น ส.ส. หลายคน อดีตเคยเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยมาก่อนและมีความสัมพันธ์กับทหารบางกลุ่ม บางคนเคยเป็นสมาชิกของเขมรแดง หลังจากนโยบาย ๖๖/๒๓
จึงเข้ามาต่อสู้ทางการเมือง อีกทั้งฝ่ายทหารยังแตกแยกเรื่องการบังคับบัญชา
ไกสอน พมวิหาร นายกรัฐมนตรีได้เจรจาขอหยุดยิงเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 และเสนอให้ถอนกำลังของทั้งสองฝ่ายออกจากกันเป็นระยะ 3 กิโลเมตร
ปิดฉากสงครามร่มเกล้า
ฝ่ายไทย เสียชีวิต 147 นาย พิการ 55 นาย บาดเจ็บสาหัส 167 นาย บาดเจ็บเล็กน้อย 550 นาย
ฝ่ายลาว ทหาร สปปล. เสียชีวิต 286 นาย บาดเจ็บ 301 นาย ทหารเวียดนาม เสียชีวิต 157 นาย บาดเจ็บ 112 นาย ทหารโซเวียตเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 2 นาย ทหารคิวบา เสียชีวิต 2 นาย
บทสรุป
ไทยบรรลุเป้าประสงค์รักษาอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนกรณีพิพาทเนื้อที่ 72 ตร.ก.ม บ้านร่มเกล้าปัจจุบันเป็นของไทยโดยสมบูรณ์
#พี่วี มีมุ่งบุญ
ประวัติศาสตร์
เรื่องเล่า
หนังสือ
2 บันทึก
9
3
2
9
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย