1 ก.ย. 2022 เวลา 00:05 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
The Up Rank - อาชญาเกม
Filmment Rating : 7.0
#เนื้อเรื่องย่อ
เรื่องราวของ ยู เด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ในการเล่นเกม แต่เขายังไม่รู้ว่าจะใช้พรสวรรค์นั้นอย่างไรจนกระทั่งยูได้มาพบกับ โฮม นักปั๊มแรงค์มากฝีมือชวนมาเข้าร่วมกระบวนการด้วย ยูจึงตัดสินใจใช้ฝีมือของเขาในการหาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง แต่เมื่อรู้ตัวอีกทีพวกเขาก็ถลำลึกจนเกินจะหันหลังกลับได้แล้ว
#ความเห็น
นอกจากการหยิบเอาเนื้อเรื่องจากวิดิโอเกมมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์แล้ว เมื่อพูดถึงภาพยนตร์เกี่ยวกับวงการเกม ก็มักจะมีเนื้อเรื่องอยู่ไม่กี่แบบครับ หลักๆ ก็คือการรวมทีมกันของเหล่าตัวละครเพื่อเข้าแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตเป็นหลัก แต่ภาพยนตร์เรื่อง The Up Rank อาชญาเกม เลือกหยิบยกเอาสิ่งที่ถูกนิยามว่า “ผิดกฎเกม แต่ไม่ผิดกฎหมาย” อย่างการปั๊มแรงค์มาบอกเล่าในภาพยนตร์ครับ
อธิบายเพิ่มเติมสำหรับผู้อ่านที่ไม่ได้เป็นคอเกมนะครับ เกมออนไลน์ยุคปัจจุบันนั้นจะมีสิ่งที่เรียกว่า แรงค์ หรือการจัดอันดับผู้เล่นทุกคนในเกมครับ โดยแต่ละเกมนั้นก็จะมีชื่อเรียกของแต่ละแรงค์แตกต่างกันไป เมื่อผู้เล่นทุกคนไต่ระดับไปยังแรงค์ที่สูงขึ้น ก็จะยิ่งเจอกับคู่แข่งที่เก่งกาจมากขึ้นตามลำดับ นำมาซึ่งการประลองฝีมือกันอย่างสูสีระหว่างการเล่นครับ
จึงเป็นเรื่องปฏิเสธไม่ได้ครับว่า แรงค์หรืออันดับส่วนตัวของผู้เล่น เป็นดั่งหน้าตาของผู้เล่นแต่ละคน ยิ่งแรงค์สูงก็ยิ่งดูเก่งกาจ ยิ่งสถิติดีก็ยิ่งน่าจับตามอง ซึ่งแรงค์หรือหน้าตาของผู้เล่นก็นำมาซึ่งโอกาสต่างๆ ในชีวิตจริงครับ ไม่ว่าจะเป็น โอกาสในการถูกมองเห็นและถูกคัดเลือกเป็นนักแข่งเกม , การผันตัวเป็นสตรีมเมอร์ หรือการเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับเกมนั้นๆ
จึงนำมาซึ่งช่องโหว่ของเกมในการที่ผู้เล่นเลือกจ้างคนที่มีฝีมือมากกว่าตัวเองมาเล่นแทน เพื่ออันดับในเกมที่สูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ครับ ซึ่งกระบวนการปั๊มแรงค์นั้นมีอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง มีการจัดการบัญชีผู้เล่นอย่างเป็นระบบ และเป็นหนึ่งในธุรกิจที่บ่อนทำลายสังคมของการเล่นเกมเป็นอย่างมาก โดยหากอธิบายอย่างเข้าใจง่ายที่สุดแล้ว การปั๊มแรงค์ให้สูงกว่าความสามารถที่แท้จริงของผู้เล่น ก็คือการตกแต่ง Resume ให้สวยงามเกินความสามารถที่แท้จริงของผู้สมัครงานนั่นเองครับ
สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดจากภาพยนตร์เรื่อง The Up Rank อาชญาเกม ก็คือ การฉีกภาพลักษณ์อันคุ้นตาของเหล่าเกมเมอร์ไปโดยสิ้นเชิงครับ เนื่องจากเหล่าเกมเมอร์นั้นเป็นกลุ่มตัวละครที่มักจะถูก Stereotype ว่าเป็นเด็กเนิร์ด ใส่แว่นตาหนาเตอะ ไม่มีสังคม รวมถึงยังเป็นคนอ่อนแอและขี้แพ้อีกด้วย
แต่กลุ่มตัวละครหลักจาก The Up Rank ถูกดีไซน์ใหม่ให้เต็มไปด้วยความเท่ห์ มีเสน่ห์ และล้วนมีความแตกต่างกันในหลากหลายมิติครับ นอกจากนี้ทุกคนยังเต็มไปด้วยปูมหลังอันเฉพาะตัว โดยภาพยนตร์เลือกที่จะไม่ได้สำรวจปูมหลังเหล่านั้นอย่างชัดแจ้งมากนัก ในนัยหนึ่งก็เพื่อคงไว้ซึ่งความสงสัยใคร่รู้ของผู้ชม ในการเกาะติดเรื่องราวของพวกเขาไปยังจุดเฉลยของเรื่อง
แต่ในอีกนัยหนึ่ง มันก็สามารถสะท้อนภาพที่ผู้คนภายนอกมีต่อเหล่าเกมเมอร์ ที่ยังคงเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจในบริบทของพวกเขา ไม่สามารถมองทะลุปัญหาที่พวกเขาเผชิญ ตั้งคำถามถึงเส้นทางชีวิตในอนาคต รวมถึงการเหยียดหยามดูถูกว่าเป็นคนติดเกมครับ
นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังเลือกที่จะนำเสนอการปั๊มแรงค์ให้เป็นดั่งอาชญากรรมแขนงหนึ่ง พร้อมพาผู้ชมเข้าสู่โลกใต้ดินของเหล่าเกมเมอร์ได้อย่างน่าสนใจ แน่นอนครับว่ามันขาดความสมจริง และถูกปั้นแต่งให้งดงามน่าดึงดูด แต่โดยส่วนตัวแล้วผมถูกจริตกับโลกที่ภาพยนตร์สร้างขึ้นมาครับ
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มน่าติดตามมากขึ้น เมื่อเหล่าตัวละครทุกคนเริ่มดำดิ่งและถลำลึกเกินกว่าจะถอยหลังได้ แรงค์ที่สูงขึ้นอย่างฉับพลันของพวกเขา กลับสวนทางกับกราฟชีวิตที่ดิ่งลงราวกับตกเหว ภาพยนตร์เลือกผลักตัวละครทุกคนให้พบเจอกับจุดแตกหักในชีวิต จนทำให้พวกเขาค่อยๆ เผยธาตุแท้และมิติที่เปราะบางออกมามากขึ้นเรื่อยๆ
ช่วงที่เข้มข้นที่สุดของภาพยนตร์ คือช่วงที่เหล่าตัวละครล้วนประหัตประหารกันเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ซึ่งแต่ละคนล้วนมีแรงผลักดันและเหตุผลที่แตกต่างกัน เมื่อมองจากมุมนี้จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ภาพยนตร์เลือกจะเก็บงำปูมหลังบางอย่างของตัวละครเอาไว้ จนทำให้ผู้ชมไม่เข้าใจถึงการตัดสินใจบางอย่างของตัวละครเท่าที่ควร
ขณะเดียวกันภาพยนตร์ก็เลือกที่จะถ่ายทอดหลายปมปัญหาของตัวละคร ซึ่งแม้จะทำให้ผู้ชมเข้าใจพวกเขาได้มากขึ้นในบางบริบท แต่หลายต่อหลายปมล้วนถูกปูเอาไว้แต่ไม่ได้รับการสานต่อ จนกลายเป็นเส้นเรื่องที่ขาดน้ำหนักและไร้ความจำเป็นกับเรื่องราวครับ
ด้วยการกระทำความผิดของชีวิตวัยรุ่น จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่อง The Up Rank อาชญาเกม มีความเป็น Coming of Age อยู่ในตัวด้วยเช่นกันครับ เมื่อเหล่าตัวละครได้ก้าวออกจากพื้นที่ที่พวกเขาคุ้นเคย ได้พบเจอกับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ อีกทั้งยังได้ตามหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง พร้อมตั้งคำถามกับความฝัน อนาคต และเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต
แต่ถึงกระนั้นภาพยนตร์กลับมีตอนจบที่รวบรัดตัดตอนไปสักหน่อย หลายต่อหลายอย่างถูกเล่าออกมาอย่างเรียบง่าย ทั้งที่มันสามารถเป็นไม้เด็ดในการกระชากอารมณ์ของผู้ชมได้เป็นอย่างดี แต่อย่างน้อย The Up Rank อาชญาเกม ก็ยังไม่ได้เลือกตอนจบที่โลกสวยหรือจบตามพิมพ์นิยมจนเกินไปนัก
นักแสดงอย่าง เอม ภูมิภัทร นั้นโดดเด่นและขโมยซีนได้ในทุกวินาทีครับ ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวของเขาทำให้ตัวละครอย่าง โฮม ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างน่าดึงดูด ลุ่มลึก เต็มไปด้วยไหวพริบ และไม่น่าไว้วางใจอยู่ตลอดเวลาครับ ในขณะเดียวกันเมื่อเขาต้องพลิกโฉมในการถ่ายทอดแง่มุมที่เปราะบางของตัวละคร เจ้าตัวก็สามารถทำให้ผู้ชมเข้าใจถึงแรงผลักดันภายในของตัวละครได้เป็นอย่างดีครับ
อีกหนึ่งคนที่แสดงได้อย่างมันส์หยดก็คือ แจ็ค กิตติศักดิ์ กับตัวละครอย่าง พีท ครับ โดยเฉพาะกับพฤติกรรมอันคาดเดาไม่ได้ของเขา ที่ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่ากลัวและเร้าใจภายในเวลาเดียวกันครับ
ส่วนนักแสดงสาวอย่าง มีน สุดารัตน์ ก็สามารถสร้างเสน่ห์ให้กับตัวละครได้อย่างน่าชื่นชมครับ ในขณะเดียวกันผู้ชมก็สามารถสัมผัสได้ถึงบาดแผลที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้ภายใต้ภาพลักษณ์อันแสนเซ็กซี่ของเธอครับ
ส่วน กิต Three Man Down ก็มีพัฒนาการที่น่าจับตามองขึ้นเรื่อยๆ และสามารถถ่ายทอดตัวละครของเขาออกมาได้เป็นอย่างดีครับ แต่ต้องยอมรับตามตรงครับว่า เมื่อเทียบรัศมีกับเพื่อนร่วมจอแล้ว เขาโดนพลังงานอันล้นเหลือของทุกคนกลบอยู่พอสมควรครับ
นอกจากนี้ The Up Rank อาชญาเกม ยังมีงานสร้างที่ยอดเยี่ยม ทั้งการกำกับภาพที่โดดเด่นและการจัดแสงที่ฉูดฉาด รวมถึงการกำกับศิลป์ที่สามารถเนรมิตโลกใต้ดินของเหล่าเกมเมอร์ให้ออกมาเหมือนโลกของอาชญากรได้แปลกตาครับ แม้ว่าบทภาพยนตร์ยังมีจุดอ่อนอยู่บ้าง แต่โดยภาพรวมแล้ว The Up Rank เป็นตัวอย่างที่น่าชื่นชมในแง่ของการคิดเรื่องราวที่ฉีกออกจากกรอบ และไม่จำเป็นต้องหวังพึ่ง Computer Graphic หรืองานสร้างระดับอลังการอะไรมากมายนัก ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถสื่อสารสิ่งที่ต้องการจะเล่าเอาไว้ได้อย่างครบถ้วนครับ
#ประเด็นตกผลึก
ประเด็นตกผลึกจากภาพยนตร์เรื่อง The Up Rank อาชญาเกม ที่ผมจะชวนผู้อ่านทุกท่านมาคุยกันในวันนี้ก็คือ
การสัมผัสกับตำแหน่งที่สูงกว่าจุดที่ควรจะอยู่
ประโยคดังกล่าวเป็นคำพูดของโฮม ที่พูดถึงการจ้างปั๊มแรงค์ในภาพยนตร์ครับ โดยการปั๊มแรงค์นั้นนับเป็นการไต่อยู่บนเส้นแบ่งระหว่างความถูกผิด เนื่องจากมันเป็นเรื่องที่ผิดกฎของเกม แต่มันไม่ใช่การกระทำที่ผิดกฎหมายครับ แต่นอกเหนือจากการปั๊มแรงค์แล้ว ทุกอย่างที่ทุกตัวละครตัดสินใจทำนั้นมันล้วนทดสอบคุณธรรมภายในจิตใจของตัวละครทั้งสิ้น
ภาพยนตร์แสดงให้เราเห็นอย่างชัดเจนครับว่า ตัวละครทั้ง 4 คนนั้นต่างเลือกเดินเข้าสู่เส้นทางของการปั๊มแรงค์เพียงเพราะพวกเขาต้องการจะหลีกหนีจากอะไรบางอย่างในชีวิตจริงครับ แม้ว่าพวกเขาจะได้เงินจำนวนมหาศาลเป็นค่าตอบแทน แต่มันก็แลกมากับความรู้สึกผิดอยู่เต็มอก และการน้อมรับผลที่จะตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของพวกเขาเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางก็คือ การใช้ความต้องการของลูกค้าในการสัมผัสกับแรงค์ที่สูงกว่าความสามารถของตัวเองมาเป็นแรงผลักดันครับ แต่เมื่อธุรกิจของพวกเขาเฟื่องฟูจนถึงขีดสุด พวกเขากลับถูกความต้องการอันเป็นอาวุธหลักของธุรกิจของพวกเขา ในการสัมผัสกับคุณภาพชีวิตที่สูงกว่าที่พวกเขาเป็นในโลกแห่งความเป็นจริงเข้าครอบงำ และเนื่องจากความต้องการสูงสุดในชีวิตของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน จึงทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาเดินทางมาถึงจุดแตกหักในที่สุดครับ
หากการเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตคือจุดสูงสุดในชีวิตของเหล่าเกมเมอร์ ขั้วตรงข้ามของความสวยงามนั้นก็คือการเป็นนักปั๊มแรงค์เบอร์ต้นๆ ของวงการเช่นกันครับ โดยแม้เส้นทางทั้ง 2 แบบนั้นจะต้องใช้ฝีมือในการเล่นเกมเป็นตัวตั้ง และสามารถพาเหล่าเกมเมอร์ไปสู่จุดสูงสุดของชีวิตได้เหมือนกัน แต่การไต่ระดับและยืนระยะในวงการเกม เกียรติยศ ชื่อเสียง และความภาคภูมิใจนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ
ดังนั้นแก่นสารสำคัญที่ภาพยนตร์เรื่อง The Up Rank สะท้อนออกมาสู่สายตาของผู้ชมก็คือ การยอมรับในความสามารถที่แท้จริงของตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าอับอายแต่อย่างใดครับ เราไม่สามารถเรียกร้องให้คนทั้งโลกหันมาเข้าใจเราอย่างถ่องแท้ได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่เราเข้าใจในตัวเอง และยอมรับในสิ่งที่เราเป็นอย่างไร้เงื่อนไข ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวจะทำให้เราเข้าใจสัจธรรมข้อหนึ่งของชีวิตครับว่า เราไม่สามารถเอาชนะในทุกการแข่งขันของชีวิตได้ ฝากไว้ให้คิดกันนะครับ
#TheUpRank #อาชญาเกม #Filmment
โฆษณา