ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ผ่านมาเป็นหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนให้ทั้งเจ้าของพื้นที่และผู้อยู่อาศัยในเมืองใหญ่ต้องปรับตัว
สิ่งที่คนรุ่นใหม่ตั้งแต่เจเนอเรชัน Y ลงมากำลังมองหาในโลกหลังโควิด คือ รูปแบบการใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย เดินทางได้ง่าย และสอดคล้องกับรายได้และค่าใช้จ่ายของตัวเอง กลุ่มคนโสดหรือครอบครัวเดี่ยวจึงเริ่มเปิดใจอีกครั้งที่ให้ความสนใจกับที่อยู่อาศัย ซึ่งมีการใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกับผู้อื่นเป็น Co-Living Real Estate เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
เช่นเดียวกับฝั่งอสังหาริมทรัพย์ซึ่งกำลังให้ความสำคัญกับ Co-Living Real Estate ทั้งในโครงการ Mixed-Use หรือโครงการเดี่ยวซึ่งมักตั้งในพื้นที่ใจกลางเมือง อย่างไรก็ตาม Co-Living Real Estate ยังอาจจำแนกได้ตามวัตถุประสงค์ของผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังมีมุมมองอนาคตของการใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน ได้แก่
1. Long stay to permanent residence: อยู่ยาวและอยู่นาน
อสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านหรืออพาร์ทเม้นท์ยังเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่งโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพราะรูปแบบการอยู่อาศัยส่วนมากมักเป็นสัญญาเช่าระยะยาว ไปจนถึงการซื้อเพื่อถือครองกรรมสิทธิ์ร่วมกัน
นอกจากนี้ยังมีกรณีศึกษาของวิถีชีวิตแบบ Co-Living หรือ Cohousing ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้หลากหลาย อาทิ กลุ่มเพื่อนที่เป็นโสดตัดสินใจจะมาอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า หรือครอบครัวเดี่ยวที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายและสะดวกใจที่จะแชร์พื้นที่ส่วนกลางกับครอบครัวอื่น หรือโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการเปลี่ยนภาพจำเกี่ยวกับบ้านพักคนชรา มีพื้นที่ส่วนกลางแบบพรีเมียม เช่น ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร พื้นที่นั่งทำงาน ไปจนถึงยิมสำหรับออกกำลังกาย เป็นต้น
โครงการในลักษณะดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้ผู้บริหารพื้นที่หรือเจ้าของโครงการนำเสนอบริการประเภทการจัดกิจกรรมนันทนาการ บริการสุขภาพ ไปจนถึงกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้อยู่อาศัย
อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายเกี่ยวกับการออกแบบและจัดการระหว่างการแยกความรับผิดชอบพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ส่วนรวมให้ชัดเจน รวมไปถึงขอบเขตการใช้งานพื้นที่ส่วนรวมของผู้อยู่อาศัย วิธีหนึ่งอาจเป็นการตกลงกันระหว่างผู้อยู่อาศัย แต่ผู้พัฒนาโครงการสามารถป้องกันและจัดการประเด็นนี้ได้ด้วยการออกแบบพื้นที่ใช้สอย การนำเสนอบริการเพื่ออำนวยความสะดวกต่าง ๆ และการออกกฎการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางที่เกิดจากความเข้าใจพฤติกรรมผู้อยู่อาศัยจริง
จากผลสำรวจพบว่าผู้อยู่อาศัยกว่า 79% ต้องการให้พื้นที่ส่วนกลางมีพื้นที่ออกกำลังกาย หรือพื้นที่ทำงานอย่าง Coworking space ควรเปิดให้เข้าใช้งานตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง และผู้อยุ่อาศัยส่วนใหญ่มักต้องการให้มีการตกแต่งพื้นที่ส่วนกลางให้เรียบร้อย เป็นต้น
2. Temporary stay with a purpose: อยู่เพียงชั่วคราวอย่างมีเป้าหมาย
การใช้พื้นที่จะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การและระยะเวลาการอยู่อาศัย เช่น ระยะสั้นอย่างนักท่องเที่ยว หรือระยะกลางจนถึงระยะยาวอย่างกลุ่มวัยทำงานและนักเรียนนักศึกษา
สำหรับการเข้าพักและใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันของนักท่องเที่ยว เช่น โรงแรม โฮสเทล วิลล่า ห้องพักริมทาง (โมเทล) มักเป็นการเข้าพักระยะสั้น มีระยะเวลาที่ชัดเจนแน่นอน แต่ก็อาจมีทั้งช่วงที่คนเข้าพักเต็มทุกห้องหรือาจไม่มีคนเข้าพักเลย เจ้าของพื้นที่จึงจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อประชาสัมพันธ์พื้นที่ของตนเองให้เป็นที่รู้จักในแพลตฟอร์มต่าง ๆ และมีกลยุทธ์การจัดการความสัมพันธ์กับผู้เข้าพักอย่างมีประสิทธิภาพ
อีกกรณีหนึ่งคือผู้เข้าพักประเภทนักเรียนนักศึกษาหรือกลุ่มวัยทำงานที่พักแบบ Co-Living อาจมาในลักษณะของหอพักหรือ Coworking space ที่มีที่นอนให้ มักพบในเมืองด้านการศึกษา เมืองที่เป็นพื้นที่ขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ หรือที่ที่มีกลุ่มชาวต่างชาติอาศัยอยู่เยอะ พื้นที่ส่วนมากอาจเป็นบริการสืบเนื่องจากข้อสัญญาผูกพันอื่นหรือเป็นการเช่าตามตกลงกับสถาบันการศึกษาหรือองค์กรที่ทำงาน
โดยผู้บริการจัดการพื้นที่สามารถนำเสนอบริการต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัยได้ในลักษณะ “Subscription economy” เช่น บริการทำความสะอาด บริการซื้อและจัดส่งของใช้ในบ้าน บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
นัยยะสำคัญที่มีต่ออนาคต:
- การออกแบบรูปแบบการชำระเงินสำหรับผู้ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์แต่ยังมีกำลังซื้อน้อย อาจเป็นโอกาสให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่และมีโอกาสมีรายได้ระยะยาวในอนาคต
- ธุรกิจประเภทออกแบบเครื่องเรือนครบวงจร สิ่งอำนวยความสะดวก และพื้นที่เช่าเพื่อจัดเก็บสิ่งของภายในการบริหารจัดการพื้นที่อสังหาริมทรัพย์เดียวกัน จะเป็นปัจจัยส่งเสริมให้โครงการอสังหาริมทรัพย์เป็นที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
- Tokenization หรือการทำสินทรัพย์ให้เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างโทเคนอย่าง Non-Fungible Token (NFT) ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเป็นเจ้าของพื้นที่บางส่วนของอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงได้ด้วยการแบ่งกรรมสิทธิ์หรือ Fractional Ownership จะกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจหลักในอนาคต
อ้างอิงจาก
อยากรู้จักเรามากขึ้น คลิก www.futuretaleslab.com หรือติดตามที่ https://www.blockdit.com/futuretaleslab
#FutureTalesLAB #FuturePossible #FutureUpdate #FutureofLiving #CoLiving #RealEstate #MQDC
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
