Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
InfoStory
•
ติดตาม
2 ก.ย. 2022 เวลา 09:17 • ไลฟ์สไตล์
ผลไม้เหล่านี้...ก็นำมาทำเป็น "ไวน์" ได้ด้วยเหรอ ?
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จัดเลี้ยงฉลองวันเกิดคนในครอบครัว
มีญาติท่านนึงนำแอปเปิ้ลไวน์ (Apple wine) มาฉลองให้กับเจ้าของวันเกิด 🍎🍷
(อันนี้เป็นแอปเปิ้ลไวน์ ที่ไม่ใช่ Cider นะคร้าบ)
พอได้ลองชิมแล้วก็ โอ้ ! รสชาติใหม่ (อาจใหม่เพราะเราไม่ค่อยได้ลองทานไวน์ผลไม้อื่น ๆ นอกจากไวน์องุ่นแน่ ๆ เลย)
ก็เลยพลันนึกถึงไวน์กล้วย ที่เคยไปลองชิมที่ฟิลิปปินส์ ก็เลยเริ่มเกิดความสนใจ
ด้วยความที่เป็นมือใหม่สไตล์ InfoStory เลยอยากรู้เรื่องราวว่ามันมีไวน์ผลไม้แบบไหนบ้างนะ (ที่ไม่ใช่ไวน์องุ่น)
พวกเรา InfoStory จึงไปจัดหาและเขียนเรื่องราวความเป็นมาให้เพื่อน ๆ อ่านกันเพลินเพลิน
ว่าแล้ว ก็ไปรับชมกันเลยดีกว่าคร้าบบ ! 😊👇
[ ไวน์ผลไม้ มันถูกค้นพบตอนไหนกันนะ ? หรือว่ามันเป็นเพียงแค่ไวน์ที่หลบอยู่ใต้เงาของไวน์องุ่น ? ]
ไวน์ผลไม้ (Fruit Wine) เป็นไวน์ที่ผลิตคล้ายไวน์องุ่น เพียงแต่ใช้ผลไม้ชนิดอื่น ๆ และไม่ต้องใช้เวลาหมักที่นาน ไม่ต้องมีกระบวนการเยอะแบบไวน์องุ่น (บางชนิดอย่าง Sangria ก็อาจมีผสมกับไวน์องุ่น)
หรือ ถ้าเป็นไวน์ผลไม้ที่ไม่ผสมองุ่นเลย จะเรียกตรงตัวว่า "Non-Grape Wine" 🍷🍎🍊🍉🍌
ต้นกำเนิดของไวน์ผลไม้เนี่ย ก็ว่ากันว่าอาจเกิดขึ้นพร้อมกับตอนที่มนุษย์ได้เรียนรู้วิธีการผลิตไวน์องุ่น (จากน้ำขังของเถาองุ่นที่พวกเราเคยเล่าไป)
เท่าที่ค้นหามา นักประวัติศาสตร์เคยระบุไว้ถึงการค้นพบไวน์ผลไม้ ที่ทำจากลูกฟิกและแตงโม เมื่อประมาณ 15,000 ปี ซึ่งตรงกับอารยธรรมเมโสโปเตเมีย (เขาบอกว่าพบที่ Mesopotamia Valley) ⛰
ซึ่งนักประวัติศาสตร์ยังได้ประมาณการจากซากไหหมักที่พบว่าตัวน้ำของไวน์ผลไม้ชนิดนี้มีความเหนียวมากกว่าไวน์องุ่นปกติ ซึ่งน้ำตาลน่าจะสูงและปริมาณแอลกอฮอล์น่าจะเกิน 30%
💡อันที่จริงแล้ว ประวัติศาสตร์ต้นกำเนิดของไวน์ผลไม้ อาจย้อนไปไกลได้มากกว่านั้น
เพียงแต่ว่า…บันทึกในประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ของมนุษย์ มักจะเอนเอียงไปทางความยึดติดที่ว่า ไวน์จะต้องทำมาจากองุ่น เสียมากกว่า 🤔
คือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของศาสนาที่ว่าสีไวน์องุ่นที่เปรียบเหมือนตัวแทนของโลหิตจากพระเจ้า, เรื่องของค่านิยมและการแบ่งชนชั้นที่ส่งถอดมาตั้งแต่สมัยโบราณด้วยการดื่มไวน์องุ่น
แต่เรื่องหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของไวน์องุ่น คือ ลักษณะเฉพาะตัวขององุ่นที่ทำให้ไวน์มีรสชาติลงตัวมากที่สุด และผลิตได้เป็นระบบมีแบบแผนมาก (คือผลิตให้ถูกปากคนได้ง่ายกว่า แถมมีให้เล่นหลากหลายพันธุ์อีก)
แต่เอาเป็นว่าในบทความนี้ เราจะไม่เชียร์ไวน์องุ่นนะคร้าบ (555 เกือบลืมซะแล้ว) 😅✋
☝️🍷🍊กลับมาที่ไวน์ผลไม้กันต่อดีกว่า !
(เอ้า ตัดกลับง่าย ๆ กันสไตล์ InfoStory แบบนี้ละ ฮ่า ๆ)
อันที่จริง ไวน์ผลไม้ ก็ไม่ได้เงียบหายไปนะ แต่กลับเป็นที่นิยมชมชอบไล่เลี่ยกับไวน์องุ่นมาเลย (แต่ไม่มากเท่า)
ยกตัวอย่างเช่น
- อาลีเยนอร์แห่งอากีแตน สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ (Eleanor of Aquitaine) ทรงโปรดปรานมากไวน์ที่ทำจากลูกแพรเอาเสียมาก ๆ (ในช่วงศตวรรษที่ 12)
- เลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) ยังชอบดื่มไวน์ผลไม้อย่าง ไวน์พีชและไวน์ลูกฟิก
Eleanor of Aquitaine
Leonardo da Vinci)
สำหรับอนาคตของไวน์ผลไม้
เราได้ไปอ่านบทความ “Why Fruit Wines Are the Next Big Thing in Natural Winemaking” ของเว็ปไซต์สาระความรู้อย่าง Thrillist
ซึ่งใจความสำคัญอย่างหนึ่งที่น่าคิดต่อ คือส่วนหนึ่งของบทความ ที่เขาทำนายไว้ว่า “ไวน์ผลไม้ อาจเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดจากไวน์องุ่นในอเมริกาในอนาคตอันใกล้”
สาเหตุสำคัญคือ สภาวะอากาศที่แปรปรวนและ ร้อนมากเกินไป หนาวมากเกินไป หรือ แห้งแล้งจนทำให้สภาพดินไม่สมบูรณ์ เหล่านี้เป็นตัวการที่ทำให้องุ่น(ไวน์)ปลูกยากขึ้น(หรือเพื่อน ๆ อาจคุ้นกับคำนิยามว่า แตร์รัว)
ต้นทุนของไวน์องุ่น ก็สูงมากขึ้น… องุ่นบางสายพันธุ์ น้องก็ปลูกให้งอกงามทันกินค่อนข้างยาก
จนผู้ประกอบการหน้าใหม่เริ่มหันไปผลิตไวน์ผลไม้อื่น ๆ แทน
รวมถึงผู้บริโภคไวน์สมัยใหม่ ไม่ได้อินกับการดื่มด่ำกับรสชาติที่ซับซ้อน (แค่หวานนำหน่อย ดื่มง่ายสบาย ซึ่งตรงนี้ ไวน์ผลไม้ที่ผสมน้ำตาล ก็เป็น shortcut ดีดีทางหนึ่ง)
เท่าที่พวกเราเข้าใจในแบบฉบับมือใหม่
ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงไวน์ผลไม้แบบง่าย ๆ คือ สามารถทำได้เอง คล้าย ๆ กับการหมักเบียร์ (เพียงแค่ไม่ใช่เบียร์ เพราะว่าใช้แค่ผลไม้+น้ำตาลและยีสต์)
ยกตัวอย่างเช่น ไวน์กล้วย (Banana Wine) ที่สามารถทำเองที่บ้านได้ (อันนี้เราไปดูคลิปที่มีฝรั่งเขาเคยทำมานะคร้าบ ไม่ได้เคยลองเองเด้อ)
เค้าก็นำกล้วย หั่นเป็นแว่นและนำไปหมัก
โดยหากเราเติมน้ำตาลเยอะ + ยีสต์ที่ทนต่อความเค้น (high-tolerance yeast) ผลที่ได้ออกมาก็จะเป็นไวน์ผลไม้ที่มีความหวานสูงและแอลกอฮอล์สูง
ในทางตรงข้ามกันถ้าเราใช้น้ำตาลน้อยและยีสต์แบบ low-tolerance yeast ก็จะทำให้ไวน์มีลักษณะเป็นดรายไวน์ (dry) และแอลกอฮอล์จะไม่สูงมาก (ซึ่งผลไม้บางชนิด ก็อาจไม่เหมาะกับการทำแบบดรายไวน์)
เรื่องตรงนี้เลยทำให้พวกเรานึกถึงการหมักเหล้าบ๊วยอย่างอูเมะชูของญี่ปุ่นเลย ที่ทำได้ไม่ยากมากและมีลูกเล่นที่น่าสนใจเหมือนกัน เพียงแต่อูเมะชูจะไม่ใช่ไวน์นะคร้าบ (เพราะเป็น บ๊วย + เหล้าเบส + น้ำตาล)
[ จุดแตกต่างของไวน์ผลไม้ กับ ไวน์องุ่น ]
ตรงนี้พวกเราขออนุญาตเรียบเรียงตามความเข้าใจของเรานะคร้าบ 😊🙏
1. รสชาติไม่มีความซับซ้อนเท่าไวน์องุ่น
เท่าที่ลองชิมและค้นหาข้อมูลอ้างอิง โดยส่วนใหญ่แล้ว ไวน์ผลไม้ทั่วไป (สับปะรด แอปเปิ้ล เชอร์รี) จะมีรสนำที่ชัดเจนอยู่ (สำหรับเราคือ ออกหวานนะ) เข้าใจว่ามีตัวที่เป็น Dry ด้วย แต่ว่า..ยังไม่เคยลองเลยคร้าบ แต่เข้าใจว่าก็คงออกหวานนำอยู่ดีเพราะหลายตัวใช้น้ำตาลในการผลิตหลัก
2. ไม่มีกฎเกณฑ์เยอะ ไม่ต้องใช้เวลาในการหมักนานเหมือนไวน์องุ่น
จากที่เราเห็นมียูทูปเบอร์ชาวฝรั่ง เขาได้สอนวิธีการทำ(และหมัก)ไวน์ผลไม้แบบง่าย ๆ กันเยอะ (homemade) บ้างก็ใช้เวลาไม่นาน หลักอาทิตย์ จนไปถึง 3-6 เดือนเลยก็มี (แอบนึกถึงหมักเหล้าบ๊วยอูเมะชู อีกแล้วละคร้าบ แต่ว่ามันไม่เหมือนกันนะ ฮ่า ๆ)
👉 แต่ถ้าจะเป็นโรงผลิตไวน์ผลไม้ที่มีคุณภาพ… คือผลิตแบบจริงจัง ก็พบว่าอาจยากกว่าองุ่นเสียอีก
เพราะแครักเตอร์ (character) ของผลไม้มันหลากหลายกว่าองุ่น ซึ่งการจะทำให้ออกมาให้อร่อยหรือถูกปากผู้บริโภคเนี่ย คงจะยากกว่าไวน์องุ่นพอควร…
3. ราคาที่เข้าถึงง่าย (กว่าไวน์)
ตามที่พวกเราเข้าใจคือ ช่องว่างทางเก็บภาษี ที่ไวน์ผลไม้ (สุราแช่) จะถูกเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำกว่าไวน์ทั่วไปที่ทำจากองุ่น
รวมไปถึง ผลไม้ที่ใช้ทำ อาจไม่ได้มีต้นทุนสูงเท่ากับไวน์องุ่น (โดยเฉพาะหากนำเข้าไวน์องุ่นจากโรงบ่มที่มีแบรนด์)
ตัวของไวน์องุ่น พวกเราเข้าใจว่ามันถูกจัดอยู่ในกลุ่มของหรูหราสิ้นเปลือง จะโดนเก็บภาษีที่สูงกว่า
ในขณะที่ ไวน์ผลไม้ ถูกจัดอยู่ในหมวดของสุราแช่ รวมไปถึงไวน์องุ่นที่ผสมผลไม้ ก็จะถูกจัดให้อยู่ในหมวดของสุราแช่อีกด้วยเช่นกัน (มี alc ไม่เกิน 15%)
ตรงนี้เราเข้าใจว่ามีประเด็นให้ถกเถียงกันในเรื่องของฉลากไวน์อีกด้วยนะ..
เพราะบางทีผู้ผลิต/นำเข้าบางราย อาจใช้ช่องว่างทางภาษีตรงนี้ นำเข้าไวน์องุ่นบางตัว ที่ไม่ใช่องุ่น 100% เป็นตัวผสมผลไม้อื่น ๆ มาซะอย่างนั้น แต่จะระบุในฉลากก็ตัวเล็กม๊ากมาก (ภายใต้คำว่า Sweet wine)
คือถ้าเพื่อน ๆ ที่ไปเดินเลือกส่อง ก็อาจจะต้องอ่านฉลากให้ครบก่อนนะคร้าบ (แต่สำหรับเรามองดีดี มันก็เห็นนะคร้าบ คือเข้าใจว่าผู้ผลิตเอง ก็ไม่ได้ตั้งใจจะซ่อนแอบกับคำว่า Fruit wine แค่อาจใช้ฟอนต์ตัวเล็กลงมาหน่อยนึง เราอาจต้องอ่านฉลากให้ครบมากขึ้น)
พอหอมปากหอมคอกันไปเช่นเคย
เดี๋ยวตอนต่อไปพวกเราจะพาเพื่อน ๆ ไปส่องกันสั้น ๆ ว่า ถ้าเราอยากจะทัวร์ชิมไวน์ฝรั่งเศสเนี่ย แต่ละแคว้นเค้ามีอะไรบ้าง ?
และปิดท้ายด้วยอัลบั้มไวน์โลกใหม่ จริง ๆ แล้วคร้าบบ 🥰🙏
แหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม
- หนังสือ The World Atlas of Wine เขียนโดย Hugh Johnson
- หนังสือ The Wine Bible เขียนโดย Karen Macneil
-
https://bit.ly/3R4l3zV
-
https://bit.ly/3pTSxVC
ประวัติศาสตร์
เรื่องเล่า
ไลฟ์สไตล์
5 บันทึก
11
1
10
5
11
1
10
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย