3 ก.ย. 2022 เวลา 14:04 • นิยาย เรื่องสั้น
นิยาย : จันทิราพร
"สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ"
ลูกจันทร์กล่าวทักทายกับชายหนุ่มที่ยืนจ้องมองมาทางเธอมาสักพักแล้ว และตอนนี้เขาก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า
ใบหน้าคมได้รูป ถึงจะใส่แว่นตาดำ ก็ไม่สามารถปกปิดความหล่อเหลาของเขาได้ หนำซ้ำยิ่งช่วยขับให้ผิวขาวสะอาดสะอ้านเหมือนไม่เคยถูกแสงแดดนั้น เด่นชัดตัดกับกรอบแว่นสีดำ ทรงผมสั้น ที่ทันสมัย เซ็ททรงไว้อย่างดี สวมเสื้อลายดอกปล่อยชายไว้นอกกางเกงขาสั้นสีขาว รองเท้าผ้าใบแบรนด์หรูคอลเลคชั่นล่าสุด ดูผิวเผินเหมือนนักท่องเทียวทั่วไป
ยิ่งเมื่อเขาถอดแว่นตาดำออก แล้วยิ้มให้เธอ พร้อมคำกล่าวทักทาย
"ผมว่า ผมเคยรู้จักคุณ"
"ค่ะ เป็นไปได้ ดิฉันทำงานที่นี่"
เขาทำท่าคิดอีกสักครู่ จึงพูดขึ้นมาใหม่ว่า
"ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น คือผมหมายถึงว่า เราเคยรู้จักกันมาก่อนหน้านี้"
"คุณคงจำคนผิดแล้วล่ะค่ะ ต้องขอโทษด้วย"
"แล้วคุณอยากรู้จักผมไหมละครับ"
เขายิ้มหวานให้เธออย่างจริงใจ
คำถามนั้นทำให้เธอหน้าแดงด้วยความเขินอาย จนทำให้เพื่อนร่วมงานต้องหันมามอง แล้วอมยิ้มไปตาม ๆ กัน
ในขณะที่ลูกจันทร์ยังยืนงงอยู่ตรงนั้น บอดี้การ์ดสองคนก็เข้ามาถึงตัวเขาและเอียงหน้ามากระซิบบางอย่าง
"คุณซันนี่ครับ ท่านเจ้าสัวเชิญให้ไปพบที่ออฟฟิศครับ"
"รู้แล้ว ขอบใจ"
ก่อนเขาจะเดินไป ยังหันมาบอกกับเธออีกว่า
"เดี๋ยวผมกลับมาเอาคำตอบนะครับ"
ลูกจันทร์ยิ้มตามหลังเขาไปเหมือนโดนมนต์สะกด
และตั้งแต่วันนั้น เขาก็มานั่งเฝ้าเธอที่ทำงานแทบจะทุกวัน จนเธอยอมออกไปเที่ยวกับเขา
โดยมีสายตาของเพื่อนร่วมงานที่ทั้งร่วมยินดีและอิจฉา
'ซัน' สุริยะ ประไพพรรณ คือชื่อของเขา ลูกชายคนเล็กของเจ้าของห้างสรรพสินค้าที่เธอทำงานอยู่
หนุ่มหล่อในวงสังคมไฮโซ นักเรียนนอก ที่เพิ่งกลับมาจากอเมริกา
แต่แล้ววันหนึ่ง
ความรู้สึกที่เคยมีเขาเข้ามาเติมเต็ม
ตอนนี้มันเหมือนทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
"คงอีกสักพัก เดี๋ยวก็ดีขึ้นนะแก"
ริสา เพื่อนสนิทในที่ทำงาน พูดปลอบใจลูกจันทร์ พลางตบบ่าเบา ๆ แล้วดึงเธอเข้ามากอด
"ขอบใจมากนะริสา ฉันเองก็อยากเข้มแข็งได้เร็ว ๆ เหมือนกัน ความรู้สึกแบบนี้ไม่สนุกเลย แกกอดฉันแน่น ๆ อีกหน่อยได้ไหมริสา บางครั้งฉันก็ไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของตัวเองเลย หัวใจของฉันหายไป แกเข้าใจใช่ไหม"
"เดี๋ยวก็ทำใจได้ เดี๋ยวเขาก็กลับมา"
นิดหน่อยเข้ามากอดสองสาว
"ขอบใจนะนิดหน่อย ฉันเองก็ไม่รู้ว่า ฉันยังมีความหวังได้ไหม"
คำปลอบใจจากเพื่อน ๆ ที่รับรู้เรื่องราวความสัมพันธ์ของเธอกับลูกชายเจ้าของห้างสรรพสินค้าผู้เป็นเจ้านายของเธอ
"ได้ข่าวว่าท่านเจ้าสัวส่งเขาไปอยู่อังกฤษละเธอ ก็คงไม่อยากให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน เป็นขี้ปากชาวบ้านนั่นแหละ คริ ๆ " ส้มพูดขึ้นลอย ๆ
"ความรักของคุณหนูไฮโซ หนุ่มนักเรียนนอก กับแม่สาวประชาสัมพันธ์ มันจะเป็นจริงไปได้ยังไง จริงไหมเธอ อย่างมากนะก็เป็นได้แค่ของเล่นไฮโซ พอเขาเบื่อก็เขี่ยทิ้ง ไม่รู้จักเจียมตัว"
มิลค์ทำท่าปิดปาก แต่พูดเสียงดังให้ลูกจันทร์ได้ยิน
"ใช่ ไม่รู้จักดูสารรูปตัวเองสะบ้างเลย ว่าเขาระดับไหน ตัวเองระดับไหน"
แพน เพื่อนของเธอก็พลอยร่วมวงไปด้วย
"คิดจะใช้เต้าไต่ แต่ทำไมเป็นได้แค่ผ้าเช็ด อุ๊ปส์"
มิลค์กับแพน พูดไปขำไปมองเหลือบตาขึ้นบน และลงล่าง เพื่อสื่อความหมาย
1
สารพัดคำพูดเย้ยหยันจากคนที่ไม่ชอบเธอ และพร้อมจะเหยียบย่ำซ้ำเติม
"นี่ ๆ ๆ น้อย ๆ หน่อยพวกเธอจะเย้ยหยันกันมากไปแล้วนะ เพื่อนกันทั้งนั้น พูดอะไรรักษาน้ำใจกันบ้าง"
ริสาออกตัวแทนเพื่อน ที่ก้มหน้ายอมรับชะตากรรม
"ไม่เป็นไรหรอกริสา ที่พวกเขาพูดก็ถูกแล้ว ฉันต่างหากที่ต้องทำความเข้าใจ ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น"
ลูกจันทร์ไม่อยากให้ใคร ๆ ต้องมาเดือดร้อนเพราะเธอ จึงยอมรับเงียบ ๆ
"ฉันขอบใจพวกเธอมากนะ คำพูดเมื่อกี้นี้ช่วยเตือนสติฉันได้อย่างดี ขอบใจนะ ฉันเข้าใจแล้ว ป่ะ แยกย้ายไปทำงานกันได้แล้ว"
ตอนรักกัน ใคร ๆ ก็พากันอิจฉา พอเลิกกันเขาก็เหยียบย่ำ นี่แหละคนเรา
ถึงจะเจ็บจะอายยังไง เธอก็ยังต้องแบกหน้าไปทำงาน และทนฟังคำพูดที่บั่นทอนไปอีกสักพัก
"เข้มแข็งไว้นะลูกจันทร์" เพื่อน ๆ ได้แต่ปลอบใจเธอด้วยคำพูดเดิม ๆ
ลูกจันทร์เผื่อใจไว้บ้างแล้ว ตั้งแต่รู้ว่าเขาเป็นใคร แม้ช่วงแรกที่เขาตามจีบ เธอจะยังไม่แน่ใจก็ตาม เขาเป็นคนดังขนาดนั้น ลูกชายเจ้าของห้างดังกลับมาจากอเมริกา ออกข่าวในวงสังคมไฮโซขนาดนั้น ถ้าเธอบอกว่าไม่รู้ นี่สิแปลก
ถึงอย่างนั้นเรื่องของหัวใจ เธอก็ไม่รู้จะหยุดมันได้อย่างไรเช่นกัน
เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เธอจึงปล่อยใจให้เลยตามเลย
"เขารวยขนาดนั้น ก็คงมีความสุข สบายดีนั่นแหละ เธอต่างหากละที่น่าเป็นห่วง" ริสาพูดขึ้นมา เมื่อเห็นเธอทำหน้าเศร้า
ปล. ดราม่าเยอะ บทไหนเศร้ามาก ขอตัดออกนะคะ รอพบบทเต็มในอีบุ๊กค่ะ
ตอนที่ 4
"อาซันนี่ ลื้อต้องกลับไปเรียนต่อที่อเมริกา เลิกติดต่อกับผู้หญิงคนนั้นซะ"
ท่านเจ้าสัว ออกคำสั่งประกาศิตลงมา เมื่อทราบข่าวจากวงสังคมไฮโซ ที่เริ่มซุบซิบกันหนาหูว่า ลูกชายคนเล็กของท่าน คว้าไก่วัดของท่านมากินเสียแล้ว สาวในวงสังคมไฮโซ ที่เทียมหน้าเทียมตากันเยอะแยะ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนก็ไม่ไปรักไปชอบ มาพอใจกับแม่สาวประชาสัมพันธ์ของบริษัทตัวเอง
พากันไปถึงไหนต่อไหนมาบ้างแล้วก็ไม่รู้
1
"แต่ป๊าครับ ผมยังไม่อยากกลับไปเรียนต่อตอนนี้เลยนะครับ ผมขอพักหนึ่งปี ป๊าอนุญาตผมแล้วด้วย"
ซันพยายามทักท้วงถึงสัญญาที่ท่านเจ้าสัวได้ให้ไว้ก่อนที่เขาจะกลับมาเยี่ยมครอบครัวที่เมืองไทย
"อั๊วไม่ลืมหรอก อั๊วรู้ว่าเรียนทนายมันเครียด มันเหนื่อย ตอนนี้ลื๊ออยากพักผ่อน อั๊วก็ไม่ได้ว่าอะไร"
"แต่นี่เพิ่งจะห้าเดือนเองนะครับป๊า ทำไมผมต้องกลับแล้ว ผมยังไม่อยากกลับ"
"ลื๊อไปเที่ยวอังกฤษไหมอาซันนี่ ไปให้ทั่วยุโรปเลย พอใจไหม"
ท่านเจ้าสัวมองหน้าลูกชายนิ่ง ๆ แล้วยื่นข้อเสนอ
"ป๊าหมายความว่าอย่างไรครับ"
ซันมองหน้าผู้เป็นบิดาอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก
"อาซันนี่ ลื๊อเป็นใคร อย่าลืมสิลูก อย่าให้ผู้หญิงมาทำให้ลื๊อเสียความเป็นตัวเอง เข้าใจที่ป๊าพูดไหม"
ซันมีความคิดแบบชาวตะวันตก เขาไม่เคยมองว่าคนที่ฐานะต่ำต้อยกว่าเป็นคนไร้ค่า ไม่คู่ควร เขาให้ความสำคัญ คุณค่าของผู้คนจาก หัวใจ เคารพในความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียม
1
แต่เพราะเขาคือ สุริยะ ประไพพรรณ ลูกชายของท่านเจ้าสัว เสริม ประไพพรรณ ผู้ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก เป็นความหวังของอีกหลายชีวิต ไม่เฉพาะแค่คนในครอบครัว ชื่อเสียงของบริษัท ความไว้วางใจจากลูกค้า รวมถึงชีวิตของพนักงาน และครอบครัวของพวกเขาด้วย ที่ซันต้องกลับมาบริหารในวันข้างหน้า
วันนี้เมื่อผู้เป็นบิดาได้เอ่ยวาจาออกมาแล้ว
ลูกผู้ชายอย่างเขาก็ไม่ควรดื้อดึงทำให้บุพการีระคายเคืองใจ
"ป๊าหมายถึงลูกจันทร์เหรอครับ"
"สนุกแค่พอประมาณนะลูกชาย"
ท่านเจ้าสัวกล่าวเป็นนัย ๆ ที่เหลือเขาคิดว่าคนฉลาดอย่างซันน่าจะเข้าใจได้ไม่ยาก ถึงใคร ๆ จะมองว่าซันเป็นหนุ่มนักรัก แต่ท่านเจ้าสัวรู้ดีว่า ลูกชายเขาไม่ใช่คนอย่างนั้น ยิ่งปล่อยให้ความสัมพันธ์ยึดยาวมันจะยิ่งยากที่จะถอน ท่านจึงต้องเอ่ยปาก พูดเรื่องนี้กับซันด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันสิ่งที่ไม่คาดคิดจะตามมา
"อาซันนี่ ลื๊อเป็นความหวังของป๊านะ"
"ครับป๊า ผมเข้าใจแล้วครับ"
"ขอบใจลื๊อมากนะ"
ท่านเจ้าสัวตบบ่าลูกชายเบา ๆ ก่อนเดินออกประตูห้องทำงานไป
ซันนั่งนิ่งอยู่กับที่ ชั่วขณะหนึ่งของความคิด เขาเจ็บปวดในหัวใจเหมือนมีมีดมากรีดลงไปในอก แล้วกระชากเอาหัวใจของเขาออกไปด้วย
"ลูกจันทร์ ผมขอโทษ"
เขารำพึงกับตัวเอง ซบหน้าลงกับฝ่ามือทั้งสองข้าง
เขาไม่มีหน้าไปบอกกล่าว ร่ำลา
แม้แต่คำว่าขอโทษ หรือคำสัญญา ความหวังแม้เพียงน้อยนิดก็ไม่มีให้เธอ
"ให้มันจบไปแบบนี้ อีกไม่นาน คุณจะลืมผม ลืมคนไม่ดี คนไม่มีหัวใจ คนที่เข้ามาทำร้ายหัวใจที่บริสุทธิ์ของคุณ ลูกจันทร์ผมอายเกินกว่าจะพูดคำว่า ขอโทษ"
ก๊อก ๆ ๆ
"คุณซันคะ ท่านเจ้าสัวให้รถมารับคุณซัน และพร้อมออกเดินทางได้เลยค่ะ"
เลขาของท่านเจ้าสัวเข้ามารายงานถึงแผนการเดินทางของเขา
ซันเงยหน้าขึ้นมา ที่ขอบตายังแดงก่ำ หลับตาสูดลมหายใจแหงนหน้าขึ้นไปมองเพดาน เพื่อสะกดกลั้นน้ำตา ก่อนจะตอบเลขา
"ครับ ขอบคุณครับคุณเลขา"
"เรื่องอื่น ๆ คุณซันไม่ต้องห่วงนะคะ ท่านเจ้าสัวส่งคนไปดำเนินการให้เรียบร้อยแล้วค่ะ"
"เข้าใจแล้วครับ"
หัวใจ ความรัก ความรับผิดชอบ ความกตัญญู ความถูกต้อง อนาคต อาชีพ ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล สิ่งไหนสำคัญกว่ากัน สิ่งไหนที่เขาควรต้องทำก่อน หลัง
ตอนนี้เขาเองก็สับสนกับความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามา
 
อยากกลับไปหาลูกจันทร์ อยากบอกรักเธอ อยากขอโทษเธอ อยากให้คำมั่นสัญญากับเธอ อยากบอกให้เธอรอ หรือแม้แต่บอกเลิก บอกลา
1
เขาน่าจะมีเวลาเพิ่มอีกสักหน่อย แล้วแกล้งทำตัวร้าย ๆ ให้เธอเกลียดเขา ให้เธอตัดใจจากเขาก่อน ก็ยังดี ดีกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้
1
แต่นี่อะไรกัน
เขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับเธอ แม้แต่จะกดเบอร์มือถือโทรหาเธอในตอนนี้ เขาก็ไม่กล้า
เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจ มอดไหม้เป็นเศษธุลี
1
จบตอนที่ 4
เขียนถึงบทนี้สงสารพระเอก จนต้องไปเปิดเรื่องใหม่ แต่งในมุมของพระเอกเพิ่มอีกเรื่องหนึ่ง
"เธอคือพระจันทร์ ฉันคือพระอาทิตย์"
เปิดแค่ชื่อเรื่องกับพล็อตไว้ ปีหน้าจะได้แต่งหรือไม่ ก็ยังไม่รู้ 😜
พล็อตเป็นร้อย 🙏 พล็อตเก่ง 😂
โปรดติดตามตอนต่อไป 👇
สปอยล์ :
"ผู้จัดการ เรื่องที่ให้ไปจัดการยัยเด็กนั่น เรียบร้อยไหม"
"เรียบร้อยค่ะท่าน ร้องไห้ขี้มูกโป่ง ลาออกไปแล้วค่ะ"
"ขึ้นแบล็คลิสต์ไว้เลยนะ ห้ามรับเข้ามาทำงานอีกเด็ดขาด ไม่ว่าสาขาไหนก็ห้ามรับ เข้าใจไหม"
"ค่ะท่าน"
"ครั้งหน้าตาซันกลับมา จะได้ไม่ต้องเจอกันอีก ผู้หญิงไม่ดี"
เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากการตั้งคำถามของเพื่อน ๆ ในบล็อกดิต
เนื้อในของเรื่องนี้คือ How to move on จากความรักพัง ๆ นั่นล่ะค่ะ
ซึ่งแยกเขียนไว้ 3 แบบ
แบบที่ 1 บทความ
แบบที่ 2 นิยายแฟนซี ซึ่งยังหาชื่อภาษาอังกฤษให้ไม่ได้ และชื่อพระเอก นางเอกก็ยังไม่ได้เหมือนกัน แต่ที่รู้ คือจะเป็นจีน เกาหลี ฝรั่งก็เป็นไปได้หมดเลย (ตอนนี้อ่านแล้วสนุกอยู่คนเดียว)
แบบที่ 3 คือเรื่องนี้ เป็นวิถีชีวิตของคนยุคปัจจุบัน
ผู้เขียนมีความเชื่อว่า ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปกี่ร้อยกี่พันปี เรื่องราวความรักก็จะยังอยู่คู่หัวใจทุกดวง
และไม่ใช่ทุกคนที่ประสบความสำเร็จในความสัมพันธ์ ที่เรียกว่า ความรัก
คนที่ประสบความสำเร็จนั้น ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง
แต่คนที่ยังติดอยู่ในวังวนของมายา ที่ชื่อว่า ความรัก พวกเขายังต้องการใครสักคนมาตอบคำถาม รับฟัง หรือแชร์ประสบการณ์
จึงเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาค่ะ เป็นนิยายแนวสร้างพลังใจ นิยายที่อิงจากชีวิตจริงอีกเรื่องหนึ่ง
และพอได้เขียนนิยายเรื่องนี้ก็มีเรื่องน่ายินดีเยอะมาก เช่น ชอบนามปากกาของนางเอกในเรื่องนี้ จนเอาไปใช้เป็นนามปากกาของตัวเอง
เคยคิดอยู่เหมือนกันว่า จะเปลี่ยนชื่อเพจ มาใช้ชื่อนามปากกานี้ แต่ยังก่อน😻
หรือแม้แต่การหาข้อมูลต่าง ๆ มาเขียน ซึ่งกลายเป็นการ Help me help you นิยายเรื่องนี้ช่วยให้ผู้เขียนมีพัฒนาการ และได้ความรู้มากขึ้น ขยันอ่านหนังสือมากขึ้น
ขอบคุณค่ะ
ผู้สังเกตการณ์

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา