10 ก.ย. 2022 เวลา 13:18 • นิยาย เรื่องสั้น
นิยาย : จันทิราพร ตอนที่ 5
"ริสา คืนนี้ฉันไปเที่ยวกับพวกเธอด้วยนะ"
ลูกจันทร์เอ่ยขึ้นหลังจากที่วาดลิปสติกสีแดงอ่อนลงไปบนริมฝีปากบาง ก่อนจะเม้มริมฝีปากเข้าหากันอีกสองครั้ง หันซ้ายหันขวา ยิ้มให้กับกระจกตรงหน้า แล้วเก็บลิปสติกแท่งโปรดลงในกระเป๋าใบเล็กสีดำ สำหรับใส่ของจุกจิกแล้วรูดซิปปิด
"เอาสิ ฉันก็กำลังจะชวนเธอพอดีเลย ว่าแต่เธอมีที่ไหนอยากไปเป็นพิเศษไหม คืนนี้ฉันตามใจเธอ"
ริสาที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ เข้ามาเปิดก็อกน้ำ เพื่อล้างมือ ตอบขึ้นอย่างดีใจ ที่คืนนี้ลูกจันทร์ยอมออกไปเที่ยวด้วยกัน
"ที่ไหนก็ได้ ขอแค่ฉันไม่ต้องทนอยู่คนเดียวก็พอ"
"ไม่เอาน่า ฉันไม่ปล่อยให้เธอเศร้าอยู่คนเดียวหรอกนา"
"แล้วคืนนี้ มีใครไปบ้าง"
"ก็มีฉัน มีเธอ แล้วก็นิดหน่อย สามคน"
"อ้าว แล้วแฟนของพวกเธอละ ไม่ไปด้วยเหรอ"
"สมัยนี้ใครเขามีแฟนกันค่ะคุณลูกจันทร์ ดูปากริสานะคะ โสด สวย รวย แซ่บ ทำงาน กิน เที่ยว แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วค่ะ ไม่หาภาระมาเพิ่มแล้ว"
ริสาพูดทีเล่นทีจริง ชี้นิ้วมาที่ปากตัวเองที่กำลังแจ้ว ๆ อยู่
"อืม นั่นสินะ ฉันจะเข้มแข็งให้ได้เหมือนเธอนะริสา"
ลูกจันทร์พยักหน้ารับ เห็นด้วยกับเพื่อน
"นี่แม่สาวน้อย ฉันจะบอกอะไรให้นะ เธอไม่ต้องรีบเข้มแข็งหรอก ลูกจันทร์ เธอต้องให้โอกาสตัวเองได้เรียนรู้ เข้าใจชีวิตตามทางของมันนั่นแหละดีแล้ว"
"เอางั้นเหรอ" ลูกจันทร์แกล้งยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาทาบอก
"อื้อ แบบนี้แหละ รสชาติของชีวิต" ถึงริสาจะพูดเล่นไปเรื่อย แต่คำพูดเหล่านั้นคือความจริงใจ และมันก็ตรงเข้าสู่หัวใจบาง ๆ จนทำให้คนฟังน้ำตาเอ่อ กางแขนเข้าหาเพื่อนรัก
"ริสา เธอคือมายไอดอล ขอกอดแน่น ๆ หน่อยนะ"
ริสากอดตอบเพื่อนตามที่ขอ
"แน่นพอไหม พอหรือยัง" ริสาแกล้งกอดลูกจันทร์จนเธอต้องบอกว่า
"พอแล้วจ้า พอแล้ว"
ทั้งสองสาวยิ้มให้กัน
"ฉันไม่ได้เก่ง หรือรู้อะไรมากไปกว่าเธอหรอกนะลูกจันทร์ ฉันแค่คิดว่า คนเรามีแค่ชีวิตเดียว และเราคงไม่ได้อยู่เป็นอมตะ สิ่งใดเข้ามา เราก็แค่ยินดีต้อนรับ สิ่งใดที่ผ่านไปแล้ว เราก็แค่ขอบคุณ ในระหว่างนั้นเราก็แค่ต้องเรียนรู้ ทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็แค่นั้นเอง"
ริสาจริงจังจนลูกจันทร์ต้องคล้อยตาม
"Ok ริสา เธอไม่ใช่ไอดอลของฉันแล้ว ตอนนี้เธอคือเจ้าลัทธิ เอาตามที่เธอบอกนี่แหละ ฉันจะเข้มแข็ง เรียนรู้ เข้าใจ และไปต่อ"
"หนักกว่าเดิม เพี้ยนไปแล้วเพื่อนฉัน เอ๊ะ หรือฉันต่างหากที่เพี้ยน โว้ะ ช่างมันเถอะ เอาแบบนี้แหละ ฮ่า ๆ ๆ"
ริสาเอามือไปแตะที่หน้าผากของลูกจันทร์เบา ๆ แล้วหัวเราะร่าในความคิดของตัวเอง
ลูกจันทร์ก็เผลอยิ้มจนตาหยี เอามือแตะที่หน้าผากของตัวเองตามริสา
"ฉันอาจจะเพี้ยนไปแล้วจริง ๆ ขอบใจนะริสา"
"ฮ่า ๆ ๆ ถ้าเธอเพี้ยน ฉันน่าจะเพี้ยนกว่าเธอ"
ทั้งสองหัวเราะร่วนให้กับความผิดเพี้ยนในตรรกะเรื่องความรัก
"เรื่องของความรัก เรื่องของหัวใจ เรียนรู้ไม่มีวันจบ ไม่ต้องรีบ"
ริสายังไม่วายทิ้งคำพูดงง ๆ ไว้ให้กับคนอกหัก ประหนึ่งว่าเธอเข้าใจในเรื่องของหัวใจสะเหลือเกิน
"ขอฉันเติมแป้งเพิ่มอีกหน่อยนะ"
ริสาว่าแล้วหยิบแป้งตลับขึ้นมาซับไปตามใบหน้า แล้วยื่นบลัชออนไปให้เพื่อน
"ลูกจันทร์ปัดแก้มเพิ่มอีกหน่อยไหม หน้าจะได้ผ่อง ๆ"
"ขอบใจจ้า ฉันสวยแล้ว ไปก่อนนะ"
ริสาเหล่ตามองเพื่อน "ค่า คนสวย"
1
เมื่อลูกจันทร์เดินออกไปพ้นประตูแล้ว ริสารีบกดมือถือหานิดหน่อย
"นิดหน่อย คืนนี้ลูกจันทร์จะไปดื่มด้วย เธอช่วยยกเลิกนัดกับแฟนเธอก่อนได้ไหม"
"เอ้า ทำไมต้องยกเลิกด้วยละ"
"เถอะนะ ขอคืนหนึ่ง พอดีฉันบอกจันทร์ไปว่า เราไปกันสามคน ช่วยหน่อยนะ"
"Ok ก็ได้ ไม่มีปัญหา"
"ขอบใจนะ"
"เดี๋ยวก่อน ริสา"
"ว่า"
"คือ ฉันให้แฟนมารับได้ป่ะ หรือว่ามาร้านเดียวกัน แต่นั่งคนละโต๊ะงี้
ได้ไหมอ่ะ"
"หืม ฉันละเบื่อคนคลั่งแฟนจริง ๆ ตามใจเธอก็แล้วกัน"
"ได้เนอะ อิอิ"
"ให้เนียนนะ"
"จ้ะ"
1
ลูกจันทร์ออกเที่ยวกลางคืนหลังเลิกงานเกือบทุกคืน เพื่อให้ลืมซัน หรืออย่างน้อย เธอก็ไม่ต้องทนอยู่กับน้ำตา ความทุกข์เศร้าเพียงลำพัง
เธอคิดว่าการได้อยู่กับกลุ่มเพื่อน ได้ดื่มกิน พูดคุย สนุกสนาน ได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ เปิดโอกาสให้ตัวเอง สิ่งเหล่านี้น่าจะช่วยให้เธอดีขึ้นมาได้บ้าง
ตอนคบกับซัน เขาชอบพาเธอไปเที่ยวกลางคืนบ่อย ๆ จนมีนักข่าวถ่ายรูปไปลง Gossip
ตอนนี้เธอแค่อยากลืมเขาให้ได้เร็ว ๆ จึงเลือกที่จะออกไปเที่ยวกับเพื่อน แสงสี ดนตรี เครื่องดื่มอาจช่วยให้เธอลืมเขาได้บ้าง
แต่สิ่งที่ตามมาคือสุขภาพที่ย่ำแย่ของตัวเธอเอง สภาพตอนที่เมาค้าง หรือแม้แต่ตอนที่ร้องไห้อย่างไร้สติ
เธอไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนั้นเลย
ไม่ว่าจะดื่มจนเมามายแค่ไหน พอกลับมาถึงบ้าน น้ำตาก็ไหลอยู่ดี
ไม่ว่าจะมีเพื่อนมากมายอยู่รายล้อมรอบข้างกาย แต่ข้างในใจก็ต้องการเพียงแค่เขา
ไม่ว่าเสียงเพลงจะดังแค่ไหน ในใจก็เงียบเหงา อ้างว้างอยู่ดี
ไม่ว่าดนตรีจะเล่นได้สนุกเร้าใจแค่ไหน ในใจก็มีแค่เขาที่ทำให้ใจเต้นได้
หัวใจของเธอบอบช้ำเกินไป เวลาพักผ่อนก็น้อย
ความคิดความอ่านของเธอก็ดูจะวุ่นวาย สับสน จับต้นชนปลายไม่ถูก
เธอกลายเป็นคนติดเที่ยว มีเพื่อนหลายกลุ่ม
แม้จะยังทำงานได้ตามปกติ นั่นก็เพราะเธอมีเพื่อนร่วมงานที่ดี
และก่อนที่เธอจะสูญเสียความเป็นตัวเองไปมากกว่านี้
ในเช้าวันหนึ่ง ลูกจันทร์ตื่นขึ้นมากับคราบน้ำตา
พยายามเผยอเปลือกตามองไปรอบ ๆ ห้อง ทั้งที่ยังปวดหัวหนึบ ๆ เธอยกมือขึ้นเช็ดคราบน้ำตาที่ยังติดกันเกรอะกับขนตางอนยาว แล้วมองดูห้องของตัวเองอีกครั้ง ที่ตอนนี้รอยอาเจียนเลอะอยู่ตามพื้นห้องเป็นดวง ๆ
"อ้วกใครเนี้ย" เธอทิ้งตัวลงไปบนที่นอนอีกครั้ง
"โอ้ย ปวดหัวจัง"
แล้วพยายามฝืนตัวขึ้นมานั่ง เพื่อทบทวนความจำ พร้อมก้มมองตัวเอง ทำจมูกฟุดฟิดดมเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ ที่มีแต่กลิ่นเหล้า กลิ่นบุหรี่
"ทำไมตัวเหม็นงี้อ่ะ"
ขวดเครื่องดื่มที่ว่างเปล่า วางเกลื่อนไว้ทั้งบนโต๊ะ และตามพื้น ระเกะระกะไปหมด
"เฮ้ย ! ใครทำห้องฉันเละเทะขนาดนี้เนี้ย"
สองแขนยกขึ้นกุมขมับ แล้วทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างยอมจำนน
ชั่วขณะหนึ่งของความคิด ลูกจันทร์ถามตัวเอง
"ฉันกำลังทำอะไรอยู่"
"ฉันมีความสุขกับสิ่งนี้จริงหรือเปล่า"
ก่อนที่เธอจะคิดอะไรมากไปกว่านั้น คลื่นลมเปรี้ยว ๆ จากข้างในก็ตีตื้นขึ้นมาจนเธอต้องรีบถลาตัวลงจากเตียง เพื่อไปเกาะขอบฝาชักโครก แล้วอ้าปากเปิดทางให้เจ้าก้อนลมนั้นออกมา จนน้ำหูน้ำตาไหล
"โอ้ย ฉันเป็นบ้าอะไรไปแล้วนี่"
เธอทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นห้องน้ำ แล้วคว้าเอาถังขยะมากอดไว้แทน
เมื่อคืนนี้เธอชวนเพื่อน ๆ มาดื่มต่อที่ห้อง และแน่นอนว่าเธอดื่มจนเมามายไม่ได้สติ
"ความสุขแค่ประเดี๋ยวประด๋าว ความสุขที่ฉาบฉวย สุขอยู่คนเดียว แถมยังไม่ก่อประโยชน์อะไรให้โลกนี้ ร่างกายก็พัง ใจก็สลาย เงินก็หมด ไม่เห็นว่ามันจะเป็นความสุขจริง ๆ เลย"
ลูกจันทร์บ่นกับตัวเอง ก่อนที่คอจะตั้งแข็งขึ้นมาแล้วนั่งทะเลาะกับถังขยะตรงหน้าต่อไป
1
สวัสดีค่ะทุกคน เมื่อวานลองลงนิยายไปแล้วรอบหนึ่ง แต่คิดไปคิดมา ลบออกไปก่อนดีกว่า
ต้องขอโทษด้วยนะคะ สำหรับใครที่มาทันโพสนั้น 🙏
นิยายนะคะทุกคน ถ้าไปเหมือนชีวิตใครบ้างต้องขออภัยด้วยนะ
หลาย ๆ ฉาก ของหนังหรือละครก็มาจากชีวิตจริง จริง ๆ นั่นแหละ
ในบทนี้เขียนไว้ให้นางเอกหนักหน่วงเหมือนกัน
"กว่าจะก้าวข้ามคืนวันอันโหดร้าย"
ขอบคุณค่ะ
"จันทร์เป็นไงบ้าง"
ริสาเพื่อนรักของเธอโทรมาในตอนบ่าย เพื่อถามไถ่เพื่อนสาวผู้บ้าคลั่ง ภาพลูกจันทร์ท้าดวลเตกีล่า ช็อตแล้วช็อตเล่ายังตามหลอนริสาอยู่
…เหตุการณ์เมื่อคืน…
"คืนนี้ลูกจันทร์เลี้ยง ใครไม่ดื่ม ถือว่าไม่รักกันจริง หมดแก้วนะคะซิส ห้ามโกง"
ริสารีบสะบัดหัวออกจากความคิด
"ไหว ขอบใจนะริสา โชคดีที่วันนี้ฉันหยุด ไม่งั้นไปทำงานไม่ไหวแน่"
ลูกจันทร์ที่ตอนนี้อาบน้ำสระผม และสร่างเมาแล้ว กำลังนั่งเป่าผมอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ตอบเพื่อนไปตามตรง
"ดีแล้ว พักผ่อนนะ"
"แล้วเธอกับนิดหน่อยละ เป็นไงบ้าง ไปทำงานไหวไหม"
"ไหวค่ะไหว สบายมาก"
"เอิ่ม ริสาเพื่อนรัก ว่าแต่ เมื่อคืนฉันทำอะไรน่าเกลียดไปบ้างป่าว"
ลูกจันทร์ที่เมาจนจำอะไรไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าตัวเองข้ามฉากสำคัญในชีวิตไปบ้างหรือเปล่า ส่งคำถามไปตามสายอย่างอาย ๆ
"เฮ้ย ที่รัก ยูไม่ต้องกังวล"
"ไม่มีอะไรใช่ไหม"
"เพียบ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
"ริสา พูดความจริง"
"I love you"
"อย่าล้อเล่นสิ ฉันทำอะไรน่าเกลียดป่าว"
"เออ ๆ เดี๋ยวส่งคลิปให้ดูก็แล้วกัน"
ลูกจันทร์หยุดเป่าผม แล้วนั่งหายใจเต้นรัว เมื่อบนหน้าจอมือถือกำลังดาวน์โหลดคลิปวิดีโอที่ริสาส่งมาให้
ภาพลูกจันทร์ขึ้นไปยืนบนโต๊ะ เต้นโยกย้ายส่ายสะโพกยั่วยวน ชวนให้ใคร ๆ ที่เห็นต่างก็ส่งเสียงเชียร์กันเกรียวกราว
"ไม่จริงงงงง นั่นไม่ใช่ฉัน"
"เธอไม่ต้องคิดมากหรอกนา มันผ่านไปแล้ว มีฉันคนเดียวที่ถ่ายคลิปไว้ และก็ฉันลบออกให้แล้ว"
"ฉันทำอะไรลงไปเนี้ย"
ลูกจันทร์ครางเสียงแหบแห้งในลำคอ
โชคยังดี ร้านที่พวกเธอไปดื่มมาเมื่อคืนเป็นบาร์ฝรั่ง ที่มีแต่ชาวต่างชาติ และไม่มีใครหยิบมือถือขึ้นมาบันทึกภาพ นอกจากริสา
"ถ่ายเลยริสา นี่คือภาพความทรงจำของฉัน"
เสียงเจื้อยแจ้วนั่นก็เสียงของเธอเอง
"โธ่เอ้ยลูกจันทร์ เธอเป็นบ้าอะไร ทำตัวบ้าบอแล้วยังจะให้เพื่อนถ่ายคลิปไว้อีก"
เธอได้แต่รำพึงรำพันกับตัวเอง เมื่อเห็นว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง
"ริสา เธอก็บ้าจี้ตามฉัน ยัยเพื่อนบ้า"
ลูกจันทร์สลัดความคิดในหัวออก แล้วรีบแต่งตัวให้เสร็จ
"คิดแล้วก็น่าอาย หวังว่าคงไม่มีคลิปหลุดนะ ตาย ๆ ๆโคตรอายเลย ฮือ ๆ แต่งตัวไปดื่มกาแฟ แล้วเขียนนิยายดีกว่า บ้าบอที่สุดเลย"
แต่สำหรับงานเขียนนิยายของเธอแล้วนั้น ผลตอบรับที่ได้กลับมา มีแต่นักอ่านเข้ามาคอมเมนต์ต่อว่า
เพราะตอนนี้นิยายที่ลูกจันทร์เขียนมีแต่บทเศร้า ๆ ไม่สนุกเหมือนเมื่อก่อน
พลังงานความรักก็ไม่สามารถสาดสะท้อนเข้าสู่หัวใจของผู้คนได้
เธอเลือกที่จะเป็นแบบนั้น เธอทำตัวเอง ตั้งแต่เปิดใจรับเขาเข้ามาในหัวใจแล้ว และตอนนี้ไม่ว่าผลของการเลือกในครั้งนั้นจะเป็นอย่างไร เธอจะรับผิดชอบทั้งหมดเอง
ลูกจันทร์เริ่มเข้าใจแล้วว่า ในนิยายเล่มนั้นที่เธอเคยอ่าน แล้วโยนทิ้งอย่างไม่สนใจใยดี ที่นางเอกในนิยายเรื่องนั้น ต้องต่อสู้ชีวิตโดดเดี่ยวลำพัง ถึงตอนนี้จันทิราพรเธอเข้าใจแล้ว
เมื่อคิดถึงเรื่องราวในนิยายเล่มนั้นขึ้นมา ข้างในหัวใจเธอรู้สึกเสียววูบอย่างบอกไม่ถูก
"หรือนี่คือบทลงโทษจากเทพอักษร ที่ต้องการสอนให้ฉันรู้จักในคุณค่าของงานวรรณกรรม เข้าใจในความรู้สึกของผู้คน ความรู้สึกที่ไม่ได้มีแค่ความสุข ตอนจบในชีวิตจริงที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ"
วันนี้ วันที่เธอไม่รู้จะแต่งนิยายรักหวานแหวว โรแมนติกยังไงต่อไป
ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว ว่าความรัก ความรู้สึกรัก ความรู้สึกสูญเสีย ความรู้สึกของคนที่ต้องต่อสู้เพียงลำพัง เป็นอย่างไร เธอรู้สึกผิด สำนึกในความไร้เดียงสาของตัวเองแล้ว
"ฉันขอโทษนะคะเทพอักษร ที่ฉันได้เคยกล่าววาจา หรือแสดงกิริยาที่ไม่ดีต่องานวรรณกรรมของผู้อื่น ตอนนี้ฉันสำนึกผิดแล้ว ขอโอกาสให้ฉันนะคะ"
ลูกจันทร์ ได้แต่รำพึงรำพันกับหน้าสมุดวางพล็อตนิยายของตัวเองที่ตอนนี้มันว่างเปล่า
ยังไม่มีบทบาทใดให้ตัวแสดงออกมาเริงระบำ ไอเดียที่เคยโผล่มาทักทายก็เงียบหายตามเขาไปหมด
ตัวละครที่เคยออกมาแย่งกันแสดงให้เธอดูในหัวมากมาย ตอนนี้เหมือนว่าละครโรงนั้นถูกปิดตาย
ทันใดนั้นมือของเธอก็เริ่มขยับ ….
โปรดติดตามตอนต่อไป
ขอบคุณค่ะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา