16 ก.ย. 2022 เวลา 20:48 • ความคิดเห็น
นิทานธรรมชายที่มีเมีย4คน
#มีเรื่องเล่าในทางพระพุทธศาสนาอยู่เรื่องหนึ่ง
ซึ่งเปรียบเทียบเอาไว้น่าฟังมาก เรื่องมีอยู่ว่า พ่อค้าคนหนึ่งมีเมีย ๔ คน
> #เมียคนที่ ๔ พ่อค้ารักมาก เนื่องจากเธอสวยงาม น่ารัก น่าหยิก น่าหยอกไปเสียทุกส่วน เขาจึงทุ่มเทของมีค่า อาหารอร่อยๆ ทุกอย่างให้กับเมียคนนี้เพียงคนเดียว
> #เมียคนที่ ๓ เขารัก
รองลงมาจากคนที่ ๔ เพราะเมียคนนี้ฉลาดหลักแหลมเป็นที่ปรึกษาให้กำลังใจ ให้ความอบอุ่นกับเขาได้ พร้อมๆกันนั้น พ่อค้าก็มีความหวาดกลัวอยู่ลึกๆว่าจะมีใครมาแย่งเอาเมียคนนี้ไปจากตน.
> #เมียคนที่ ๒ เขารักรองลงมา ดูแลเอาใจใส่พอควร เมื่อมีปัญหาไม่สบายใจขึ้นมาเธอสามารถเป็นที่ปรึกษาได้แทบทุกเรื่อง.
> #เมียคนที่๑ คนนี้ถือว่าอาภัพที่สุด เขาไม่เคยสนใจ ไม่เคยดูแลเอาใจใส่ปล่อยให้อยู่เพียงลำพัง อาหารอร่อย
ไม่เคยให้ลิ้ม ของดีมีค่าเครื่องประดับไม่เคยให้เธอได้ตกแต่ง ทั้งๆที่ตัวของเธอก็มาก่อนเมียคนอื่นๆทั้งหมด
> #กาลต่อมา พ่อค้าป่วยหนัก หมดหนทางจะรักษาให้หายได้ เมื่อรู้ว่าวาระสุดท้ายแห่งชีวิตกำลังใกล้เข้ามา พ่อค้าก็หวนนึกถึงเมียทั้งสี่ที่เคยอยู่กินด้วยกันมาน่าจะมีใครสักคนร่วมเดินทางไปเป็นเพื่อนของเขาในปรโลกบ้าง เขาจึงได้ถามเมียทั้งสี่ขึ้นตามลำดับความรักที่มี เมียทั้งสี่คนก็ได้ให้คำตอบแก่เขา ดังนี้
> #เมียคนที่ ๔ ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า.
“เรื่องอะไรที่ฉันจะไปกับพี่ด้วย ถ้าพี่ตายเราก็จบกัน” คำตอบที่ได้เหมือนสายฟ้าที่ผ่าเปรี้ยงỊỊ ลงที่เขาอย่างจัง เขารู้สึกเจ็บปวด และเสียใจเป็นอย่างยิ่ง นึกเสียดายว่าไม่ควรทุ่มเทให้กับเมียคนนี้เลย
> #เมียคนที่ ๓ ตอบด้วย
อย่างหน้าตาเฉยว่าว่า
“ถ้าพี่ตายฉันจะมีใหม่หน้าที่
ที่ฉันควรทำเพื่อพี่มันจบสิ้นลงแล้วแค่นี้ ฉันคงตามไปเป็นที่รักของพี่ต่อในโลกแห่งความตายไม่ได้หรอก มีคนอื่นรอรับฉันอยู่ ขอให้พี่ไปดีนะ”
> #เมียคนที่ ๒ ตอบว่า
“ถ้าพี่ตาย ฉันจะไปส่ง” คำตอบที่ได้รับทำให้เขาคลายความเศร้าโศกลงไปได้บ้าง อย่างน้อยก็ยังมีภรรยาคนนี้ที่จริงใจกับเขา
> #เมียคนที่ ๑ ตอบว่า
“ถ้าพี่ตาย ฉันจะขอติดตามพี่ไปทุกหนทุกแห่ง ต่อให้เป็นนรกหรือสวรรค์ถ้ามีพี่ก็ต้องมีฉัน”
> #เมื่อตรัสเรื่องนี้จบลง พระพุทธเจ้าก็ตรัสเปรียบต่อไปอีกว่า.
> #เมียคนที่ ๔
เปรียบเหมือนร่างกายของเรา เพราะเวลาเรามีชีวิตอยู่ เรารักมันที่สุด ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เราจะบำรุงบำเรอมันด้วยของสารพัด อยากได้อะไรก็หาให้อย่างไม่หยุดหย่อน แต่พอเราตาย มันกลับไม่ไปกับเรา เมื่อเราตายร่างกายก็มีค่าเท่ากับท่อนไม้ท่อนหนึ่งเท่านั้น
> #เมียคนที่ ๓
เปรียบเหมือนกับทรัพย์สมบัติ เพราะยามที่เรามีชีวิตอยู่ เรารักมากเราจะทำทุกย่างเพื่อให้ได้มันมา แม้จะเหนื่อยล้าเจ็บป่วยอย่างไรก็ยังฝืนทำเพื่อมันเสมอแต่พอเราตายมันกลับไม่ไปกับเรา แถมสุดท้ายกลับเป็นของคนอื่นอีกต่างหาก
> #เมียคนที่ ๒
เปรียบเหมือนกับครอบครัว พ่อแม่ ลูกเมีย ญาติพี่น้อง ที่เรารักพอควร แต่ไม่ได้ทุ่มเทอะไรให้มากนัก เพราะหลงลืมความสำคัญ จึงเพียงแวะไปหาบ้างเป็นครั้งคราว ครั้นพอเราตาย เขาก็ทำศพให้เรา ทำบุญไปให้ นั่นคือแปลว่าเขาแค่ไปส่งเราเท่านั้น
> #เมียคนที่ ๑
เปรียบเหมือนจิตของเรา
ซึ่งน้อยคนนักจะเห็นความสำคัญของมันทั้งๆที่มันคือมิตรคนเดียวที่มาพร้อมกับเราในวันที่เราเกิด และจะตามติดเราไปทุกภพทุกชาติ เมื่อเราตายลง
> #หลายคนทอดทิ้งละเลยจิตใจ
ไม่ให้ความเอาใจใส่ ไม่เคยตกแต่งด้วยเครื่องประดับอย่างดี คือ ศีล สมาธิ ไม่คิดที่จะบำรุงด้วยอาหารอย่างดี คือ ปัญญา ความรู้เท่าทันอารมณ์ต่างๆของโลก ปล่อยให้จิตนี้แห้งแล้ง ห่อเหี่ยว เผชิญกับอารมณ์ต่างๆของโลกเพียงลำพัง
> #เมียคนที่ ๒,๓,๔
เป็นเพียงของมีไว้ในแต่
ละภพ แต่ละชาติเท่านั้น
การมีไว้ก็ควรให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง แก่ผู้อื่น แก่โลก ไม่ควรไปหลงยึดติดจนหน้ามืด ตามัว เพราะเป็นเพียงของยืมใช้ในภพนี้เท่านั้น และควรสร้างบุญกุศลเพื่อเป็นเสบียงติดตัวไปในภพหน้า!!!
#เครดิต : FW.LINE ไม่ทราบนามผู้เขียน
โฆษณา