17 ก.ย. 2022 เวลา 09:29 • ไลฟ์สไตล์
Toxic Masculinity หรือภาวะผู้ชายเป็นพิษ
toxic masculinity
ก่อนจะไปถึง Toxic Masculinity เราจะทำความรู้จักกับคำว่า Masculinity ก่อน
Masculinity หรือความเป็นผู้ชาย ผมจะขอเขียนว่า masculinity แล้วกันเพื่อความเท่และดูดี
Masculinity คือคุณสมบัติ, พฤติกรรมและบทบาทหน้าที่ที่ทางสังคมกำหนดให้กับเพศชาย แต่จะคนละความหมายกับคำว่าลักษณะทางชีววิทยาของเพศชาย(Biological Male Sex) ซึ่งอาจแตกต่างในแต่ละวัฒนธรรม, สิ่งแวดล้อมหรือกระทั่งยุคสมัย โดยทุกคนไม่ว่าเพศใดสามารถแสดงความเป็นชายได้ทั้งนั้น
ลักษณะของ Masculinity อาจจะหมายถึง ความกล้าหาญ, ความแข็งแกร่ง, ความอิสระหรือความเป็นผู้นำ
masculinity traits
โอเค คร่าวๆก็จะประมาณนี้ คราวนี้เราจะพูดถึง Toxic Masculinity กันบ้าง
Toxic Masculinity มักอธิบายลักษณะความเป็นชายที่ทำตัวครอบงำใหญ่โต, การลดค่าผู้หญิง, การเหยียดเพศและรวมถึงการใช้ความรุนแรง
ในสังคมสมัยใหม่มักใช้คำว่า Toxic Masculinity กับลักษณะของผู้ชายที่สุดโต่ง ซึ่งหลากหลายวัฒนธรรมให้การยอมรับและแพร่หลาย โดยแนวคิดความเป็นชายที่เป็นภัยมีพื้นฐานมาจาก
- ความแข็งแกร่ง
- การไม่แสดงอารมณ์
- การพึ่งพาตัวเอง
- ความมีอำนาจ
- สมรรถภาพทางเพศ
หากชายใดที่ไม่ได้แสดงลักษณะดังกล่าวข้างต้นหรือแสดงออกน้อย อาจจะถูกตราหน้าว่าไม่ใช่ "ชายที่แท้จริง" และเน้นย้ำว่าพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นผลเสียต่อผู้ที่พยายามจะมีวิถีชีวิตตามความคาดหวังข้างต้น ตัวอย่างเช่น ความก้าวร้าว, ต้องการปกครองผู้อื่น, ไม่แสดงอารมณ์ของตัวเอง, แข็งกระด้าง, ส่งเสริมความรุนแรง
depressed
ต้นกำเนิดของ Toxic Masculinity
ย้อนกลับไปตอนยุคแรกๆของโฮโมเซเปียน คนที่ประสบความสำเร็จในยุคนั้นคือคนที่สามารถล่าสัตว์และต่อสู้ได้ ซึ่งลักษณะที่พึงต่อความสำเร็จนั้นคือความแข็งแกร่ง ความโหดเหี้ยม และพลังทางกายภาพ
และพฤติกรรมเหล่านี้ก็ถูกส่งต่อมารุ่นสู่รุ่น ยุคสู่ยุค
men statue
จนมาถึงช่วงปี 1980-1990 มุมมองของยุคสมัยใหม่ต่อความเป็นชายดั้งเดิมได้เปลี่ยนไป สังคมได้มองว่าความเป็นชายแบบดั้งเดิมนั้นไม่จำเป็นอีกต่อไป นี่คือจุดที่ทำให้เกิด "ความเป็นพิษ" ขึ้นมาในกลุ่มผู้ชายที่อยากให้คงความเป็นชายแบบดั้งเดิมนี้ไว้
มีอีกทฤษฎีนึงที่ส่งผลให้เกิด Toxic Masculinity คือ อุตสาหกรรมที่เปลี่ยนไป เมื่อในอดีตงานส่วนมากจะเป็นการใช้แรงงาน แรงงานทั้งหมดแทบจะเป็นผู้ชาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆเกิดขึ้น ทำให้มีความจำเป็นในการใช้แรงงานลดลงและมีการเพิ่มขึ้นของผู้หญิงในตลาดแรงงาน อาจจะเป็นจุดทำให้ผู้ชายต้องการแสดงจุดยืนของตนเอง
a man
Toxic Masculinity ก่อให้เกิดปัญหาอะไร?
หลายคนเข้าใจว่า Toxic Masculinity จะเป็นตัวจำกัดการเติบโตและความหมายของความเป็นชายต่อตัวของคนๆนั้น
แนวคิดนี้เรียกว่า ความขัดแย้งในบทบาททางเพศ ทำให้ผู้ชายที่มีลักษณะไม่ตรงกับบรรทัดฐานเกิดความเครียดขึ้น
บางทฤษฎีก็บอกว่า Toxic Masculinity จะส่งผลต่อสุขภาพโดยตรงด้วยแนวคิดที่ว่าไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือและไม่พึ่งใคร สำหรับผู้ชายบางคนการขอความช่วยเหลืออาจหมายถึงความอ่อนแอ และทำให้รู้สึกว่า "เป็นชายน้อยกว่า"
และทาง American Phychological Association ได้บอกถึงอันตรายต่อสุขภาพจิตหากยังคงยึดมั่นแนวคิดที่สุดโต่งนี้อยู่ เช่น ภาวะซึมเศร้า, ความไม่มั่นใจและความเครียด
toxic mental health
สรุป
Toxic Masculinity คือลักษณะความเป็นผู้ชายที่สุดโต่ง ด้วยแนวคิดที่ว่าผู้ชายควรเป็นอย่างไรทำให้คนหลายคนถูกกดดันอย่างมากและส่งผลเสียต่อตัวพวกเขาเอง
การจะข้ามผ่าน Toxic Masculinity ได้นั้นคงต้องเริ่มจากการนิยามคำว่า "ความเป็นชาย" ซะใหม่ก่อน เพียงแต่ละคนนิยามไปในแบบของตัวเอง ตัวเราชีวิตเรา ไม่มีใครมากำหนดได้ ดังนั้นคุณจงเลือกให้เหมาะกับตัวเองที่สุดนั้นแหละ
ปล. Toxic Masculinity กับ Masculinity ไม่ใช่อันเดียวกันอย่าเหมารวมนะครับ คุณสามารถเป็น Masculinity ได้โดยที่ไม่ต้อง Toxic แล้วเราจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขขึ้นแน่นอน
มาร่วมเป็นผู้ชายที่ดีกันนะครับ ขอให้คุณโชคดี
- GreatmenTH
โฆษณา