6 ต.ค. 2022 เวลา 23:00 • ประวัติศาสตร์
ความประทับใจในการเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ep.2
ใน ep.1 นั้น เราได้ติดค้างไว้อยู่ที่พระที่นั่งวสันตวิมานใช่มั้ยคะ? ใน ep.2 นี้ไม่ขอพูดพร่ำเพราะเราจะมาต่อกันด้วยส่วนจัดแสดงที่ 7 กันต่อเลยค่ะ และขออภัยที่เว้นไปแสนนานเลย55555
7.พระที่นั่งปัจฉิมาภิมุข เป็นส่วนที่ใช้จัดแสดงโลหะศิลป์
ภายในส่วนนี้ก็จะมีอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่เป็นโลหะต่างๆถูกนำมาจัดแสดง บอกเลยว่างานโลหะศิลป์ก็มีความปราณีตและงดงามไม่แพ้งานช่างศิลป์สายอื่นเลยค่ะ เมื่อได้มองแล้วจะรู้สึกหลงไหลจนแทบจะหยุดมองไม่ได้เลยค่ะ
ภายในห้องนี้มีวัตถุจัดแสดงมากมายแต่เนื่องจากเวลามีจำกัดจึงถ่ายชิ้นที่สะดุดตาที่สุดเก็บมาไว้ดูและจะขอแบ่งปันให้ทุกคนได้ดูกันค่ะ
8.พระที่นั่งปฤษฎางคภิมุข เป็นส่วนจัดแสดงเครื่องสัปคับหรือที่สำหรับนั่งที่นำไปผูกติดไว้บนหลังช้างของเจ้าขุนมูลนายระดับต่างๆ และในแต่ละโอกาสก็ใช้เครื่องสัปคับไม่เหมือนกันด้วยค่ะ เช่น ในโอกาสทำศึกก็จะมีเครื่องสัปคับเฉพาะที่แตกต่างกับโอกาสที่ใช้ในเวลาเดินทาง
เครื่องสัปคับในแต่ละโอกาสก็จะแตกต่างกันไป
ต่อไปก็จะถึงส่วนการจัดแสดงส่วนที่9 ในอาคารหลังนี้กันแล้วนะคะ บอกเลยว่าเพราะเป็นอาคารที่ใหญ่มากๆและมีคนมาเข้าชมไม่เยอะ และไปเดินชมคนเดียวด้วย จึงแอบรู้สึกวังเวงและขนลุกไปกับความขลังของสถานที่อยู่บ้างค่ะ แต่ก็พอจะอุ่นใจขึ้นมามากเลยค่ะที่มีเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ที่นั่งคอยให้บริการและคอยดูแลอยู่ในทุกๆส่วนการจัดแสดง
9.มุขเด็จ เป็นส่วนที่จัดแสดงเครื่องไม้จำหลัก คือ จัดแสดงเครื่องไม้แกะสลัก ศิลปะไม้แกะสลักชิ้นสำคัญต่างๆ โดยชิ้นงานที่โดดเด่นที่สุดคือ บานประตูพระวิหารวัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหารซึ่งเป็นผลงานที่มีฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยร่วมอยู่ด้วยนั่นเองค่ะ
เป็นบานประตูแกะสลักไม้ที่สลักออกมาโดยส่วนล่างเป็นรูปยักษ์ กระบี่ ครุฑ สลับกับลายนาคขบ นกคาบ และสัตว์หิมพานต์ต่างๆ ไล่ไปจนถึงส่วนบนที่เป็นเทพเทวดา
11.พระที่นั่งอุตราภิมุข เป็นส่วนจัดแสดงอิสรยพัสตราภูษาภัณฑ์ หรือก็คือเครื่องนุ่งห่มส่วนพระองค์ ห้องนี้เป็นห้องจัดแสดงที่ค่อนข้างมืดเมื่อเทียบกับห้องอื่นๆค่ะ อาจจะเพราะต้องถนอมเนื้อผ้าของเครื่องนุ่งห่มต่างๆจึงต้องให้สัมผัสแสงน้อยที่สุด และส่วนตัวแอบรู้สึกว่าห้องนี้น่ากลัวนิดหน่อยค่ะ เพราะเป็นส่วนจัดแสดงฉลองพระองค์จริงๆบวกกับแสงไฟที่สลัวๆ และเป็นช่วงที่คนเข้าชมน้อยจึงมีแค่เราคนเดียวที่เข้าชมในห้องนี้
แต่ยังดีที่มีเจ้าหน้าที่ในพิธภัณฑ์คอยดูแลห้องอยู่ จึงกล้าที่จะเดินและชื่นชมไปกับความสวยงาม ความปราณีตละเอียดลออของอิสรยพัสตราภูษาภัณฑ์ได้ค่ะ
บรรยากาศในส่วนจัดแสดงก็จะประมาณนี้เลยค่ะ ถ้าเดินคนเดียวก็จะแอบวังเวงหน่อยนะคะ แห่ะๆ
ในส่วนจัดแสดงนี้ทำให้เราได้รู้เลยค่ะว่าคนสมัยก่อน เจ้าขุนมูลนายต่างๆตัวเล็กกว่าเรากันมากๆเลย ส่วนการตัดเย็บผ่านมาหลายยุคหลายสมัยแล้วก็ยังคงเห็นถึงความปราณีตในลายละเอียดและลวดลายต่างๆได้อย่างชัดเจนเลยค่ะ
12.พระที่นั่งพรหมเมศธาดา เป็นส่วนจัดแสดงเครื่องมุกที่เป็นเครื่องใช้ในพระบรมวงศานุวงศ์ วัตถุแต่ละชิ้นที่นำมาจัดแสดงสวยงามตระการตาสุดๆจนถ่ายมาไม่กมดเลยล่ะค่ะ พูดได้เลยว่าเราสามารถจ้องมองของในห้องนี้ได้เป็นชั่วโมงๆเลยล่ะค่ะเพราะมองเพลินมาก สวยวิจิตรบรรจงจริงๆค่ะ
ลายฝังมุกลงลักอันแสนละเอียดปราณีตฝีมือช่างศิลป์ไทยมองได้ทั้งวันไม่มีเบื่อเลยค่ะ
ต่อไปจะเป็นส่วนการแสดงสุดท้ายของอาคารหลังนี้ และเป็นส่วนสุดท้ายที่เราได้เดินในครั้งนี้แล้วล่ะค่ะ(เพราะเราไป2ชม.ก่อนพิพิธภัณฑ์ปิดเลยเดินยังไม่ครบ) ส่วนสุดท้ายของพิพิธภัณฑ์นั้นก็คือพระที่นั่งบูรพาภิมุขค่ะ
13.พระที่นั่งบูรพาภิมุข เป็นส่วนที่จัดแสดงเครื่องศัสตราวุธโบราณ มีครบทุกแบบทุกแขนงเลยค่ะ มีตั้งแต่มีด ดาบ หอก ง้าว ไปจนถึงปืนในยุคต้นๆ รวมทั้งยังมีชุดยันต์ที่ใส่ออกรบสำหรับพลทหารอีกด้วย
อาวุธต่างๆในสมัยโบราณและชุดยันต์สำหรับพลทหารที่ใช้ออกรบ
Fyi:ชุดยันต์เป็นชุดที่ผ่านการลงยันต์อักขระรวมถึงมีรูปพระพุทธรูปปางต่างๆเขียนลงไปที่ชุดเพื่อเป็นเครื่องรางและที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้เป็นขวัญกำลังใจในการต่อสู้
ครบทั้งหมดแล้วสำหรับการแนะนำส่วนจัดแสดงนิทรรศการศิลปะไทยประเพณีในส่วนการจัดแสดงที่อาคารหมู่พระวิมาน ซึ่งเป็นอาคารจัดแสดงที่ใหญ่ที่สุดในพิพิธภัณฑ์ล่ะค่ะ ในครั้งหน้า(หากได้ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครอีก)ก็จะมาเขียนในส่วนต่างๆเพิ่มเติมให้ทุกคนได้เยี่ยมชมไปพร้อมกันนะคะ
ถึงแม้ว่าเราจะได้ถ่ายทอดความสวยงามและบรรยากาศต่างๆในพิพิธภัณฑ์มาให้ทุกคนได้อ่านกันผ่านตัวอักษรและรูปภาพแล้วนั้น แต่เราก็ยังอยากจะให้ทุกคนมาเดินชมให้ได้เห็นและซึมซับด้วยตัวเองอยู่ดีนะคะ เพราะมีหลายๆอย่างที่ไม่สามารถถ่ายทอดได้ผ่านตัวอักษรและภาพถ่าย หากมีโอกาสก็อยากจะให้ได้มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กันนะคะ ราคาค่าเข้าชมสำหรับคนไทยก็แสนถูกเพียง30฿เท่านั้น
ราคาไม่กี่สิบแถมยังเดินเที่ยวได้จนถึงสี่โมง เข้าได้ทุกส่วนจัดแสดงเลยค่ะ และพิพิธภัณฑ์กว้างใหญ่มากเพราะเป็นวังมาก่อน กวาดตามองครั้งเเียวไม่หมดจริงๆค่ะ
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากทางหน้าเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์เลยนะคะ
และสุดท้ายนี้ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านเรื่องราวของนักเขียนฝึกหัดคนนี้และให้ความสนใจกับบทความของเรา หากมีข้อคิดเห็นติชม เสนอแนะ หรือจะพูดคุยกันในเรื่องต่างๆก็สามารถคอมเมนท์มาได้เลยค่ะ
โฆษณา