27 ก.ย. 2022 เวลา 07:54 • ความคิดเห็น
“I've learned that people will forget what you said, people will forget what you did, but people will never forget how you made them feel.”
On the Pulse of Morning ได้ถูกอ่านในวันที่ 20 มกราคม 1993 ในพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีบิล คลินตัน เป็นครั้งที่ 2 ของการนำบทกวีมาใช้ในพิธีสาบานตนนับจากสมัยประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคเนดี้เมื่อปี 1961 ครั้งนั้นเป็นของโรเบิร์ต ฟรอสต์ แต่ครั้งนี้เป็นของมายา แองเจลู
กวีนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิพลเมืองชาวอเมริกัน ผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์มากกว่า 50 ใบ เชื่อหรือไม่ว่าเธอเคยใช้เวลา 5 ปีโดยไม่พูดเพราะโทษว่าการที่เธอพูดชื่อคนคนนึงออกไปจึงทำให้เขาถูกฆ่าตาย จนอายุ 8 ปี เธอได้พบกับครูที่ชื่อ เบอร์ธา ฟลาวเวอร์ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้เธอกลับมาพูดด้วยคำพูดว่า เธอไม่มีทางรักบทกวีได้จนกว่าเธอจะพูดมันออกมา
ผู้คนเป็นอยู่และดับไป น้อยคนนักที่จะจำได้ว่าใครชอบทำอะไรที่ไหน แต่สิ่งที่จะถูกจดจำยอมเป็นสิ่งที่เขาทำอะไรให้กับโลกใบนี้บ้าง น่าจะเป็นคำพูดที่สื่อออกมาลักษณะใกล้เคียงกับประโยคของมายาในวันนี้ และยิ่งตอกย้ำความสำคัญของการปฏิบัติต่อผู้อื่น ซึ่งเมื่อวานผมได้เสนอไปแล้ว
พอถึงตอนนี้ผมนึกถึงตอนฟังทอล์คโชว์ของพันเอกนายแพทย์พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา ที่ถามว่าคนเราโดนด่าเจ็บที่ไหน และก็ยกตัวอย่างแม่ค้าในตลาดกำลังด่าอะไรบางอย่างอยู่ และถามเรารู้สึกไหม แน่หล่ะครับไม่มีใครรู้สึกเท่าไหร่หรอกตราบใดก็ตามที่ไมได้มีชื่อเราพ่วงไปอยู่ในคำด่านั้น
โฆษณา