7. ความสามารถตามธรรมชาติทำให้เกิดการเชื่อพึ่งตัวเองและเชื่อมั่นในตัวเอง กระทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง และทำให้เราพึ่งพิงตัวเอง แต่ไม่พึ่งพิงพระเจ้า; ความสามารถที่อยู่ในการเป็นขึ้นเชื่อพึ่งในพระเจ้า และไม่กล้าที่จะกระทำตามตัวเองแม้ว่าในความเป็นจริงจะสามารถทำได้และมีศักยภาพที่จะทำก็ตาม; ความสามารถที่อยู่ในการเป็นขึ้นได้ถูกควบคุมโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์และไม่กล้าที่จะกระทำตามความประสงค์ของตัวเอง — เทียบ 2กธ.1:8–9; 4:6–7; 12:7–9.
8. ความสามารถตามธรรมชาติไม่มีองค์ประกอบอันศักดิ์สิทธิ์; ความสามารถตามธรรมชาติแสวงหาสง่าราศีของตัวเองและสนองความปรารถนาของตัวเอง; ความสามารถตามธรรมชาติผสมกลมกลืนกับองค์ประกอบของเนื้อหนังและโทสะ; ดังนั้น เมื่อไม่ได้รับการยอมรับ จึงถูกกระตุ้นให้โกรธ;ความสามารถที่อยู่ในการเป็นขึ้นนั้นไม่มีเนื้อหนัง — เทียบ 1ธซ.2:4.
9. ความสามารถตามธรรมชาติคงอยู่ชั่วคราวและไม่สามารถต้านทานการทดสอบ, การโจมตี, หรือการต่อต้าน; ความสามารถที่อยู่ในการเป็นขึ้นเทิดทูนพระบิดาให้เป็นใหญ่ ยอมรับน้ำพระทัยของพระบิดา — มธ.11:20–26; ยฮ.2:19; กจ.2:24.
10. ผู้ที่ปรนนิบัติตามความสามารถตามธรรมชาตินั้นปรารถนาบำเหน็จหรือการชื่นชมจากผู้อื่น; ผู้ที่ปรนนิบัติตามความสามารถที่อยู่ในการเป็นขึ้นปรารถนาที่จะได้รับพระคริสต์และมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเป็นที่พอพระทัยพระองค์ — ฟป.3:8; ยนซ.15:1; ฮร.11:5–6; 2กธ.5:9.
11. ความสามารถตามธรรมชาติชอบทำให้ตัวเองปรากฏเป็นที่ประจักษ์, ให้ผู้คนรู้จัก, และทำสิ่งต่างๆ ต่อหน้ามนุษย์; ความสามารถที่อยู่ในการเป็นขึ้นชอบทำสิ่งต่างๆ ในที่ลับเพื่อจะเป็นหนึ่งกับ “พระเจ้าผู้ซ่อนพระองค์เอง” และเพื่อจะ “หยั่งรากลงข้างล่างและเกิดผลขึ้นข้างบน” — ยซย.45:15; 37:31; มธ.6:4, 6, 17–18.
วันพฤหัสบดี- การบำรุงเลี้ยงแห่งการฟื้นฟูยามเช้า
มัดธาย บทที่ 16 ข้อ 24 ขณะนั้นพระเยซูจึงตรัสแก่เหล่าสาวกของพระองค์ว่า ถ้าผู้ใดจะใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นปฏิเสธตัวเองและแบกกางเขนของตนและติดตามเรามา.
1เธซะโลนิเก บทที่ 2 ข้อ 4 แต่ว่าพระเจ้าทรงเห็นชอบที่จะมอบกิตติคุณไว้กับเราฉันใด เราจึงกล่าวไปฉันนั้น ไม่ใช่จะให้เป็นที่ชอบใจมนุษย์ แต่จะให้เป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้าผู้ทรงชันสูตรใจเราทั้งหลาย.