หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ เกิน 31 ล้านล้าน USD หวั่นกระทบหนักต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน
ล่าสุด!! หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนทะลุ 31 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น จนหลายฝ่ายกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนทางการคลัง
แถลงการณ์ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ
ที่ออกเมื่อวันอังคารแสดงให้เห็น
ยอดหนี้สาธารณะคงค้างอยู่ที่ 31.1 ล้านล้านดอลลาร์ในวันจันทร์
ซึ่งรวมถึงหนี้สาธารณะที่ถือครองอยู่ 24.3 ล้านล้านดอลลาร์ และการถือครองระหว่างรัฐบาลอีก 6.8 ล้านล้านดอลลาร์
มายา แมคกินี ประธานกลุ่มเฝ้าระวังงบประมาณ คณะกรรมการงบประมาณของรัฐบาลกลางที่รับผิดชอบ กล่าวว่า
"นี่เป็นสถิติใหม่ที่ไม่มีใครควรภาคภูมิใจ"
โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
สหรัฐฯ มีหนี้สินรวมเพียง 20 ล้านล้านดอลลาร์ เท่านั้น
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณแปดเดือนก่อน
หนี้สาธารณะทั้งหมดของสหรัฐได้เพิ่มขึ้นสูงเกิน 30 ล้านล้านดอลลาร์
วงเงินหนี้ของรัฐบาลกลางในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากที่รัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาได้ผ่านกฎหมายเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เพื่อเพิ่มขีดจำกัดและป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ที่อาจเกิดขึ้น
"ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา
เราพบว่าอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี อัตราดอกเบี้ยส่วนหนึ่งสูงขึ้นเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อนี้ รวมถึงกฎหมายและการดำเนินการด้านบริหารที่ลดงบประมาณหลายส่วน"
- แมคกินีกล่าว
"ในขณะที่การกู้ยืมใหม่ส่วนใหญ่
มีความจำเป็นในการรับมือการต่อสู้กับโควิด-19
แต่ตอนนี้เราผ่านพ้นช่วงที่เลวร้ายที่สุดของการระบาดใหญ่ไปแล้ว
และถึงเวลาที่ต้องใช้งบประมาณ
อย่างมีความรับผิดชอบ
แต่เรายังคงกู้ยืมอยู่" เธอกล่าว "เราติดหนี้"
📷 Yahoo finance
MacGuineas ตั้งข้อสังเกตว่า..
ในปี 2022 เพียงปีเดียว รัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาและประธานาธิบดี Joe Biden ได้อนุมัติเงินกู้ใหม่รวมกัน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์
และ Biden ได้อนุมัติการขาดดุลใหม่จำนวน 4.9 ล้านล้านดอลลาร์นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง
ในบทความที่ตีพิมพ์เมื่อวันอังคาร มูลนิธิ Peter G. Peterson Foundation ระบุว่า..
ตัวเลข 31 ล้านล้านดอลลาร์ คิดเป็นมากกว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจของจีน ญี่ปุ่น เยอรมนี และสหราชอาณาจักรรวมกัน
และทำให้ชาวอเมริกามีจำนวนหนี้สูงถึง
236,000 ดอลลาร์/ครัวเรือน
คิดเป็นเงินไทย x37.3
เท่ากับชาวอเมริกาเป็นหนี้สูงถึง 8.8 ล้านบาท/ครัวเรือน
มูลนิธิกล่าวว่า..
"หนี้ที่สูงขึ้นและเพิ่มขึ้นของอเมริกา มีความสำคัญ เพราะมันคุกคามอนาคตทางเศรษฐกิจของเรา"
MacGuineas ยังกล่าวว่า..
"ประเทศของเราเผชิญกับความท้าทาย
ทางการคลังที่สำคัญในระยะเวลาอันใกล้
เมดิแคร์อยู่ห่างจากการล้มละลายเพียง 6 ปี
และการล้มละลายในประกันสังคมก็อยู่ห่างออกไปเพียง 12 ปี ทว่าผู้กำหนดนโยบาย
ไม่ได้วางแผนที่จะวางโปรแกรมทั้งสองอย่าง
เพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านการเงิน
- MacGuineas กล่าว
ในรายงานที่เผยแพร่เมื่อเดือนพฤษภาคม
สำนักงานงบประมาณรัฐสภา (CBO) เตือนว่า..
"หนี้ที่สูงและที่เพิ่มขึ้นจะมีผลกระทบเชิงลบ
อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งต่อเศรษฐกิจและงบประมาณของรัฐบาลกลาง
เมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ภาระในการจ่ายดอกเบี้ยของรัฐบาลกลางจะสูงขึ้น
รวมถึงการชำระให้กับผู้ถือหนี้ของสหรัฐฯ
ในต่างประเทศ จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
- รายงานระบุ
เส้นทางหนี้ดังกล่าว จะผลักดันต้นทุนการกู้ยืมสำหรับภาคเอกชน ซึ่งจะส่งผลให้การลงทุนทางธุรกิจลดลงและชะลอการเติบโตของผลผลิตทางเศรษฐกิจเมื่อเวลาผ่านไป
CBO ยังระบุด้วยว่า..
"แนวโน้มที่จะเกิดวิกฤตการคลังในสหรัฐอเมริกาจะเพิ่มขึ้น
"โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นจากการที่นักลงทุนสูญเสียความมั่นใจในความสามารถของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการให้บริการและชำระหนี้
ทำให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน
และอัตราเงินเฟ้อจะพุ่งสูงขึ้น หรือมีการหยุดชะงักอื่นๆ"รายงานระบุ
เรียบเรียงโดย
สาระอัปเดต
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
