7 ต.ค. 2022 เวลา 02:33 • ความคิดเห็น
ขอพูดถึงอาชีพชาวนาปลูกข้าวบ้าง
1
• ก่อน พ.ศ. 2509 ชาวนาทำนาแบบดั้งเดิม ใช้แรงงานคน แรงงานสัตว์ ไม่เร่งรัดการผลิต ต้นทุนไม่มี แต่เมื่อมีการเปลี่ยนพันธุ์ข้าว**
1
• โดยกรมการข้าวใช้ศัพท์ทางวิชาการว่าไวต่อปุ๋ย ซึ่งกินปุ๋ยมาก เพราะเขาต้องการเร่งผลผลิต ในขณะที่เร่งผลผลิต แต่ไม่มีการคุ้มครองราคา**
1
• เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เมื่อมีการผลิตมากก็ต้องถูกกดราคา
1
• ต้องให้ชาวนาหรือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทุกคนสามารถทำทุกอย่างได้อย่างครบวงจร ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก
1
• วันนี้ต้องขายข้าวสารไม่ใช่ขายข้าวเปลือก** เมื่อเครื่องจักรทุกอย่างพร้อมแล้ว เหลือแค่การส่งเสริมจากภาครัฐ แต่โครงสร้างวันนี้มันยังผูกขาดอยู่กับคนไม่กี่คน
1
• แม้แต่น้ำดื่มรัฐบาลยังคุมราคาไว้ จะขึ้นราคาตามใจไม่ได้ แต่ปุ๋ยหรือสารเคมีที่เกษตรกรต้องใช้รัฐไม่มีการคุมใด ๆ**
1
• อีกทั้งราคาผลผลิต ราคาสินค้าเกษตร รัฐก็ไม่ดูแล** คำว่ากลไกการตลาดใช้ไม่ได้สำหรับการเกษตรไทย เพราะพืชและสัตว์ก็มีการผูกขาดหมด**
1
• เหตุผลที่เกษตรกรไทยไม่สามารถพัฒนาคุณภาพการผลิตได้ เนื่องจากหนี้ที่จี้หลังอยู่ตลอดเวลา** อีกทั้งยังอยู่ในสภาพจำยอม
1
• โดยเฉพาะหนี้ที่เกษตรกรต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยอย่างน้อยร้อยละ 8 ต่อปี ซึ่งต้นทุนดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่หนักหนา เพราะเมื่อเกษตรกรกู้เงินมา ดอกเบี้ยเดินทันที ขณะที่รายได้กว่าจะได้ผลผลิตก็อย่างน้อยอีก 5 เดือน
1
• ถ้ารัฐบาลมีสติปัญญาได้คิด ตั้งต้นกันใหม่สำหรับแผนและทิศทางการพัฒนาภาคการเกษตรไทย หันมาทบทวนและเริ่มต้นกันใหม่ หนี้สินจะจัดการอย่างไร** ข้างหน้าจะทำอย่างไร
2
• หนี้สินที่เกษตรกรเป็นอยู่ 5 แสนล้านบาทใน ธกส. ยกให้ได้ไหม ทำงบฯ ผูกพันสัก 5 ปี ปีละแสนล้านบาท หยุดซื้อเรือดำน้ำ หยุดซื้อเครื่องบินก่อนได้ไหมสักปี
1
• ทบทวนกันใหม่ว่าทิศทางของเราถูกหรือผิด แล้วถ้าผิดเราจะเดินต่ออย่างไร มันไม่มีทางอื่นนอกจากทางนี้ ถ้ายังดันทุรังแก้เป็นจุดๆ ก็ไม่จบ เป็นวัวพันหลักอยู่อย่างนี้
1
• ต่อให้วันนี้ปลดหนี้ชาวบ้านเป็นศูนย์ ก็เกิดหนี้ใหม่ถ้าโครงสร้างการผลิตยังเป็นแบบนี้***
1
โฆษณา