7 ต.ค. 2022 เวลา 10:31 • ไลฟ์สไตล์
06/09/65
ช่วงนี้นอนดึกทุกคืน กลางคืนไม่เป็นอันทำอะไร ตั้งใจว่าจะอ่านหนังสือ “เกมลูกแก้ว” เฮสเสถือว่าเล่มนี้ได้โนเบลก็ได้ ตั้งใจจะอ่าน wolf hall ของ ฮิลารี แมนเทล ให้จบ แล้วก็ต่อด้วย แอนน์ โบลีน: ราชินีตกสวรรค์ ของ ฮิลารี แมนเทล ทั้งสองเรื่องได้รางวัล booker prize ทั้งคู่ แล้วก็จดโน้ตเอาไว้ว่ามีโอกาสจะซื้อ บันทึกนกไขลาน กับ คาฟกา วิฬาร์ นาคาตะ ของ มูราคามิ ไว้อ่านตอนไปริมทะเล ... ไม่รู้เมื่อไรจะได้ไป
ติดทุกอย่างเวลาน้อยลง นอนดึกขึ้น เพราะซีรี่ย์ do you like brahms และช่วงนี้ ep 11-13 ดูจะหนักๆ ดูจะเศร้าๆหน่อย ไม่ชอบตอนเศร้าเลยครับ
แม้ว่าพระเอกจุนยองจะไปแทจอนกับนางเอกซงอา หลายคนไม่ได้ดู และไม่มีเวลาดูก็ไม่ว่ากัน ผมจะสรุปเอาสิ่งดีๆมาเล่าให้ฟัง และอาจจะเล่าไปเรื่อยๆสักพักเพราะตอนนี้มีเรื่องมากระทบใจผมเยอะมาก ทำเอาเศร้าไปเหมือนกัน
ตอนที่พระเอกตามนางเอกไปแทจอนอันเป็นบ้านเกิดพระเอก บ้านที่เติบโต ที่เรียนหนังสือตั้งแต่เล็ก หัดเล่นเปียโนก็ที่นี่ พระเอกเล่าว่าเขาไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่ได้ใช้ชีวิตพ่อแม่เท่าไหร่ ก็เลยต้องขลุกกับเปียโนทั้งวัน เพราะกลับบ้านไปก็ไม่มีใครอยู่บ้าน พ่อแม่ไม่อยู่ เพื่อนแถวบ้านก็ไม่มี พ่อแม่เอามาส่งไว้ที่นี่ ที่เรียนดนตรีก็เลยอยู่ไปทั้งวัน
มองลึกๆนะครับ เสียอะไรไปก็อาจได้อะไรกลับมาเสมอ เพียงแต่เราอาจรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว อาจได้มาทางตรง หรืออาจได้มาทางอ้อม บางคนอาจส่งผมช้า บางคนอาจส่งผลเร็ว ใครใครก็ชอบผลตอบแทนเร็วๆครับ แต่ไม่ใช่จะได้ทุกคน
และที่นี่ นางเอกก็ได้มาเจอแม่พระเอก เจอแม่แฟนครั้งแรกในชีวิตครั้งแรกเลยนะครับ ใครที่รอเจอพ่อแม่แฟน ผมว่าคงเข้าใจอารมณ์ มันกดดันนะ ผมว่ากดดันมาก เพราะเราอาจไม่ได้ไปต่อ อาจเลิก อาจเข้ากับครวบครัวพ่อแม่แฟนไม่ได้ เข้ากับพี่น้องเขาไม่ได้ อาจเข้ากับเพื่อนแฟนไม่ได้
แล้วถ้าใครเข้าไม่ได้ทั้งสามกลุ่มนี้ โอกาสรอดยากครับ ผมว่ารอดยากเพราะชีวิตคู่มันซับซ้อน โลกของเขาจะมาซ้อนทับกับโลกของเรา และพื้นที่ส่วนตัวของทั้งเราและแฟน ชีวิตคู่ยากมาก ชีวิตครอบครัวยิ่งยากกว่า
แต่ตอนนี้ผมถึงกับหยุดดู pause เอาไว้ ถึงกับแอบร้องไห้ เพราะมีอะไรหลายอย่างโดยเฉพาะตอนที่นางเอกนั่งรถทัวร์ทั้งขาไปและขากลับ ถ้ามาคนเดียวคงเหงาน่าดู เหงามากๆครับ ดีที่มีพระเอกมาด้วย อารมณ์น่าจะเหมือนเรานั่งรถไปต่างจังหวัดใช้เวลาไป 3 ชม กลับอีก 3 ชม ผมเคยครับ นั่งรถไปหาคนรัก
ไป 3 ชม ขาไปลิงโลดตื่นเต้น ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มองอะไรก็เป็นสีชมพู สายรุ้งโลกสดใสสดสวย ขากลับซิครับน้ำตาจะไหล ทุกอย่างดูสีหม่นหมอง
สีเทาสีขาวสีดำ หันไปทางไหนก็เจองานศพ ป้ายงานศพ งานสวดอภิธรรม งานฌาปนกิจ วันนั้นวัดนี้ ยืนอยู่ริมถนนก็ได้ยินเสียงไซเรนรถพยาบาล ทำไมมันมีแต่การจากลา มีแต่การพลัดพราก
ยิ่งผมเห็นตอนนางเอกหยิบตั๋วรถเมล์ มากอดประคองไว้ ยิ้มดีอกดีใจ แล้วเอาเก็บเข้ากระเป๋าสตางค์ผมยิ่งน้ำตาไหล ผมก็เป็น ไม่รู้จะเล่าให้ใครฟัง ผมเข้าใจอารมณ์นั้นมาก มันจุกมันพูดไม่ออก
ทำไมเราต้องอยู่ไกลกัน ทำไมนะ เราจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ เราจะได้ใช้ชีวิตร่วมกันไหม ตรงนั้นไม่มีคำตอบหรอกครับ ผมจะบอกคนที่กำลังอยู่ในภาวะนั้นว่า อดทนและทำใจครับ ชีวิตมันเป็นแบบที่มันเป็น เราแค่ทำใจมีความสุขปนเศร้า แต่ก็สุขครับ
โฆษณา