8 ต.ค. 2022 เวลา 12:41 • ปรัชญา
1) ผมมองชีวิตของ “ผึ้ง” เป็นกรณีศึกษาดังนี้ครับ
ในรังผึ้งโดยส่วนใหญ่ผมเข้าใจว่าจะมี “ผึ้งงาน” ที่คอยหา “น้ำหวานจากเกษรดอกไม้” มาเก็บไว้ในรังเพื่อเป็นอาหารให้ “ตัวอ่อนของผึ้งรุ่นต่อไป” ที่ “ผึ้งราชินี” ได้มอบชีวิตใหม่ให้ตัวอ่อนเหล่านั้นไว้
ทั้ง “ผึ้งราชินี” และ “ผึ้งงาน” ต่างทำหน้าที่อย่างตั้งอกตั้งใจขยันขันแข็ง โดยไม่ได้ใส่ใจกับความแปรปรวนใดๆในโลก
1
“ผึ้งราชินี” ให้ชีวิตแก่ผึ้งรุ่นต่อไป ส่วน “ผึ้งงาน” นอกจากจะช่วยหาอาหารและสร้างรังแล้ว ก็ยังช่วย “ผสมเกษรดอกไม้” ไปด้วย ทำให้ในป่ามีการขยายพันธุ์ดอกไม้นานาชนิด สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้โลกต่อไป ตราบเท่าที่ชีวิต “ผึ้งๆ” จะทำได้จนสิ้นอายุขัย
2) มนุษย์มีอัตราส่วนของนำ้หนักสมองเทียบกับนำ้หนักร่างกายสูงเป็นอันดับต้นๆของสิ่งมีชีวิตใน
“อาณาจักรสัตว์”
“อัตรา” ที่ว่า ส่วนหนึ่งกลับกลายเป็น “อัตตา: ตัวกู ของกู”
คือ ต้องมีทรัพย์สินชื่อเสียงเกียรติยศ ยศถาบรรดาศักดิ์ บริวารก๊กก๊วน เอาไว้ประดับ “อัตตา” ของตัวเอง เพื่อ “กลบเกลื่อน” ความกลัวแห่งความไม่รู้ หรือ “อวิชชา” ที่อยู่ในใจลึกๆของคนเหล่านั้น
1
ซึ่ง “ความกลัว” นี้เอง นำมาซึ่ง “การแสวงหาอำนาจ” ในรูปแบบต่างๆ โดยไม่ได้คิดคำนึงถึง “โลก” อันเป็น “ที่เกิดและที่ตาย” แต่อย่างใด!
1
กลุ่มคนที่แสวงหาอำนาจมาพอกเนื้อพอกตัวได้ ก็จะคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชนะ กลุ่มคนที่แสวงหาอำนาจไม่ได้อย่างที่ตัวเองต้องการก็ “ดิ้นรน” ต่อไป
แต่ยังมีกลุ่มคนที่มี “ปัญญา” มองเห็นความเป็นจริงที่ว่า “อำนาจ” เป็นสิ่งไม่เที่ยง เพราะเอาเข้าจริงๆ “ชีวิต” นั้นก็ไม่เที่ยง มีเกิดแก่เจ็บตาย เป็นเรื่องธรรมดา
คนกลุ่มนี้จึงเข้าใจความ “ซับซ้อน” ของความเป็นมนุษย์ที่มีสมองที่ล้ำหน้ากว่าสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ แล้วหันกลับมาใช้สมองอันทรงพลังนั้นเพื่อ “ค้นพบความจริง” แห่ง “อนิจจัง, ทุกขัง, อนัตตา” แทน!
โดยการใช้ชีวิตไม่ไปเบียดเบียนเพื่อนร่วมโลก และโลกอันเป็นที่เกิดและที่ตายอย่างไม่ประมาท!
1
3) อัตตาลด ความสุขเพิ่ม!
ผมขอวาดภาพกราฟชีวิตแบบนี้ครับ แกนตั้งคือเครื่องชี้วัดความเป็นอัตตา ส่วนแกนนอนคือเวลาในการมีชีวิตอยู่
ชีวิตตอนแรกเกิด เรามาแต่ตัว ไม่มีแม้เสื้อผ้าติดมาสักชิ้น พอเริ่มเข้าโรงเรียนก็มีเพื่อนมีดินสอมียางลบมี ipad
พอโตขึ้นก็มีแฟน มีงาน มีหัวหน้า มีลูกน้อง มีเจ้าหนี้ มีลูกหนี้ มี smartphones ใน smartphones ก็มี social media accounts หลายอัน! มีบ้าน มีรถ มีบัตรนั้นมีบัตรนี้ มีอำนาจวาสนา มียศศักดิ์
ทั้วหมดทั้งมวล คือเครื่องชี้วัดความเป็นอัตตาที่มีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆที่ทุกครั้งที่เข็มวินาทีกระดิก ชีวิตเราเดินเข้าใกล้ลมหายใจสุดท้ายเข้าทุกทีๆ
คือมีก็มีไปครับ แต่ก็หมั่นเตือนตัวเองไว้ด้วย เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องความไม่ประมาทไว้เป็นคำสอนสุดท้าย
1
4) “ดี vs ชั่ว”
5) “ธรรมชาติของความกลัว”
โฆษณา