การบริหารเงินแบบ 6 jars ของ T.Harv Eker
หนังสือเล่มนี้ถูกตีพิมพ์มาหลายปีแล้ว แนวคิด 6 jars มีคนตีพิมพ์แพร่หลายพอสมควร แต่อยากเขียนเผื่อคนที่ยังไม่เคยอ่าน ในหนังสือมีการยกตัวอย่างประสบการณ์ของตัวเอง case ตัวอย่างที่น่าสนใจ เป็นแนวจิตวิทยาของคนที่มีต่อเงิน ที่ ทำให้คนรวยหรือจนได้ น่าสนใจทีเดียว
จุดเริ่มต้นของการซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่าน เพราะได้ฟังแนวคิดการบริหารเงินของผู้เขียน จากครู 2 ท่านที่ฉันนับถือ ท่านแรกคือ คุณหยง ธำรงค์ชัย เอกอมรวงศ์ มาฟังซ้ำจากท่านที่สอง คือ โคชโจ้ ภัคพงศ์ ตาตะนันทน์ แต่ฟังแล้วยังงงๆ อยากได้รายละเอียดเพิ่ม จึงไปซื้อหนังสือมาอ่าน และกำลังเริ่มลองตามวิธีนี้ดู
เหมือนที่มีผู้รู้หลายท่านบอกว่า การบริหารเงินเป็นสิ่งสำคัญถึงแม้ว่าถ้าคุณมีเงินมากแค่ไหน แต่ถ้าคุณไม่รู้จักบริหารเงิน มันก็ไม่สามารถงอกเงยได้และสุดท้ายมันก็หมดไปได้
โดยผู้เขียน ยกตัวอย่างให้ฟังเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจเขาบอกว่าถ้าคุณซื้อไอศกรีม 1 ลูกใส่โคนให้เด็กวัย 5 ขวบคนหนึ่ง พอเดินออกจากร้านเด็กคนนั้นก็ทำไอศกรีมหล่น เด็กน้อยร้องไห้ ขอซื้อไอศกรีมใหม่ หลังเข้าไปในรัาน เด็กน้อยเห็นภาพป้ายโฆษณาแล้วชี้บอกว่า หนูจะเอาอันนั้น ในภาพนั้นคือไอศกรีม 3 รูปใส่โคนคุณคิดว่าเด็กคนนั้นจะดูแลไอศกรีม 3 ลูกนี้ได้หรือไม่ เปรียบเสมือนเงินแม้กระทั่งเงินเล็กน้อยคุณยังดูแลไม่ได้ แล้วคุณจะบริหารเงินก้อนใหญ่กว่าได้อย่างไร 😯
ในเรื่องการบริหารเงิน เขาอธิบายไว้ดังนี้
ให้คุณแบ่งเงินออกเป็นส่วนๆ
ส่วนที่ 1 10% จากรายได้ทั้งหมดหลังหักภาษีให้คุณใส่ในบัญชีอิสรภาพทางการเงินและ**ห้าม**❌้นำเงินนี้ออกมาใช้เงินส่วนนี้จะใช้เพื่อใช้สำหรับการลงทุนเพื่อสร้างรายได้หรือสะสมไว้เวลาเกษียณเท่านั้น
📍เขาแนะนำเพิ่มเติม ให้มีกระปุกออมสินเอาไว้ใส่เงินทุกๆวัน สร้างนิสัยการเก็บเงิน เงินดึงดูด🔗เงิน วิธีนี้จะช่วยทำให้คุณรู้สึกว่าคุณมีกำลังใจเมื่อเห็นเงินมากขึ้นได้
ส่วนที่ 2 10% เป็นเปิดเป็นบัญชีเงินใช้เล่น ผู้เขียน ขอให้ความสำคัญในส่วนนี้ด้วย เขาบอกว่าถ้าคุณเอาแต่ออมอย่างเดียว ในที่สุดส่วนของจิตใจที่คุณต้องการความสนุก อาจทำให้คุณตบะแตก และใช้มากกว่าเดิม อารมณ์คล้ายคนพยายามอดของหวานหลายวัน สุดท้ายทนไม่ไหว😀
ในทางกลับกัน ถ้าคุณเอาแต่ใช้ จิตใจด้านดีของคุณ จะสร้างสถานการณ์ที่ทำให้คุณไม่มีความสุขกับข้าวของที่ซื้อมา คุณจะลงเอยด้วยความรู้สึกผิด ซึ่งยิ่งจะทำให้คุณใช้เงินมากขึ้นโดยไม่รู้ต้ว อารมณ์เหมือนคนเสพติดการ shopping จะเป็นวงจรอย่างนี้ไปเรื่อยๆ หนทางเดียวที่จะหยุดยั้งได้คือ คุณต้องเรียนรู้ที่จะใช้เงินอย่างเหมาะสม
#เพราะฉะนั้นการมีบัญชีอันเงินใช้เล่น😍 คุณจะต้องเอาออกมาใช้ทุกเดือน 😛มีเอาไว้เพื่อทำให้คุณรู้สึกมีความสุขและคุณรู้สึกร่ำรวย ฉะนั้นการที่เราได้ใช้เงินที่เราเก็บเอาไว้เพื่อความสุขส่วนตัว เพื่อให้เป็น🎁รางวัลชดเชยสำหรับความพยายามในการเก็บออม มันจะทำให้คุณรู้สึกมีความสุขในการเก็บเงินมากขึ้น และการบริหารเงินก็กลายเป็นเรื่องสนุกเช่นกัน
ส่วนที่ 3 10% บัญชีเงินออมระยะยาวเพื่อการใช้จ่าย
ส่วนที่ 4 10% บัญชีเพื่อการศึกษา
ส่วนที่ 5 50% ใส่บัญชีเพื่อการใช้จ่ายที่จำเป็น
ส่วนที่6 10% ใส่บัญชีเพื่อการให้เช่น การบริจาค
**ความเห็นส่วนตัว จากที่เคยฟัง การบริจาคเงินถึงแม้จะเล็กน้อย เป็นทริคอย่างหนึ่ง ทำให้เรารู้สึกว่าเรารวยขึ้น และเป็นการสร้างนิสัยการให้ " ยิ่งให้ยิ่งได้รับ"
ผู้เขียนบอกว่าประเด็นคือไม่ได้อยู่ที่ว่าเงินมากเงินน้อย คุณจะสามารถทำแบบนี้ได้ อยู่ที่ความตั้งใจและความมุ่งมั่นมากกว่า ผู้เขียนยกตัวอย่าง ผู้ที่เข้าร่วมสัมมนาชื่อเอ็มม่าซึ่งมี หนี้สินมาก เริ่มจากเงินน้อยโดยเริ่มจากการแบ่งเงิน 1 ดอลลาร์ ไปไว้ในบัญชีต่างๆในแต่ละเดือน จนสามารถเพิ่มจำนวนเงินขึ้น และ ในเวลาต่อมาเธอสามารถเก็บเงินได้ถึง 10,000 ดอลลาร์
T.harv Eker
การบริหารเงินจนกลายเป็นนิสัยย่อมมีความสำคัญกว่าจำนวนเงินที่เราบริหาร"
เขากล่าวว่า การบริหารเงิน ต้องการการฝึกให้เป็นนิสัย ในช่วงแรก คุณอาจจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากและน่าเบื่อ แต่ถ้าคุณ อดทนและฝึกทำไปเรื่อยๆ คุณ เริ่มเห็นความสำเร็จจากเงินในบัญชีที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คุณจะมีกำลังใจ และรู้สึกเป็นเรื่องสนุกที่จะทำมันต่อไป
เวลาเราอยากจะมีนิสัยใหม่ สิ่งที่เราต้องมีคือความมุ่งมั่นและเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อที่จะผลักดันตัวเราให้ทำต่อไปได้ จนกลายเป็นความสำเร็จ ที่เราปรารถนา
หนังสือเกี่ยวกับการจัดการเงินมีหลายเล่มในท้องตลาด แต่เล่มนี้เป็นหนึ่งในหนังสือที่ยังมีการแนะนำให้อ่านอยู่ ในแง่ของจิตวิทยาของคนที่มีต่อเงิน ก็น่าสนใจดี สำหรับเรื่องการบริหารเงินที่ฉันเอามาพูดถึงในตอนนี้ ฉันก็พึ่งได้เริ่มลองทำดู จึงยังไม่มีผลลัพธ์เล่าให้ฟังได้ แต่เท่าที่ดู คงจะต้องปรับอีกเล็กน้อยให้เข้ากับตัวเราด้วย และฉันขอปิดท้ายด้วยคำพูดที่เราชอบ ของ T.harv Eker
"ถ้าคุณไม่รู้จักควบคุมเงินของคุณ เงินจะควบคุมคุณ"
🌸เนื้อหาโดยย่อของหนังสือ🌸
หนังสือขายดีเล่มนี้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในสหรัฐอเมริกา "T. Harv Eker" เผยความลับที่ว่า ในสมองของเราจะมี "แผนผังการเงิน" ซึ่งเป็นที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องเงินทองและความสำเร็จ โดยข้อมูลเหล่านี้ถูกฝังอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของจิตใต้สำนึก และยังเป็นตัวกำหนดวิธีการหาเงิน ใช้เงิน และเก็บเงินของเราโดยไม่รู้ตัว ทำให้คุณรู้จักวิธีวิเคราะห์และปรับเปลี่ยนแผนผังการเงินในหัวของคุณเพื่อช่วยให้คุณหาเงินและเก็บเงินได้มากขึ้น รวมทั้งใช้จ่ายเงินได้อย่างเหมาะสม
ซึ่งวิธีการทั้งหมดนี้ได้ช่วยให้เขาเปลี่ยนจากคนที่เคยถังแตกมาเป็นเศรษฐีร้อยล้านได้ในเวลาแค่สองปีครึ่ง"
** ขอบคุณข้อมูลจากSE-ED**
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
