28 ต.ค. 2022 เวลา 00:00 • นิยาย เรื่องสั้น
[เรื่องเกือบส่วนตัว ตอน 13]
ครัวบ้านเลขที่ 113
ครัวบ้านเลขที่ 113 ประกอบด้วยเตา ลังใส่ถ่าน โอ่งข้าวสาร ไม่มีตู้เย็น มีแต่ตู้กับข้าว
1
ตู้กับข้าวเป็นตู้ไม้สำเร็จรูป ในยุคนั้นมีดีไซน์แบบเดียว เป็นตู้สองชั้นพร้อมบานเปิด ชั้นบนวางอาหารและเครื่องปรุง ชั้นล่างเป็นตะแกรงวางจาน ชั้นบนบุด้วยตะแกรงหรือมุ้งลวด มีสี่ขาสูงจากพื้นราวหนึ่งศอก ชาวบ้านมักรองขาทั้งสี่ด้วยถ้วยน้ำเพื่อกันมดแมลงที่ไม่ได้รับเชิญ
1
มันเป็นดีไซน์ยอดฮิต มีทุกบ้าน
เนื่องจากไม่มีตู้เย็น จึงไม่เก็บเนื้อสดปลาสดไว้ข้ามคืน คนสมัยก่อนจึงกินอาหารสด ทำอาหารกินวันต่อวัน ไม่ค่อยข้ามคืน ยกเว้นเป็นอาหารพวกที่เก็บนานได้
1
ครัวเชยๆ แบบนี้แหละเป็นท้องของบ้าน
1
ผมไม่รู้ว่าแม่ไปเรียนวิชาการครัวจากใคร คาดว่าเรียนแบบครูพักลักจำกันมา หลายจานเป็นสูตรของชาวจีนแถบปีนัง เพราะครั้งที่อยู่สิงคโปร์ ผมเคยกินอาหารสูตรปีนัง พบว่าคล้ายกับที่แม่ทำมาก
1
อาหารที่แม่ทำมีทั้งแบบง่ายมากไปจนแบบซับซ้อน ซึ่งมักทำในโอกาสพิเศษ เช่น ตรุษจีน หรือในโอกาสที่ลูกกลับมาเยี่ยมพ่อแม่
1
เมนูแบบง่าย เช่น ข้าวไข่น้ำมัน นำข้าวสวยร้อนๆ มา ตอกไข่ ใส่น้ำมันหมูที่เจียวเอง คลุกเคล้ากัน ก็กินได้เลย น้ำมันหมูมีกลิ่นหอม ทำให้อาหารจานง่ายๆ นี้อร่อยเลิศรสแม้ไร้ดาวจากมิชลิน
1
อีกเมนูที่ผมชอบมากคือไข่เหล้า ตอกไข่ลงกระทะ เจียวจนใกล้สุก ก็เทเหล้าจีนลงไป ปิดฝาครอบสักครู่ กลิ่นหอมของไข่และเหล้าโชยออกมา ง่ายๆ แต่อร่อยเหลือประมาณ
1
เหล้าจีนนี้ทำเอง
1
สมัยนั้นแต่ละบ้านทำอาหารแทบครบทุกขั้นตอน แม้แต่เหล้าหมักที่ใช้ข้าวเหนียว ต้องแอบทำเพราะวันดีคืนดี อาจมีตำรวจมาจับ ข้อหาทำเหล้าเถื่อน
1
เมนูที่ยากขึ้นมาหน่อย เช่น ขาหมู เต้าหู้ป๊อก ลูกชิ้น ฯลฯ
ส่วนแบบซับซ้อน เช่น ปลิงทะเลตุ๋น เค้วหยกหรือหั่มช้อยกอน เป็นต้น
1
ขาหมูสูตรที่แม่ผมทำต่างจากขาหมูที่เราเห็นตามร้านข้าวขาหมูทั่วไป เพราะมันเป็นสูตรแห้ง แม่จะใช้ขาหมูส่วนหน้า “เพราะอร่อยกว่าส่วนหลัง” ผมก็ไม่รู้ทำไม เพราะลิ้นผมแยกไม่ออก
มีอยู่ปีหนึ่งตอนที่ใช้ชีวิตในเมืองนอก ผมขอให้น้องชายจดสูตรอาหารจากแม่ ก็จดมาได้ราวสิบรายการ มันเป็นหลักฐานชิ้นเดียวที่หลงเหลืออยู่
ผมถ่ายทอดข้อมูลอาหารหลายจานนี้ในเรื่องสั้นขนาดยาว รักกันหนึ่งร้อยปี
1
ครัวบ้านเลขที่ 113 ประกอบด้วยเตา ลังใส่ถ่าน โอ่งข้าวสาร ไม่ซับซ้อน แต่อร่อยทุกเมนู
วันนี้ขอเสนอขาหมูสูตรแคะ
2
วิธีทำเริ่มที่ล้างขาหมูจนสะอาด ใช้มีดขูดขนออกให้หมด นำไปผัดในกระทะ โดยใส่น้ำมันเพียงเล็กน้อย ผัดขาหมูให้ทั่วจนดูเหลืองพอประมาณ ก็ใส่เต้าเจี้ยวลงไปคลุก
1
หลังจากผัดอีกสองสามนาทีก็เอาขึ้นมาใส่ลงหม้อ ทุบกระเทียมหลายหัวให้พอแตกใส่ลงไป ตามด้วยพริกชี้ฟ้าแห้ง เหยาะซีอิ๊วขาวและซีอิ๊วดำเล็กน้อย เติมน้ำตาลประมาณหนึ่งช้อนโต๊ะ เทน้ำลงไปให้ปริ่มขาหมู ต้มด้วยไฟอ่อน เคี่ยวราวสองชั่วโมงจนน้ำงวดเกือบแห้ง หลังจากนั้นก็บีบมะนาวลงไป เป็นอันเสร็จ
2
ผมเคยบอกสูตรนี้ให้คนอื่นไปทำ ปรากฏว่าติดใจกันเป็นแถว แม้แต่ฝรั่งที่กินก็บอกว่ามันแซบอีหลีดิลิเฌียสจริงๆ โดยเฉพาะถ้ากินคู่กับเหล้าฝรั่งดีๆ สักเป๊ก
เมนูถัดมามีชื่อเรียกว่า เต้าหู้ป๊อก ไม่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับไพ่ป๊อก
1
เต้าหู้ป๊อกก็คือเต้าหู้ยัดไส้
ไส้ที่นำมายัดในเต้าหู้เป็นหมูสับผสมปลาอินทรี
1
วิธีทำ : สับหมูรวมกับปลาอินทรี อัตราส่วนปลาอินทรี : หมู ประมาณ 1 : 4 ใส่เกลือ แป้งมัน ขยำให้เข้ากัน ก็ได้ไส้เรียบร้อย
1
เอ๊ะ! ง่ายกว่าที่คิด!
ยัดไส้นี้ใส่ก้อนเต้าหู้ อย่าใช้มีดผ่าก้อนเต้าหู้ แต่ใช้ตะเกียบหนีบก้อนเต้าหู้จนขาดจากกัน เหตุผลเพราะคมมีดทำให้เต้าหู้เรียบ ไส้เกาะไม่แน่น แต่รอยยุ่ยจากการใช้ตะเกียบหนีบขาดทำให้มีความฝืด ไส้เกาะกับเต้าหู้แน่นกว่า
3
ขั้นต่อไปก็ทำน้ำแกง ต้มน้ำกระดูกหมูกับถั่วเหลืองด้วยไฟอ่อนๆ จนกระดูกหมูเปื่อยนุ่ม
ตั้งกระทะ วางเต้าหู้ยัดไส้บนกระทะ เทน้ำซุปกระดูกหมูลงในกระทะ ปิดฝาครอบไว้จนน้ำในกระทะงวดเหลือพอประมาณ ก็กินได้
ทำเต้าหู้ป๊อกแล้ว ก็สมควรตามด้วยลูกชิ้นปลา
1
แม่ผมทำลูกชิ้นปลาเอง ไม่เคยซื้อแบบสำเร็จ อร่อยทุกลูก เพราะทำด้วยมือ
1
สูตรลูกชิ้นปลา
ใช้ปลาอินทรี 1 กิโล ฝานตามแนวกระดูกเป็นแผ่นๆ ส่วนที่ติดกับกระดูก ใช้ช้อนขูดเนื้อปลาออกมาให้หมด ทิ้งหนังปลาไป
1
ใส่เกลือประมาณครึ่งช้อน สับเนื้อปลาจนเป็นฝอย
ใส่แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะในถ้วย เทน้ำตาม ทิ้งไว้สักครู่จนแป้งมันตกตะกอน เทน้ำที่หลังจากแป้งตกตะกอนทิ้ง
1
คลุกแป้งมันเข้ากับเนื้อปลา ขยำรวมกัน แล้วปั้นเป็นก้อน...
ช้าก่อน ก่อนปั้นต้องนวดเนื้อปลากับหมูสับให้เข้ากันเป็นหนึ่งเดียว หนึ่งเดียวแปลว่าโมเลกุลของปลากับหมูต้องทำปฏิกิริยาในระดับอะตอม ผสานเป็นหนึ่งเดียว เราอาจบัญญัติศัพท์ใหม่ว่า ปลมู
2
ก็คือปลา+หมูที่แยกจากกันมิได้
1
ขั้นตอนการนวดทุบและทุบนวดนี้อาจจะกินเวลาเป็นชั่วโมง ยิ่งทุบยิ่งอร่อย
แล้วเมื่อนั้นจึงปั้นได้
ปั้นเป็นก้อนโดยใช้อุ้งมือ ใช้เพียงนิ้วทั้งสี่ ไม่ใช้หัวแม่มือ บีบเป็นลูกออกมา ใช้หัวแม่มือปาดลูกชิ้นเป็นลูก
นำลูกชิ้นไปนึ่งราว 10 นาที ตะแกรงที่ใช้นึ่งควรอยู่สูงจากผิวน้ำมากพอสมควร เพื่อไม่ให้ลูกชิ้นจมน้ำ
1
เมื่อพูดถึงลูกชิ้นปลา ก็จำต้องว่าถึงลูกชิ้นหมู
วิธีทำไม่ยาก นำหมูติดมัน 1 กิโลมาหั่นเป็นชิ้นๆ สับพอประมาณ อย่าให้ละเอียดนัก
นำหัวผักกาดขาว 2 หัว (หลักคือหมู 1 กิโลใช้หัวผักกาด 2 หัว) ไม่ต้องขูดเปลือก เพียงแต่ล้างให้สะอาด นำไปต้มกับน้ำธรรมดา 5 นาที แล้วเอามาสับให้ละเอียด คั้นน้ำออกจนแห้ง เอาไปรวมกับหมูที่สับเตรียมไว้
1
นำปลาหมึกแห้งแผ่นมาหั่นเป็นฝอย เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ หั่นตามยาวก่อน แล้วค่อยหั่นตามขวาง ใส่ปลาหมึกแห้งหั่นลงไปหมูสับ ถ้าไม่มีปลาหมึก ใช้กุ้งแห้งแทนได้
2
สับหัวหอมแดงขนาดเล็กให้ละเอียด ใส่ลงไป
เติมเครื่องปรุงประกอบด้วยเกลือ แป้งมัน 5 หยิบมือ ขยำให้เข้ากัน แล้วปั้นเป็นลูก เอาไปนึ่งหรือทอดแล้วแต่ชอบ
1
อาหารหลายจานอร่อยขึ้นด้วยน้ำจิ้ม น้ำจิ้มที่แม่ทำซึ่งผมชอบมากคือน้ำจิ้มโหระพา
สูตรน้ำจิ้มโหระพาของแม่ผมทำง่ายมาก ดังนี้
นำพริก กระเทียม โหระพามารวมกัน สับให้ละเอียด แต่ไม่ตำ บีบน้ำมะนาวลงไป ใส่น้ำตาล เกลือนิดหน่อย คลุกเข้าด้วยกัน ก็เสร็จ ใช้กินกับอาหารทุกอย่าง
1
ครัวบ้านเลขที่ 113 ประกอบด้วยเตา ลังใส่ถ่าน โอ่งข้าวสาร ไม่มีตู้เย็น มีแต่ตู้กับข้าว
และบรรจุความอบอุ่นไว้เต็มตู้
1
(ยังมีต่อ)
โฆษณา