25 ต.ค. 2022 เวลา 10:34 • นิยาย เรื่องสั้น
[เชียงใหม่ในฉากชีวิต] : 8.เหล้า เรื่องเล่า
ตั้งแต่จำความได้ การอ่านคือสิ่งที่ห่างไกลจากความรับรู้ของผมมาก หนังสือที่มีอยู่ที่บ้านทำหน้าที่เป็นของประดับชั้นวางที่นาน ๆ ทีจะเอาออกมาทำความสะอาด แล้วเก็บกลับที่เดิม การอ่านประเภทเดียวที่ผมรู้จัก คือการอ่านหนังสือเรียน ประเภทที่แม่ต้องเอาไม้แขวนเสื้อหวดก้นขณะทำหน้าโกรธเคืองคิ้วขมวดเป็นยักษ์มาร เพราะเข้าใจว่าผมดูการ์ตูนนานเกินไป ทั้งที่ในความเป็นจริง เรื่องที่อยากดูมันยังไม่มาถึง แต่จำเป็นต้องเปิดทิ้งไว้ไม่งั้นแม่จะดูละครจนถึงจุดไคลแม็กซ์ของตอนโดยไม่ยอมให้ใครก็ตามเปลี่ยนช่องไปไหนทั้งนั้น
ผมจึงจำเป็นต้องนั่งท่องชื่อสารเคมีส่วนประกอบของผงซักฟอก แทนที่จะได้นั่งดูเกมกลคนอัจฉริยะ
ถึงกระนั้น ชีวิตผมก็ล้อมรายด้วยเรื่องเล่า โดยเฉพาะความวายป่วงของชีวิตพ่อในรั้วมหาวิทยาลัย ตั้งแต่การจีบสาวคนแล้วคนเล่าระหว่างทำค่ายอาสา การเจอคนเสพยาบ้าตรงดาดฟ้าหอพัก ไปจนถึงประสบการณ์การ “เมา” สารพัดรูปแบบทั้งดูดอุร้อยไห เพิงยาดองข้างทาง เหล้าต้มชาวบ้านในค่าย ในงานบวช งานแต่ง หรืองานอื่น ๆ อีกสารพัดที่จะจินตนาการกันถึง ที่ไม่ว่าจะกินสูตรไหน ผสมแบบใด ในสถานที่ใด ผลสุดท้ายคือหลับยันเช้าของอีกวันอยู่ดี
ท่ามกลางชีวิตที่ห่างไกลจากการอ่าน หนังสือเล่มเดียวที่พ่อยอมรับว่าเคยอ่าน และส่งอิทธิพลต่อเรื่องเล่าของพ่อคือ “พันธุ์หมาบ้า”* ไม่ใช่ในแง่กลวิธีทางภาษา แต่เป็นวิธีการใช้ชีวิต มิตรภาพ และการเติบโต หนังสือที่ในเวลาต่อมาผมเองก็ยึดเอาเป็นคัมภีร์ชีวิตไม่ต่างจากที่พ่อเคยทำ ห้วงหนึ่งของชีวิต ผู้คนจึงจะสามารถพบผมได้บนรถตู้กอล์ฟวิวในสภาพขอบตาคล้ำลึก เจือกลิ่นจาง ๆ ด้วยแอลกอฮอล์ ควันบุหรี่ราคาถูก และกลิ่นอื่น ๆ ตามแต่จะสามารถหาได้
แม้ความเมามายจะเป็นเรื่องสนุกสนาน แต่ความที่ผมถือคติการกินเหล้าเช่นเดียวกับโกวเล้ง** การนั่งดื่มเดียวดายท่ามกลางแสงจันทร์*** จึงไม่ใช่สิ่งที่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย ดังนั้นแม้เชียงใหม่จะมีร้านเหล้ามากมายเชื้อเชิญผมชิมรส แต่ผมก็ชอบกินเหล้าที่ลำพูนเสียมากกว่า
เพราะบทสนทนากับมิตรสหาย ทำให้สุราอร่อยขึ้นเป็นไหน ๆ
แม้ว่าจะออกจากพื้นที่มานาน แต่ผมก็ยังจำความรู้สึกของลมหนาวที่นี่ได้ดี หนาวชนิดที่ไม่พบในพื้นที่ไหนอีกในประเทศ และถ้าคุณยอมตื่นเช้าเสียสักหน่อยในเวลานั้น ภาพที่ได้ก็จะเป็นเช่นนี้ (ธันวาคม,2022)
หลังฝนสุดท้ายปลายเดือนตุลา ลมหนาวอพยพตัวเองหนีความร้อนมาปกแผ่หุบเขาทางตอนเหนือของประเทศไทย ส่งผลให้อุณหภูมิโดยรวมลดลงสวนทางกับความวุ่นวายใจบางประการที่มีแต่จะสูงขึ้น ๆ ผมผ่านเทอมแรกไปได้อย่างทุลักทุเล คำถามมากมายวิ่งวนในใจจนเหนื่อยหอบจนเหงื่อไคลไหลย้อยทางสายตาของผมอยู่เนือง ๆ แสงอาทิตย์รำไรยามเย็นกับความเปล่าเปลี่ยวจึงเป็นเพื่อนกินข้าวเพียงคนเดียวที่ผมรู้จัก แต่ไม่อาจจะเป็นสหายสุราได้อย่างสมบูรณ์
ในมุมมองของคนอยู่อาศัย เมืองนี้ก็เช่นเดียวกับเมืองเมืองอื่นในประเทศที่มีปัญหาเฉพาะตัวของตัวเอง ผมเบื่อรถติด ความวุ่นวาย และการแก่งแย่งกันแบบที่คนกรุงเทพฯเป็น
ผมจึงค่อนข้างจะออกอาการเซ็งเชียงใหม่เองก็ไม่ต่างกับกรุงเทพฯเท่าไหร่ ที่สำคัญคืออาการเศร้าที่เชียงใหม่ในความคิดกับความเป็นจริงนั้นแตกต่างกัน ภาพคูเมืองที่สวยงามในเทศกาลต่าง ๆ กับภาพคูเมืองที่มีใครบางคนกำลังห่อตัวด้วยเสื้อผ้าเก่า ๆ เท่าที่หาได้กำลังนอนหราบนม้านั่งหิน มีฟ้าเป็นมุ้ง มียุง แมลงสาบ และหนูเป็นเพื่อนกินข้าว และต้องเปลี่ยนที่นอนไปไม่เว้นวันมันช่างต่างกันโดยสิ้นเชิง แน่นอน มันดูไม่ค่อยจะดึงดูดให้ท่องเที่ยวเลยสักเท่าไรนัก
ความสนใจแนวคิดนามธรรมต่าง ๆ ที่พยายามจะอธิบาย และแก้ปัญหาทางสังคมตั้งแต่สมัยปริญญาตรีทำให้ผมสลดใจกับหลายปัญหา การกระจายอำนาจคือสิ่งจำเป็น ความต้องการของคนในพื้นที่คือสิ่งที่ต้องรับฟัง และร่วมมือร่วมใจกันเพื่อการออกแบบนโยบาย ทำให้เมืองเป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน แต่ในยุคที่สถานการณ์บ้านเมืองแย่ลงทุกวัน ๆ แม้ว่าประชาชนจะแสดงพลังมากแค่ไหน เสียงของพวกเราก็ดูจะไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ สิ่งเหล่านี้รบกวนจิตใจของผมมากเสียจนแทบจะสิ้นล้มประดาตาย ไม่เป็นอันทำการทำงานในแต่ละวัน
บทกวี และสุราคือยาบรรเทาอาการ เหมือนสถานการณ์ของฝ่ายปฏิวัติในรัสเซียก่อนการมีบทบาทของเลนินและพรรคบอลเชวิก
สองสามเดือนหลังความวุ่นวาย สบโอกาสที่มิตรสหายท่านหนึ่งจะขึ้นมาเที่ยวเชียงใหม่ด้วยภาระทางบ้าน ผมออกจากหอไปรับเพื่อนที่ห้างสรรพสินค้าตรงสี่แยกรินคำ แม้จะไม่ได้เจอกันเสียเนิ่นนาน แต่การทักทาย และการพูดการจาก็ดึงเอาบรรยากาศเก่า ๆ สมัยปริญญาตรีกลับมาได้ จนเหมือนว่าพวกเราเปิดประตูมิติข้ามกลับไปอยู่ที่ทุ่งรังสิตยังไงอย่างงั้น
อ่อ นั่นหมายถึงการวิจารณ์สิ่งต่าง ๆ อย่างที่พวกเราเคยทำด้วย
“เชี่ย!! กูไม่น่าคุยกับมึงเรื่องเชียงใหม่เยอะเลย ภาพเชียงใหม่ที่สวยงามของกูแม่งหายไปหมด” เขาพูดขึ้นขณะเรากำลังนั่งจับเจ่าบนสภาพการจราจรของแยกรินคำที่ไม่ขยับเลยประมาณ 10 นาที และปล่อยให้ไฟเขียวผ่านหน้าเราไปประมาณ 5 ครั้ง นอกจากการนั่งมองป้าคนนึงเดินคลุมตัวมิดชิดเอาพวงมาลัย กับใบกระท่อมถุงละ 50 บาทมาขาย การวิจารณ์ส่งเดชก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยฆ่าเวลาได้อย่างดี
ตกค่ำคืนนั้นเราเบิ่งรถไปริมแม่น้ำปิง หาร้านอาหารบรรยากาศดี ๆ แล้วก็นั่งดื่มเบียร์เย็น ๆ ผมยอมรับว่าสายลมเอื่อย ๆ ของเดือนธันวากับการตะโกนแข่งกับเสียงนักดนตรีช่วยเติมเต็มความโหว่งว่างบางประการ และทำให้ความสับสนวุ่นวายบรรเทาลงได้จริง ๆ
สุราจึงอาจจะไม่ได้ช่วยให้หายเศร้าได้ดีเท่ากับเสียงหัวเราะ
ฝั่งตรงข้ามห้วงน้ำปิงนั้นเอง คือที่ ๆ เรานั่งกินกันในคืนนั้น พื้นที่ริมน้ำปิงเองก็มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สำคัญกับเมือง และตัวผมเอง ภาพนี้ถ่ายตรงข้ามพื้นที่กาดหวง (มีนาคม,2022)
เรานั่งกินกันอยู่ค่อนคืนจนร้านปิด ค่อยซื้อเบียร์ครึ่งลังมานั่งกินต่อริมแม่น้ำปิง ผู้คนคืนนี้พลุกพล่านเป็นพิเศษ อาจจะเพราะอากาศเย็น ๆ ผู้คนจึงอยากออกมาใช้ชีวิตหลังจากที่เก็บกดจากมาตรการ Lock Down มานาน บ้างกำลังหย่อนเบ็ดตกปลา บ้างก็กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานด้วยความกรึ่มบรรยากาศและเบียร์จากเซเว่น เรานั่งคุยกันต่อเรื่องสถานการณ์ที่รังสิต เกี่ยวกับรุ่นน้องที่ป่วยจนเข้าโรงพยาบาล ขณะเรากำลังเมาบทสนทนาเต็มที่ ผมได้ยินเสียงน้ำไหลมาจากด้านหลัง
ทันใดนั้นจึงเหลือบไปเห็นชายหัวฟูท่าทางซ่อมซ่อคนหนึ่งกำลังปลดปล่อยความบีบรัดของกระเพาะปัสสาวะอย่างสบายอารมณ์ลงในแม่น้ำ ก่อนจะกลับลงไปนอนใต้สะพาน ข้าง ๆ ที่นั่งที่เรากำลังนั่งดื่มเบียร์กัน หลักฐานยังปรากฏให้เห็นชัดเจนเป็นฟองฟอด เราสองคนมองหน้ากันก็ละจากเบียร์ขวดตรงหน้าทันทีด้วยความรู้สึกเซ็ง หมดอารมณ์ โดยเห็นพ้องต้องกันว่าเก็บไว้กินต่อวันอื่นดีกว่า เพราะหน้าตาของหลักฐานช่างละม้ายคล้ายกับเบียร์ตรงหน้าเหลือเกิน
แม้ว่าการมาอยู่ที่นี่จะทำให้ง่อมเหงาอยู่บ้าง อย่างน้อยมันก็ทำให้ความคิดถึงมีคุณค่าขึ้นมาในทันใด เรื่องราวในตอนนั้นทำให้ผมมีโปรเจกต์ลับ ๆ ที่จะเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์วายป่วงต่าง ๆ นานาที่เชียงใหม่ เผื่อโอกาสมาถึงจะได้แจ้งเกิดในฐานะนักเขียนกับเขาได้สักที
แล้วก็...จะได้เล่าเรื่องเหล้าของตัวเองให้พ่อฟังบ้าง
* พันธุ์หมาบ้า หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเล่มเดี๋ยวที่เคยได้ยินพ่อพูดถึงตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ก็ไม่เคยได้นั่งลงอ่านมันเสียที แต่หลังรับรู้ถึงความสุดยอดของ “ชาติ กอบจิตติ” ในการสร้างโศกนาฏกรรมของ “ไอ้ฟัก” เลยไปคว้าพันธุ์หมาบ้ามาอ่านตอนอยู่ปีสาม ด้วยความคาดหวังแบบเดียวกัน แต่มันไม่มีอะไรแบบที่ “คำพิพากษา” มีเลย มีแต่ “ไอ้กล้วย” ทั้งเรื่อง และแน่นอนว่าหลังอ่านจบจากที่เคยสนใจใฝ่เรียนกลายเป็นสัมมะเลเทเมา ไม่ใส่ใจเรียนเป็นจริงเป็นจังอีก
** โกวเล้ง นักเขียนผู้สร้างตำนาน “มีดบินไม่เคยพลาดเป้า” บุรุษผู้ถูกกล่าวขานว่าเป็น “ปีศาจสุรา” งานของเขาลุ่มลึกด้วยมิตรภาพ และการออกสำรวจความขัดแย้งบางประการในจิตใจของตัวละคร และประโยคดังที่ถูกอ้างถึงอยู่บ่อย ๆ ว่าไม่ได้ชอบการดื่มสุราโดยตัวมันเอง แต่ “ชอบบรรยากาศของการได้ร่ำเมรัย”
*** ท่อนหนึ่งจากเพลง “ความรัก ตู้ปลา และสุราหนึ่งป้าน” ของ “บอย imagine” ศิลปินโฟล์คชื่อดังอีกท่านของเชียงใหม่ที่ผมชื่นชอบ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา