6 พ.ย. 2022 เวลา 12:30 • การศึกษา
คุณรู้หรือไม่ว่าหนังสือเล่มนี้ถูกตีพิมพ์ไปแล้วกว่า 1.2 ล้าน เล่มแต่ทว่าถูกแบนในเรือนจำหลายที่ในสหรัฐอเมริกา
1
หนังสือเล่มนี้ก็คือ………
The 48 laws of power(กฎ 48ข้อ สำหรับการมีอำนาจ) ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1998 เขียนโดย โรเบิร์ต กรีน หนังสือเล่มนี้ถูกรายงานว่าเป็นหนังสือที่ต้องการมากที่สุดในห้องสมุดของเรือนจำในสหรัฐอเมริกา
และหนังสือเล่มนี้ยังถูกกล่าวถึงมากมายโดยทั้งแร็พเปอร์ดีเจ มีการกล่าวถึงตัวหนังสือเล่มนี้ในเนื้อเพลงของแร็พเปอร์ต่างๆเช่น Drake, Jay Z, Kanye West ฯลฯ
มีดีเจดีเจที่โด่งดังได้นำเอากฎในหนังสือมาสักเป็นรอยสักที่ตัวเช่น DJ Calvin Harris ซึ่งได้สักกฎข้อที่ 28 “Enter with boldness” ไว้ที่แขนของเขา
หรือแม้แต่ ดัฟ ชาร์นีย อดีตCEO และผู้ก่อตั้ง American apparelมักจะนำกฎที่อยู่ในหนังสือนำมาพูดถึงบ่อยๆในการประชุมบอร์ดรวมถึงได้ให้หนังสือเล่มนี้ให้กับเพื่อนๆและพนักงานของเค้ามากมายและยังเคยนัดผู้เขียนเข้ามาที่บอร์ดของAmerican Apparel
แต่ถึงกระนั้นหนังสือเล่มนี้ก็ยังถูกแบนจากเรือนจำในสหรัฐอเมริกาในหลายที่เนื่องจากหนังสือเล่มนี้มีความสามารถที่จะทำให้คนที่มีความรู้จากหนังสือเล่มนี้สามารถนำไปใช้ในทางที่ไม่ดีได้ต่อตัวผู้คุมและผู้ต้องขังคนอื่นๆซึ่งหนังสือเล่มนี้ยังได้ถูกนิยามว่าเป็นหนังสือที่ชั่วร้ายเพราะสามารถนำมาใช้ในการบงการคนได้
1
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเรือนจำที่รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา,คริสตี้ เจนเซ่น ผู้ที่เป็นบรรณารักษ์ของที่นี่ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่าการที่หนังสือเล่มนี้ถูกแบนเกิดจากมาตรการทางความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่เรือนจำซึ่งกลัวว่าหนังสือเล่มนี้จะทำให้ผู้ต้องขังนำไปใช้ในการควบคุมคนและทำให้คนคนนั้นทำตามที่ต้องการ
โดยผมจะมาแชร์กฎสามข้อที่ผมคิดว่าน่าสนใจและชื่นชอบให้ผู้อ่าน
1.กฎข้อที่ 13 เมื่อขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น ทำให้คำขอของคุณดูน่าดึงดูดและให้ผลประโยชน์ต่อผู้ที่คุณขอไม่ใช่ขอความช่วยเหลือต่อผู้ที่คุณขอด้วยความเมตตาหรือความรู้คุณ (When asking for help ,appeal to peoples self-interest, never to their mercy or
gratitude)
ถ้าเราต้องการความช่วยเหลือจากมิตรสหาย อย่าไปรบกวนเลยที่จะไปเตือนเขาถึงการช่วยเหลือในอดีตที่คุณเคยช่วยไว้หรือการกระทำที่ดีที่คุณเคยมีต่อกันถ้าเกิดทำอย่างนั้น เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงคุณแต่ถ้าเกิดว่าคุณได้เปิดเผยบางสิ่งที่คุณจะขอให้ช่วยไปหรือสิ่งที่จะช่วยเหลือในตัวเขาและเกี่ยวพันต่อเขา ซึ่งส่งผลประโยชน์ต่อตัวเขาเอง และเราจะต้องเน้นตรงส่วนนี้เหนือสิ่งอื่นใดจึงจะทำให้เขาตอบมาอย่างกระตือรือร้นเมื่อเขารู้ว่าสิ่งนี้จะทำให้เขาได้รับบางอย่างสำหรับตัวเขา
2.กฎข้อที่ 16ใช้การไม่อยู่ของคุณเพื่อเพิ่มความเคารพและเกียรติ (use absence to increase respect and honor)
เมื่อมีของสิ่งใดอยู่ในตลาดมากเท่าไหร่ของสิ่งนั้นก็ยิ่งราคาถูกลง ยิ่งคุณถูกเห็นถูกได้ยินมากเท่าไหร่มันก็ทำให้คุณยิ่งดูธรรมดามากเท่านั้นเมื่อคนอื่นได้เห็นคุณ ถ้าเกิดว่าคุณได้อยู่ในกลุ่มกลุ่มนั้นมาสักพักนึงแล้วให้ลองปลีกตัวออกจากกลุ่มกลุ่มนั้นอย่างชั่วคราวเมื่อคุณทำอย่างนั้นจะยิ่งทำให้คุณถูกพูดถึงหรือแม้กระทั่งทำให้คุณถูกชื่นชมมากยิ่งขึ้น คุณควรที่จะเรียนรู้เมื่อถึงเวลาที่ควรจะออกมาและสร้างคุณค่าให้ตัวคุณจากความขาดแคลน(การที่ตัวคุณขาดหาย) ณ จุดนั้น
3.กฎข้อที่ 30 ทำให้ความสำเร็จของคุณดูเหมือนไม่ต้องพยายาม(Make your accomplishment seem effortless )
การกระทำของคุณต้องดูเป็นธรรมชาติและคุณทำมันออกมาได้ด้วยความสบาย ความยากลำบากในการทำงานอย่างหนักในการฝึกซ้อมรวมถึงเทคนิคที่เจ๋งๆที่คุณมีคุณจำเป็นต้องปกปิดมันไว้ เมื่อคุณทำอะไรบางอย่างให้ทำเหมือนคุณไม่ได้พยายามเลยเหมือนกับว่าคุณสามารถทำมันได้มากกว่านี้ พยายามที่จะหลีกเลี่ยงความอยากของคุณในการเปิดเผยว่าสิ่งที่คุณทำมันยากแค่ไหนเพราะว่ามันจะยิ่งทำให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวคุณมากยิ่งขึ้นและอย่าได้สอนใครเกี่ยวกับเทคนิคหรือสิ่งที่คุณมีไม่งั้นสิ่งที่คุณสอนนี่แหละจะถูกนำมาใช้ใส่คุณ
1
.
.
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าบางครั้งอาวุธที่อันตรายไม่จำเป็นจะต้องเป็นอาวุธที่เรามองเห็นเเละจับต้องได้แต่อาวุธที่อันตรายก็สามารถเป็นอาวุธที่มองไม่เห็นได้เช่นกันซึ่งก็คือ ‘‘ความรู้’’
References
โฆษณา