#ดร.เปปเปอร์ ผู้ประดิษฐ์เครื่องดื่มน้ำอัดลมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
ในปี 1885 เมืองวาโก รัฐเท็กซัส เภสัชกรอายุน้อย ชื่อ Charles Alderton ได้คิดค้นเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมชนิดใหม่ขึ้น ซึ่งในไม่ช้าก็จะกลายเป็นที่รู้จักในชื่อ " Dr.Pepper" เครื่องดื่มอัดลมถูกวางตลาดว่ามีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
น้ำหวานโซดา
Charles Alderton หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ Dr.Pepper เป็น “ชาวเท็กซัสพื้นเมือง” เขาเริ่มต้นธุรกิจแรกด้วยการเปิดร้านขายยา “Old Corner Drug Store” ก่อนที่จะสร้างแสร้งแบรนด์น้ำอัดลมที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในอเมริกา เช่นเดียวกับรสชาติ ต้นกำเนิดของ Dr.Pepper นั้นไม่ธรรมดา
ณ เวลานั้น Charles Alderton เภสัชกรหนุ่มที่ทำงานในร้านของ Morrison เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการผสมยาเพื่อรักษาโรคต่าง ๆ ให้ชาว Waco ส่วนในเวลาว่าง Alderton ชอบไปนั่งดื่มน้ำหวานผสมโซดา ซึ่งกลิ่นที่เขาชอบคือกลิ่นในร้านขายยาของเขา เพราะกลิ่นในร้านเป็นกลิ่นของไซรัปผลไม้และเมื่อได้กลิ่นก็ชวนให้เขารู้สึกอารมณ์ดี
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงตัดสินใจคิดทำเครื่องดื่มที่มีรสชาติเหมือนกลิ่นในร้าน เขาจดบันทึกประจำวัน และเริ่มทำการทดลองเพื่อสร้างน้ำหวานชนิดใหม่อย่างจริงจัง หลังจากการทดลองหลายครั้งผ่านไป ในที่สุดเขาก็ได้ส่วนผสมของน้ำเชื่อมผลไม้ที่เขาชอบ
Charles C. Alderton, the originator of Dr Pepper
ในตอนแรก Alderton ได้นำน้ำเชื่อมของเขาไปให้เจ้าของร้านยา Morrison ได้ชิม ซึ่งเขาก็ชอบเป็นอย่างมากเขาจึงคิดจะร่วมลงทุนด้วย หลังจากการทดสอบตัวอย่างซ้ำหลายครั้งเพื่อความแม่นยำจบลง
Alderton ก็พร้อมที่จะเสนอขายเครื่องดื่มใหม่นี้ให้กับลูกค้าบางส่วนได้ลิ้มลอง หลังจากขายไปได้ระยะหนึ่งลูกค้าก็ต่างติดใจไปตาม ๆ กัน ในไม่ช้าก็รู้เรื่องเครื่องดื่มใหม่ของ Alderton ก็เริ่มได้รับความนิยมและได้ลงโฆษณาผ่าน "Waco" หลังจากนั้น Alderton จึงตั้งชื่อเครื่องดื่มของเขาว่า “Dr.Pepper”
หลังจากนั้น Dr.Pepper ก็เป็นที่โปรดปรานของผู้บริโภคอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ Waco ยังเริ่มซื้อน้ำเชื่อมจาก Alderton ทว่าเรื่องนี้กลับสร้างปัญหาให้กับ Alderton และ Morrisonเนื่องจากเขาไม่สามารถผลิตน้ำหวานโซดาได้เพียงพอต่อความต้องการ
Becoming the Dr. Pepper Company
โรเบิร์ต เอส. ลาเซนบี นักเคมีด้านเครื่องดื่มอายุน้อย ที่ได้ลิ้มลองเครื่องดื่มชนิดใหม่นี้ เขาก็รู้สึกประทับใจ Alderton ผู้ประดิษฐ์มีความสนใจในงานร้านขายยาเป็นหลักและไม่มีเวลาพัฒนาเครื่องดื่มของเขานัก Alderton จึงแนะนำให้ Morrison และ ลาเซนบี พัฒนาเครื่องดื่มของเขาต่อไป
เพียงช่วงสั้น ๆ การเติบโตของ Dr. Pepper ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 1891 พวกเขาก็ได้ก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Artesian Mfg. & Bottling Company ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นบริษัท Dr. Pepper Lazenby และลูกเขยของ Morrison…. JB O'Hara ย้ายบริษัทจาก Waco ไปยัง Dallas ในปี 1923
ในปี 1904 Lazenby และ O'Hara ได้แนะนำให้ Dr. Pepper เป็นที่รู้จักมากขึ้น (เกือบ 20 ล้านคน) ในงาน World's Fair Exposition ในปี 1904 เมืองเซนต์หลุยส์ นิทรรศการนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์มากกว่าหนึ่งรายการ อาทิ แฮมเบอร์เกอร์และแฟรงค์เฟิร์ตถูกเสิร์ฟบนขนมปังครั้งแรกที่นิทรรศการนี้ รวมถึงไอศกรีมโคนก็ถูกเสิร์ฟครั้งแรกในงานนี้เช่นกัน
From 1910 to 1914, Dr Pepper was identified with the slogan, “King of Beverages.
ในปี 1914-2000 Dr. Pepper ถูกตั้งฉายาว่า "ราชาแห่งเครื่องดื่ม" “Old Doc” ซึ่งเป็นตัวละครหมอพื้นบ้านเขาสวมแว่นและหมวกทรงสูง ซึ่งกลายเป็นภาพเครื่องหมายการค้าของ Dr. Pepper ในช่วงทศวรรษที่ 1920 -1930
ในยุคนั้น มีการค้นพบงานวิจัยที่พิสูจน์ว่าน้ำตาลให้พลังงาน และคนทั่วไปประสบปัญหาน้ำตาลลดลงในช่วงเวลา 10.30 น. 14.30 น. และ 16.30 น. การจัดการแข่งขันเพื่อสร้างโฆษณาโดยใช้ข้อมูลใหม่นี้จึงเกิดขึ้น
ผู้ชนะในแคมเปญโฆษณานี้มาพร้อมกับสโลแกนโฆษณาอันโด่งดังอย่าง "ดื่มอะไรให้น่ากินตอน 10, 2 และ 4" สโลแกนของ Dr. Pepper ในทศวรรษ 1950 คือ “Pepper-Upper ที่เป็นมิตร” ซึ่งนำแบรนด์มาสู่ทศวรรษ ใหม่ ในปี 1960 เมื่อเพลงร็อกแอนด์โรลและในรายการทีวี American Bandstand ของดิ๊ก คลาร์กโด่งดัง
Dr. Pepper จึงเปลี่ยนสโลแกนอีกครั้ง เพื่อขยายความน่าสนใจไปทั่วประเทศ
Dr Pepper can
Dr. Pepper ยกย่องตัวเองว่าเป็น "น้ำอัดลมที่ถูกเข้าใจสโลแกนผิดมากที่สุด" จากนั้นในปี 1970 Dr. Pepper ก็กลายเป็น "น้ำอัดลมที่เป็นต้นแบบของน้ำอัดลมในโลก" ในปี 1977 โฆษณาของ Dr. Pepper ได้สร้างเครื่องหมายการค้าใหม่
ด้วยแคมเปญ "Be a Pepper" อันโด่งดัง ตามด้วย "Be You" ส่วนสโลแกนใหม่ล่าสุดของ Dr. Pepper คือ "ยังมีอีกมาก" ซึ่งออกมาพร้อมกับ 23 รสชาติผลไม้ ทำให้ Dr. Pepper มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
แม้เวลาจะผ่านไปนานร่วม 130 ปี ตราสินค้าของ Dr. Pepper ก็ยังคงปรากฏอยู่บนชั้นวางและในตู้แช่เย็นของร้านค้าทั่วโลก
“เคล็ดลับในความสุขคือ ทำในสิ่งที่รัก เคล็ดลับในความสำเร็จคือ รักในสิ่งที่ทำ”
ติดตามเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/fromthisstar
Blockdit : https://www.blockdit.com/fromthisstar
Instagram : https://www.instagram.com/fromthisstar/
TikTok: https://vt.tiktok.com/ZSJSpnyCT/
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย
#เรื่องเล่าจากดาวนี้
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
