อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
หลังจากเรียนจบจาก
ม.ศิลปากรแล้ว ช่วงที่อ.เฉลิมชัยลำบากสุดๆอีกช่วงหนึ่งของชีวิต ก็คือในปีแรกที่เรียนจบใหม่ๆ
โดยตอนนั้นอาจารย์มีเงินเก็บสะสมเหลืออยู่ จากที่ได้ในการประกวดภาพเขียน 3 ครั้ง 3 รางวัลด้วยกันประมาณ 25,000 บาท (เงินรางวัลได้จริงทั้งหมด 28,000 บาท)
ขณะนั้น อาจารย์ก็ได้รับการติดต่อให้ไปจัดแสดงงานนิทรรศการภาพเขียนเดี่ยวเป็นครั้งแรก ที่โรงแรมเพรสซิเดนท์ในปลายปี 2522 ด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจารย์รู้ดีว่า กว่าจะถึงวันนั้น ต้องใช้เงินอีกจำนวนมากมายขนาดไหน ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าบ้านในแต่ละเดือน ค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน ไหนจะต้องเตรียมไว้เผื่อสำหรับค่าใส่กรอบรูปผลงานที่ต้องเอาไปจัดแสดง รวมถึงค่ารถตุ๊กตุ๊ก ที่คงต้องจ้างเหมาไปหลายรอบ ในการขนภาพแต่ละภาพไปโรงแรมอีกด้วย
“ช่วงนั้นตอนแรกๆ ผมคิดว่าเงินที่ได้มา น่าจะพอไหว แต่ก็ยังใช้จ่ายประหยัดนะ ผมซื้อแกงกะทิใส่หมูของโปรดถุงละ 3 บาท จากร้านป้าขาประจำปากซอยบ้านเช่า กินอย่างนี้ทุกมื้อทุกวัน หมดวันละ 9 บาทเป็นค่ากับข้าว ส่วนข้าวเปล่าไม่ต้องซื้อ เพราะหุงเองไว้แล้วเต็มหม้อ หลังๆกลัวเงินไม่พอ ซื้อแกงถุงเดียว 3 บาท กินแม่ง 3 มื้อเลย บอกป้าขอน้ำเยอะๆ ไว้เอามาราด
ยิ่งพอใกล้วันงานประมาณเดือนสุดท้าย คราวนี้ต้องประหยัดสุดๆ ผมไม่ซื้อแกงป้าแล้ว เอาน้ำปลามาคลุกข้าวกินทั้ง 3 มื้อเลย เป็นอย่างนี้ทุกวันจนถึงวันงาน ที่ต้องประหยัดอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าผมขี้เหนียวนะ แต่ผมต้องวางแผนการใช้เงิน เพราะเดี๋ยวเงินจะไม่พอในการจัดนิทรรศการ”
ปรากฏว่าเมื่อถึงวันจัดแสดงงาน ตลอดทั้ง 15 วัน อ.เฉลิมชัยไปตั้งแต่ 8 โมงเช้า ออกจากงาน 4 ทุ่มทุกวัน ยืนอธิบายภาพเขียนของตัวเองภายในงานให้ทุกคนที่เข้ามาดู ไม่เลือกการแต่งตัว ไม่คำนึงเด็กผู้ใหญ่ ไม่สนใจคนไทยหรือชาวต่างชาติ ให้ความสำคัญทุกคนเท่าเทียมกันหมด
จบงานอ.เฉลิมชัยได้เงินจากการจัดนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกนี้ถึง 5 หมื่น 4 พันบาท นับเป็นเงินก้อนที่มากที่สุดในชีวิต มากมายเหลือเกินในยุคนั้น มากมายจนพี่-น้อง-อาจารย์ และคนในแวดวงศิลปะทุกคน ต่างออกมาประฌามก่นด่าอาจารย์เฉลิมชัยว่า….ไอ้นี่มันขายจิตวิญญาณ ไอ้เหลิมมันขายงานศิลปะหากิน!!!
“ผมไม่สนใจพวกมัน ผมมีเป้าหมายในชีวิตผม ผมคิดเสมอว่าทำไมศิลปินที่วาดรูปต้องจน ทำไมพวกเราแม่งวันๆต้องเอาแต่เขียนรูป เขียน เขียน เขียน เขียนแล้วก็ไม่มีจะแดก แล้วก็ตายห่าไป ผมไม่ต้องการมีชีวิตอย่างนั้น ผมต้องการเป็นคนรวย เพราะพอผมรวยแล้ว ผมก็สามารถเอาเงินที่หามาได้ มาทำประโยชน์ให้ประเทศชาติของผม”
*** เงินรางวัลของอาจารย์ที่เหลือประมาณ 25,000 บาท ได้มาจาก 3 รางวัลดังนี้
-รางวัลที่ 1 เหรียญทอง งานจิตรกรรมบัวหลวง ปี 2520 จำนวน 15,000 บาท
-รางวัลเกียรตินิยมอันดับ 3 จากการประกวดศิลปกรรมแห่งชาติ ในปีเดียวกัน 5,000 บาท
-รางวัลที่ 2 เหรียญเงิน งานจิตรกรรมบัวหลวงอีกครั้งในปี 2522 อีก 8,000 บาท ***
*** ผู้ที่ชักชวนอ.เฉลิมชัย ให้จัดงานนิทรรศการในครั้งนั้น คือคุณหน่อย อิราวดี นวมานนท์ หรือนามปากกา น้ำอบ เจ้าของนวนิยายชื่อดังเรื่อง...คือหัตถาครองพิภพ...และยังเป็นคุณแม่ของอดีตนักแสดงหนุ่ม ธรรม์ โทณะวณิก อีกด้วย โดยในวันที่คุณหน่อยชักชวนอ.เฉลิมชัย ให้มาจัดงานนิทรรศการนั้น คุณหน่อยทำงานประจำ เป็นประชาสัมพันธ์อยู่ที่โรงแรมเพรสซิเดนท์นั่นเอง ***
*** เมื่อ 40 กว่าปีก่อน การจัดงานนิทรรศการภาพเขียน จะจัดขึ้นเฉพาะแค่ไม่กี่สถานที่เท่านั้น เช่นหอศิลป์ / A.U.A. / สถาบันเกอเธ่ ฯลฯ โดยอ.เฉลิมชัย คือศิลปินไทยคนแรก ที่จัดงานแสดงภาพเขียนในโรงแรม เป็นการเปิดตลาดไปสู่แวดวงสังคมไฮโซโดยเฉพาะ จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักนั่นเอง ***
ขอขอบคุณ : งาน “นิทรรศการพุทธศิลปกรรม”
#หวัดแกมบรรจง #อาจารย์เฉลิมชัย #เพจนี้ก็เหมือนปลามันมีเกร็ด #เฉลิมชัยโฆษิตพิพัฒน์ #เพจนี้ก็เหมือนอัญมณีมันมีมุก #วัดร่องขุ่น
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
