5 พ.ย. 2022 เวลา 08:36
ฎีกาที่ 3367/2564
คดีนี้แม้ในคำฟ้องโจทก์เป็นการฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินและบ้านพิพาท ซึ่งเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ แต่เมื่อจำเลยให้การต่อสู้ว่าบ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยครึ่งหนึ่ง จึงเป็นการโต้เถียงกรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาทแล้ว คดีส่วนนี้จึงเป็นคดีที่มีทุนทรัพย์ ซึ่งก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษาศาลชั้นต้นก็มีคำสั่งว่าคดีนี้เป็นคดีมีทุนทรัพย์ ให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลตามราทรัพย์ที่พิพาท 500,000 บาท ซึ่งไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ส่วนที่ดินพิพาท จำเลยไม่ได้ให้การโต้เถียงกรรมสิทธิ์ คดีโจทก์ส่วนนี้จึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ คดีโจทก์ส่วนนี้ศาลชั้นต้นศาลชั้นต้นยังไม่ได้วินิจฉัยว่า จำเลยมีสิทธิอยู่ในที่ดินพิพาทของโจทก์หรือไม่ อย่างไร คำพิพากษาศาลชั้นต้นส่วนนี้จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายอันเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์เช่นกัน ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 วินิจฉัยว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ แล้วพิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์มานั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
อนึ่งโจทก์ฎีกาขอให้ศาลฎีกายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิจารณาพิพากษาใหม่ ฎีกาโจทก์เช่นว่านนี้ถือเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกา 200 บาท แต่โจทก์เสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกามา 10,100 บาท ต้องคืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาส่วนที่เกิน 200 บาท แก่โจทก์

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา