5 พ.ย. 2022 เวลา 08:37
ฎีกาที่ 2455/2563
บุคคลใดจะยื่นคำร้องขอต่อศาลโดยทำเป็นคำร้องขอฝ่ายเดียวเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 และมาตรา 188 (1) ได้นั้น จะต้องเป็นกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจไว้ แต่กรณีตามคำร้องขอของผู้ร้องที่ขอให้ศาลมีคำสั่งว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 27061 ตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 127140 ของผู้ร้องนั้น ไม่มีกฎหมายใดสนับสนุนให้ผู้ร้องยื่นคำร้องขอฝ่ายเดียวเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทเพื่อให้ศาลมีคำสั่งดังที่ผู้ร้องกระทำในคดีนี้ได้
และหากมีผู้โต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ร้องเกี่ยวกับที่ดินดังกล่าวประการใด ผู้ร้องก็ชอบที่จะเสนอคดีของตนต่อศาลส่วนแพ่งที่มีเขตอำนาจได้โดยเป็นโจทก์ยื่นฟ้องผู้นั้นเป็นจำเลยอย่างคดีที่มีข้อพิพาท ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
ส่วนที่ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 78 บัญญัติว่า “การขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในที่ดินซึ่งได้มาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 หรือโดยประการอื่นนอกจากนิติกรรมสำหรับที่ดินมีโฉนดที่ดินแล้ว ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง” และกฎกระทวงฉบับที่ 7 (พ.ศ.2497) ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 นั้น
เป็นกรณีที่กฎหมายบัญญัติถึงวิธีการจดทะเบียนการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดิน มิใช่ภาระจำยอม จึงมิใช่กฎหมายที่สนับสนุนให้ผู้ร้องยื่นคำร้องขอฝ่ายเดียวเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทได้ที่ศาลล่างทั้งสองยกคำร้องขอของผู้ร้องมานั้น ชอบแล้ว

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา