19 พ.ย. 2022 เวลา 03:51
ฎีกาที่ 3090/2559
แม้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93 จะบัญญัติให้รับฟังเฉพาะต้นฉบับเอกสารเป็นพยานหลักฐาน แต่ก็มีข้อยกเว้นกรณีต้นฉบับเอกสารนำมาไม่ได้เพราะสูญหายอันมิใช่พฤติการณ์ที่ผู้อ้างต้องรับผิดชอบ หรือเมื่อศาลเห็นว่า เป็นกรณีจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่จะต้องสืบสำเนาเอกสารหรือพยานบุคคลแทนต้นฉบับเอกสารที่นำมาไม่ได้นั้น ศาลจะอนุญาตให้นำสำเนาหรือพยานบุคคลมาสืบก็ได้ ตามมาตรา 93 (2)
เมื่อปรากฏว่าในวันสืบพยานโจทก์ ทนายโจทก์ยื่นคำแถลงต่อศาลว่า ต้นฉบับของสัญญากู้เงิน ทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวประชาชน และโฉนดที่ดินเลขที่ 1543 จังหวัดสุรินทร์ ที่จำเลยมอบแก่โจทก์เพื่อเป็นประกันหนี้สูญหายไป ซึ่งโจทก์แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน จึงขอระบุบันทึกประจำวันฉบับลงวันที่ 4 ธันวาคม 2555 เป็นพยาน ตามคำแถลงและบัญชีระบุพยานโจทก์ ศาลมีคำสั่งอนุญาตและโจทก์อ้างส่งสำเนาสัญญากู้เงินเอกสารท้ายฟ้องเป็นพยาน
โดยจำเลยและทนายจำเลยไม่คัดค้านว่า สำเนาสัญญากู้เงินไม่ถูกต้องกับต้นฉบับก่อนสืบพยานเอกสารนั้นเสร็จ จึงไม่มีเหตุที่ศาลจะไต่สวนตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 125 วรรคสาม ตามที่จำเลยอ้างในฎีกา การที่จำเลยให้การว่าสัญญากู้เงินปลอม ไม่ใช่การคัดค้านว่าสำเนาสัญญากู้เงินที่โจทก์อ้างส่งเป็นพยานไม่ตรงกับต้นฉบับ ตามมาตรา 125 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 รับฟังสำเนาสัญญากู้เงิน เป็นพยานหลักฐานแทนต้นฉบับเอกสารจึงชอบแล้ว
โฆษณา