9 ธ.ค. 2022 เวลา 16:14
“หรือความคาดหวัง เป็นจุดเริ่มต้นและจุดจบของความรัก”
หากลองสังเกตุในทุกความสัมพันธ์ สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราทุกข์โดยเฉพาะเรื่องของความรักคือ “การที่ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง” เช่น คาดหวังว่าเขาจะต้องตอบแชตเร็วและรายงานหรือเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวันให้เราฟัง, คาดหวังว่าเขาจะเอาใส่ใจเราอย่างสม่ำเสมอและไม่ลดลงมีแต่เพิ่มขึนหรือคงที่, คาดหวังว่าเขาจะไม่มีความลับและแชร์ทุกอย่างที่เราสงสัย, คาดหวังว่าเขาจะไม่เที่ยวกลางคืน ดูดบุหรี่ หรือทำอะไรที่เสียสุขภาพ โดยอ้างว่าเพราะรักและเป็นห่วง เป็นต้น
ความคาดหวังทุกอย่างไม่มีผิดมีถูก ประเด็นสำคัญอยู่ที่เรารู้จักกันหรือคุยกันมากพอหรือยัง? ทั้งเวลาปกติหรือ มีปัญหาต่างๆ เราเคยได้ใช้เวลาทบทวนหรือเปิดอกกันโดยไม่นำอารมณ์มาเกี่ยวข้องแล้วหรือไม่ เช่น นั่งจับเข่ากันในห้องเพื่อคุยเรื่องอนาคตของเรากันจริงจังว่าแต่ละคนมีเส้นทางในชีวิตกันอย่างไร และเราจะสามารถ support กันอย่างไรได้บ้าง
โดยสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น วัตถุประสงค์หลักๆ คือเพื่อให้เกิดการรู้จักตัวตนของกันและกัน รู้ว่าหลังจากนี้อะไรบ้างที่มีผลกระทบต่อเราเพื่อนไปสู่การปรับหรือเปลี่ยนแปลง และเห็นถึงความชัดเจนในความสัมพันธ์ของกันและกันมากยิ่งขึ้น
หลายคนที่เป็นทุกข์จากความรัก นอกจากจะคาดหวังจนเกินไปแล้ว ยังพยายามเอาตัวเองไปเป็นเส้นทับกับเขาจนมากเกินไป หากเธอและฉันเป็นเลข 1 การพยายามเอา1+1ให้เท่ากับ 2 เพราะให้เหตุผลว่าเพราะเราเป็นแฟนหรือสามี ภรรยากันจะต้องแขร์ทุกเรื่องกัน อย่างที่กล่าวข้างต้นไม่มีผิดมีถูกอยู่ทึ่ทั้งสองคนคุยกันแล้วตกลงเป็นในรูปแบบนี้ก่อนหน้านี้แล้วหรือไม่ หรือคิดเองว่ามันควรจะเป็นแบบนี้จากมุมมองของตัวเราเองฝ่ายเดียว
หากความสัมพันธ์ยังไม่พัฒนาถึงขั้นดังกล่าว การค่อยๆ ขยับความสัมพันธ์โดยไม่เร่งเกินไป ใส่ใจพยายามเติมเต็มซึ่งกันและในกันในจุดที่พอเหมาะ และสิ่งที่สำคัญคือ “มีจุดมุ่งหมายหรือ passionในการใช้ชีวิตของตัวเองที่ชัดเจน” โดยไม่หวังพึ่งใคร โครตจะเป็นเสนห์นอกจากหน้าตา หรือฐานะด้วยซ้ำ เพราะแสดงให้เห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของตัวเองและเมื่อไรก็ตามที่เรารักตัวมากพอ ไม่เพียงแต่จะสามารถรักหรือให้คนอื่นได้อย่างเต็มที่แล้ว หากความรักไม่เป็นดั่งหวังคุณจะสามารถ move on และกลับมาเติมเต็มช่องว่างที่เคยมีได้อย่างแน่นอน
ลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ หากใครที่เป็นคนที่คาดหวังกับความรักจนเกินไป อาจลองพยายามคิดว่าความรักไม่ใช่ 1+ 1 = 2 แต่คือ 1 (ฉัน) 1(เธอ) ที่้เดินไปใน timeline เดียวกัน บางครั้งอาจไม่สามารถรวมกันเป็นสิ่งๆ เดียวได้ทุกพาร์ท หรือลองเปรัเทียบกับนาฬิกา ใน12ชั่วโมง เราอาจใช้3ชมไปกับกันและกัน อีก1ชมใช้เวลากับเพื่อนหรือครอบครัว อีก2ชมใช้เวลากับเป้าหมายในชีวิตของตัวเอง เป็นต้น เพราะความรักคือการเติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย คอย support หรือให้กำลังใจกันและกัน และที่สำคัญจะตัองมีความสุขมากกว่าความทุกข์.
โฆษณา