Boost your 5 senses
and make your day!
กระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของตัวเอง เพื่อให้เรารู้สึกสดชื่นและปรับอารมณ์ให้สงบนิ่งแบบดิสนีย์ เพื่อให้วันของเรามันดีสุด ๆ ไปเลยแกร 😊
#BenNote #DisneyMagic
#Disney_Magic_14 #Mind
The Magic of 5 Senses
#BenNote จากหนังสือ
“Disney ทำอะไร ทำไมใคร ๆ ก็หลงรัก”
คุณซากุราอิ เอริโกะ
ดิสนีย์เกิดจากการ์ตูน 2 มิติค่ะ คุณเอริโกะบอกว่าการสร้างสวนสนุกขึ้นมาก็ต้องพยายามสร้างภาพ 3 มิติให้สมจริง ให้คนเชื่อว่าเราอยู่ในดินแดนแห่งความฝันจากการ์ตูน animation 2 มิตินั้นจริง ๆ เวทมนตร์ที่ Disney ใช้คือการกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเราค่ะ นอกจากสิ่งที่เรามองเห็นหรือรับรู้ได้ทาง “ตา” แล้ว ดิสนีย์ทำให้เรารู้สึกคล้อยตาม รู้สึก “จริง” ผ่านทุกอายตนะของเราเลยค่ะ ... (รูป) รส กลิ่น เสียง สัมผัส
และไม่ใช่ใช่ผิว ๆ นะคะ ดิสนีย์เก๊าลึกกกก ... ซึ้ง เรามาดูตัวอย่างกันค่ะ
ถนนที่เชื่อมกับทางเข้า Disney จะเป็นเนินลาดนิดนึงค่ะ เวลาเราเดินลงจากเนินนี้ไปหาสวนสนุกเราจะเดินเร็วขึ้นกว่าปกตินิ้ดดดนุง ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเราสูงกว่าปกติ สมองจะเข้าใจผิดคิดว่าเรากำลังอารมณ์ดี (เอ้าอีนี่ 555) และกระตุ้นให้เรารู้สึกอะดรีนาลินพลุ่งพล่าน คึกคัก ๆ ตื่นเต้ลลลล อ่อออออ มิน่าาาา ... งั้นไอ้ที่เราถลาไปหาประตูดิสนีย์แลนด์ราวกับเจอดินแดนมหัศจรรย์ ประมาณว่ากลับไปเป็นเด็กอีกครั้งนี่ก็ไม่ผิดเนาะ คือเนินมันพาไป 555 (ทึ่งในความคิดเยอะ คิดละเอียดของคนออกแบบมากเว่อร์อ่ะค่ะ)
หรือทางไปปราสาทเจ้าหญิงก็มีเนินนะคะ เราจะไม่เห็นปราสาทจากทางเดินค่ะ พอเราเดินขึ้นเนินไปยอดปราสาทจะค่อย ๆ ปรากฏ ความประทับใจของเราจะมากขึ้นกว่า .. ถ่าดา ... เห็นเฉย ๆ เลย แบบมันเหมือนเราเห็นสิ่งนี้ค่อย ๆ เต็ม หัวใจเราก็จะค่อย ๆ เต็มตื้นขึ้นมาไรงี้ค่ะ
2 ตัวอย่างนั้นไม่รู้จะเรียกว่าเป็นประสาทสัมผัสด้านไหนดี 555 น่าจะเป็นการรวบตึง มันไม่ใช่แค่ตาอ่ะเนาะ แต่มันไปหมดเลยทั้งตัวทั้งหัวใจทั้งสมองและฮอร์โมนใด ๆ ... เจ๋งง่า
ตัวอย่างต่อไปเรามาดูกันที่เสียงค่ะ เสียงในดิสนีย์เค้าไม่ใช่เปิดไปงั้น ๆ เปิดไปเฉย ๆ นะคะ แต่เค้ามีการออกแบบให้เป็นเพลงที่จะกระตุ้นให้เรามีความรู้สึกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาค่ะ เช้าก็จะเป็นจังหวะเร็ว ๆ สดใสหนุกหนาน เย็นก็จะช้า ๆ ผ่อนคลาย ในทางจิตวิทยาเค้าบอกว่าถ้าคนเราได้ฟังเพลงที่ synch กับอารมณ์ของเราในตอนนั้นเราจะรู้สึกดีค่ะ
ปรากฏการณ์แบบนี้เรียกว่า “การรู้สึกคล้อยตาม” ซึ่งเป็นสิ่งที่ดิสนีย์และนักการตลาดเค้าถนัดค่า (นึกถึงเสียงในห้างที่หลอนหูทำให้เรารู้สึกอยาก shop สิคะ 555 เพลงในร้านอาหารที่มีจังหวะเร็วจะทำให้เรากินเร็วไปด้วย ช่วงพีค ๆ ร้านอาหารจะไม่เปิดเพลงชิลล์นะทุกคน เค้าต้องการให้เรารีบกินรีบไป จะได้ turn โต๊ะหลาย ๆ turn งี้ (เบ็นเกลียดการไปกินตามร้านในช่วง peak มากบอกเลย เพราะมันเหนื่อยยยยค่าทุกโค้น 😅)
เสียงจึงมีอิทธิพลกับ mood ของคนเรามาก ๆ เลย ... พูดถึงเรื่องนี้แล้วเลยคิดถึง บ้านผีสิง อันนึงในสวนสนุกจำชื่อไม่ได้แล้วที่ญี่ปุ่นค่ะ มันสุดมากทุกคน เป็นอันที่เบ็นหลอนและกลัวมากกกกกจนถึงวันนี้ ทั้งที่มันไม่มีผีเลยสักตัว 555 แต่กลัวมากจริง ๆ สิ่งที่ Attraction นี้ลงทุนมากสุดคือหูฟังค่ะทุกคน นึกถึงภาพเราเดินเข้าไปนั่งในห้องอาหารของปราสาทโกธิคผีสิงหลังนึงนะคะ รอบ ๆ ก็มีตุ๊กตาผีสิงวางอยู่ เรื่องก็ปูมาว่าที่นี่มีครอบครัวถูกฆาตกรรมนะ และมีวิญญาณอาฆาตสิงอยู่ แบบแค้นฝังหุ่นว่างั้น
จากนั้นก็ให้เราใส่หูฟังฮะทุกคน ละ cast ก็บอกให้เรา close your eyes … แล้วดับไฟ (รู้เพราะกลัวมากเลยลืมตา แล้วกลัวว่าเดิม 55) ... เรื่องหลังจากนั้นมาด้วยเสียงล้วน ๆ ฮือออออ ถามว่าฟังรู้เรื่องไหม ไม่!!! เพราะมันคือภาษาญี่ปุ่นล้วนค่ะท่านผู้ฟังงงง แต่สภาพนั้น แค่มีเสียงลากแกรกกรากก็ขนหัวลุกขนแขนแสตนด์อัฟละเหอะ ... ขอบอกว่าหูฟังดีมากกกกก คุณภาพระดับพี่ Jackson Wang ใช้ ได้ยินทู้กกกกกก...อณูเสียง บรึ๋ยยยยย
บอกเลยว่าโคตรน่ากลัว ... คือกลัวจนต้องเปิดตา ถามว่ารู้ไหมว่ามันไม่จริง เราก็รู้นะคะแต่ก็กลัวอยู่ดี จินตนาการของมนุษย์เองนี่แหละน่ากลัวที่สุดในโลกแล้วจริง ๆ
Attraction นี้เลยเป็นบ้านผีสิงที่เป็นคิดว่าเล่นกับความกลัวและจินตนาการของเราได้ดีที่สุดในโลกอันนึงเลยจริง ๆ It’s simple but super effective ค่ะ
🏰 กลับมาที่ดิสนีย์ค่ะทุกคน 555
ความลับอีกอย่างที่ซ่อนอยู่ในการกระตุ้นความรู้สึกเราคือ “กลิ่น” ค่ะ เอาแค่กลิ่น pop corn นี่แหละ หอมไปทั้งสวนสนุกเลยเนอะ และมันยั่วววว ไม่หิวก็ซื้อ ไม่อยากกินก็ซื้อเพราะกลิ่นมันชวนกินจริง ๆ แต่มันไม่ใช่แค่นี้นะคะ tricks นี้ใคร ๆ ก็ใช้เนอะ
- ร้านกาแฟ (ผ่าน Starbuck ไม่ได้ กลิ่นเตะจมูกจนต้องไปสอยสักแก้วให้หายแค้น 😁)
- ร้านหนมปัง (ตอนนี้ไม่มี Roti Boy แล้ว แต่ก่อนร้านนี้คือโคตรชัด ผ่านทุกครั้งอยากกินทุกครั้ง)
- แม้แต่ร้านเสื้อผ้า (เพื่อน ๆ น่าจะจำกลิ่น CCOO ได้แหละ โคตรชัดดด)
- โรงแรมก็ใช้ (โรงแรม 5 ดาวตั่งต่างมีกลิ่นของตัวเอง บั่บว่า...ไม่ว่าจะไปสาขาไหนทั่วโลก เข้าไปใน Hilton ปุ๊บเราก็จะได้กลิ่นแบบนี้ อะไรงี้)
ใคร ๆ ก็ใช้กลิ่น แต่ “คนที่ชนะใจ” เค้าชนะกันที่ความละเอียดค่ะ ไม่แน่ใจว่าเพื่อน ๆ เคยสังเกตไหมว่า pop corn ในแต่ละโซนของ Disney กลิ่นมันไม่เหมือนกันค่ะ เพราะเค้าต้องการให้ความรู้สึกที่เราได้จากแต่ละ Zone มัน synch กับ character ของโซนนั้น ๆ เช่น Westernland เป็นแนวผจญภัย เค้าก็จะขาย pop corn รสแกงกะหรี่ที่กลิ่นเข้ม ๆ จัด ๆ หน่อย ส่วนใน Pooh’s Honey Hunt ก็แน่นอนว่าจะต้องเป็นรสน้ำผึ้งอันหอมหวานของ Pooh เนอะ
เบ็นไม่เคยสังเกตถึงขั้นนี้ แต่นึกได้ว่า อ๋ออออ ไอ้ที่เราเคยสงสัยว่าทำไมโซนนี้มีแต่รสนี้วะ มันไม่ใช่แค่ว่าเค้าต้องการความหลากหลายแฮะ แต่มันลึกซึ้งไปถึงระดับภาพลักษณ์และความรู้สึกของโซนกันเลยยย ... สุดจริง ๆ
เวลาที่เราไป Disneyland เราจึงมีความสุข สนุก และได้รับแรงบัลดาลใจตลอดเวลา เรียกว่าเค้ากระตุ้น 5 senses ของเราเพื่อ Make our (magical) days นั่นเองค่ะ
และในเมื่อ Disney makes our days ได้ เราก็ใช้ trick ของ Disney มาทำให้วันของเรามีความสุขสนุกสนานเพื่อตัวเราเองได้เหมือนกันนะคะ ง่าย ๆ ...
- แค่เปิด playlist ที่เหมาะกับ mood ที่อยากได้ในวันนั้น
- พรมน้ำหอมหรือจุดเทียน aroma กลิ่นที่ให้ความรู้สึกที่อยากได้ในวันนั้น
- หาภาพที่ใช่ ของที่ชอบมาวางไว้ที่โต๊ะทำงาน
- พาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เราชอบทำงาน อันนี้สำหรับคนที่เลือกพิกัดทำงานได้เนอะ
เบ็นคงบอกไม่ได้ว่าอะไรหรือ sense ไหนที่จะ make your day นะคะเพื่อน ๆ แต่ละคนก็ “จริต” ไม่เหมือนกันเนาะ อย่างเบ็นฟังเพลงหรือ podcast ได้เฉพาะตอนเช้าเท่านั้น ระหว่างทำงานเปิดเพลงไม่ได้เลย แต่เพื่อนเบ็นส่วนใหญ่ชอบเปิดเพลงสร้าง mood ในเวลาทำงาน ก็แล้วแต่จริตเราเลยค่ะ แต่ยืนยันว่าการกระตุ้น senses ช่วยให้วันของเรา “ดี” ได้จริง ๆ
Today I listen to Totoro to start my lovely day. How about you guys? Let’s boost our 5 senses and have an amazing day กันนะคะ 😊
💖🥰🥰💖
#เบ็นบันทึก #BenNote
#Benji_is_Learning
#Benji_is_Drawing
#bp_ben #inspiration
#Disney #Magic #Service_Design
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
