12 ธ.ค. 2022 เวลา 01:20 • นิยาย เรื่องสั้น
ตามรอยบทเพลง ”ฤดูร้อน” ตอนที่ 4
เอาเข้าจริงแล้ว หนังสือที่เกี่ยวกับดนตรีนั้นมีน้อยมาก ไม่ว่าจะเป็นหนังสือบทความหรือหนังสือการ์ตูนก็พอกัน ผมเป็นคนชอบเข้าร้านหนังสือมาก ๆ ชอบมากกว่าอะไรทั้งหมด
เวลาไปเดินห้าง จะเดินวนเวียนอยู่ในร้านหนังสืออย่างน้อยประมาณ 2 ชั่วโมง แบบไม่รู้สึกตัว เดินไปดูชั้นต่าง ๆ แผนกต่าง ๆ หยิบจับ ดมกลิ่น สัมผัสกระดาษ เปิดหน้ากระดาษ ดูรูปเล่ม แล้วก็จินตนาการฟุ้งไปเรื่องโน้นเรื่องนี้ ไอเดียบรรเจิด
4
;)
ถ้าฉันได้ทำหนังสือจะเป็นอย่างนี้จะเป็นอย่างนั้นนะ คิดลอยไปไกลโพ้น~ ต่าง ๆ นา ๆ ตลกดีเหมือนกัน มันเป็นความสุขที่ไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อหาในหนังสือโดยตรง สิ่งที่แปลกประหลาดอีกอย่างก็คือ เป็นคนไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือ แต่ชอบซื้อหนังสือมาสะสมไว้เพียบ ในใจคิดว่า เก็บไว้อ่านตอนแก่ ตอนว่าง ๆ ซึ่งไม่เห็นจะว่างเสียที เลยได้แต่ซื้อมาเก็บตุนวางไว้บนชั้นแบบหุ้มพลาสติกไม่เคยแกะ ไม่ค่อยได้หยิบมาอ่าน
3
การอ่านหนังสือของผม จะอ่านต่อเมื่อขึ้นเครื่องบินเท่านั้น และแน่นอนว่า หนังสือที่จะพกขึ้นเครื่องก็คงเป็นเล่มบาง ๆ (ส่วนใหญ่เป็นหนังสือนิตยสาร เช่น มวยโลก) คงไม่หยิบสารานุกรมขนาด 3 กิโลขึ้นเครื่องแน่นอน
1
สุดท้ายก็เก็บมากกว่าอ่าน พูดง่าย ๆ ก็คือ ผมชอบซื้อหนังสือเก็บเป็นของสะสมล่ะมั้ง จะเข้าไปเดินดูมากกว่าซื้อ เพราะสิ่งที่สนใจไม่ค่อยมี แต่ถ้าหนังสือที่อ่านหรือสนใจ ส่วนใหญ่จะเป็นแนวฮาวทู หรือพวกวิธีการทำอะไรต่าง ๆ แบบเจาะลึก โดยเฉพาะชั้นดนตรี จะเป็นอย่างแรกที่เข้าไปส่อง
2
ครั้งหนึ่งเคยเกิดไอเดีย เพราะมีคำถามในใจว่า “ทำไมไม่มีหนังสือเกี่ยวกับการแต่งเพลง?” (ช่วงนั้นรู้สึกจะสนใจเรื่องการแต่งเพลงมากเป็นพิเศษ ฮ่าๆ ) นอกจากหนังสือที่เกี่ยวกับสอนแต่งเพลง ก็ยังหาหนังสือที่เกี่ยวกับการทำอัลบั้มบทเพลงของวงดนตรี ซึ่งบอกได้เลยว่า ไม่มีสักเล่ม!! ไม่มีเลยจริง ๆ (ยุคนี้ก็เชื่อว่าไม่น่าจะมี)
2
ผมก็เลยเอาไอเดียนี้มาแต่งหนังสือของตัวเองซะเลย ชื่อว่า “บันทึกลึกลับ พาราด็อกซ์ X” เจตนาเพื่อจะได้เป็นหนังสือเล่มแรกที่เขียนเกี่ยวกับการทำงานเพลงเป็นอัลบั้มอย่างละเอียด(ผมเขียนหนังสือเก็บข้อมูลระหว่างทำอัลบั้ม) ปัจจุบันหายากมากแล้ว โชคดีที่ราคาไม่ตกด้วยซ้ำ แสดงว่า มันมีคุณค่าจริง ๆ
2
บันทึกลึกลับ พาราด็อกซ์ X (ปกพิมพ์ครั้งที่ 1)
บันทึกลึกลับ พาราด็อกซ์ X (ปกพิมพ์ครั้งที่ 3)
ฟุ้งไปไกลอีกแล้ว ชอบเป็นแบบนี้แหละครับ แต่เชื่อว่า เพื่อน ๆ ชอบให้ผมเขียนอะไรแบบนี้ พอคิดนู่นนี่ ผมก็จะฟุ้งฝันล่องลอยไปไกลเหลือเกิน
2
ในชีวิตจริงก็เป็นนะ สารภาพว่า เวลาขับรถ ไอเดียมักมาจุติในสมองฉับพลันอย่างไร้เหตุผล เช่น ฟังข่าวสุนัขพลัดตกท่อ อาจปิ๊งไอเดียแต่งเพลงรักท่ามกลางทุ่งทานตะวัน อะไรแบบนี้ มันขึ้นมาเอง และส่วนใหญ่จะมองเห็นภาพจินตนาการตาม ล่องลอยไปไกล มารู้สึกตัวอีกที อ้าว! มาโผล่ตรงด่านเก็บเงินจะขึ้นทางด่วนเฉยเลย เป็นแบบนี้ทุกที ไม่รู้เป็นอะไร แล้วก็หลงทางไปกันใหญ่ ต้องไปนั่งวนรถหาทางลงกลับเข้าลู่เข้าพงทุกครั้งเลย อันนี้เรื่องจริงครับ
3
กลับเข้าเรื่องการ์ตูนกันต่อนะครับ ที่เล่ามาทั้งหมดมีจุดหลัก ๆ ก็คือ ผมเป็นคนชอบหาไอเดียในการแต่งเพลง แต่ในช่วงยุคที่กำลังเล่านี้ การ์ตูนญี่ปุ่นตาหวานนั้นจุดประกายให้รู้สึกตื่นเต้น มีไฟในการอยากแต่งเพลง มันเลยทั้งสนุกในการหาหนังสือและตื่นเต้นลุ้นว่าจะเจอเนื้อเพลงเจ๋ง ๆ ในนั้นไหม เป็นแบบลุ้น ๆ เป็นชั้น ๆ ไป ชีวิตมันมีสีสัน มีเป้าหมายดี
1
แต่ก็อย่างที่บอกตอนต้น หนังสือแนวนี้ มันมีน้อยมากจริง ๆ ครับ ถึงแม้ในร้านหนังสือให้เช่า จะมีหนังสือให้เลือกเยอะ เรียกว่าผมสามารถเปิดดูได้ก่อนเลย เปิดแบบแทบจะกรีดดูทุกหน้าผ่านตาอย่างรวดเร็วราวกับเครื่องนับธนบัตร คือ จะมองปกก่อนว่าหนังสือเล่มนี้ลายเส้นถูกใจไหม มีลุ้นไหม แล้วมันมีช่วงตอนที่เล่นดนตรีกับเนื้อเพลงอะไรแบบที่ต้องการบ้างไหม สุดท้ายเจอไม่ถึง 3 เล่ม ที่เกี่ยวกับดนตรี แถมบางทีไม่มีฉากซ้อมเพลงอีก เป็นแบบเต๊ะจุ๊ยไปวัน ๆ ที่เหลือจะเป็นแนวความรักในวัยรุ่นซะส่วนใหญ่
1
:)
ตอนนั้นก็เป็นมิสชั่นระยะยาวที่เอาไว้เวลาผ่านร้านหนังสือการ์ตูน หรือเวลาผ่านไปที่นั่นที่นี่ แต่มันไม่ค่อยมีหรอกครับ และเริ่มสังเกตได้อย่างหนึ่งในช่วงที่ค้นหาหนังสือ ผมก็เปิดมั่วไปหมด เรียกว่าเปิดดูกวาดไปเรื่อยเปื่อย แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในการ์ตูนตาหวาน มักจะมีบทความหรือบทกวีสวย ๆ ประกอบ ซึ่งบางทีมันไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อเพลงนะครับ แต่มันเป็นบทกวีลอย ๆ บางครั้งก็ดูเหงา บางครั้งก็ดูอกหัก ซึ่งมักอยู่หน้าสุดท้ายของจบตอน ในแต่ละตอน ที่เพื่อนแซวว่า “แนวใยไหม” อะไรประมาณนั้นล่ะมั้งครับ
2
เหมือนเดิม!
ขอพักก่อนนะครับ
เริ่มปวดตา ไว้ติดตามตอนต่อไป (-_-“)zzZ
3
โปรดติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม
ของพี่ต้า Paradox และ วง Paradox ได้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา