17 ธ.ค. 2022 เวลา 02:40
ฎีกาที่ 4274/2564
โจทก์ฟ้องวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 ก่อนจะมี พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 27) พ.ศ.2558 ที่กำหนดให้ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาว่าคดีที่ได้ยื่นฎีกาใดสมควรอนุญาตให้ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกานั้นมีผลใช้บังคับวันที่ 8 พฤศจิกายน 2558 จึงเป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้นที่จะตรวจฎีกาและมีคำสั่งรับหรือไม่รับหรือไม่รับฎีกาของคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 232 ประกอบมาตรา 247 (เดิม)
โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกาครั้งที่ 2 ภายหลังจากที่พ้นกำหนดระยะเวลาขยายฎีกาครั้งที่ 1 แล้ว ซึ่งโจทก์จะขอขยายระยะเวลาฎีกาได้เฉพาะในกรณีมีเหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 แต่คำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกาครั้งที่ 2 โจทก์ไม่ได้อ้างเหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ซึ่งจะทำให้โจทก์มีสิทธิยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกาหลังจากสิ้นระยะเวลายื่นฎีกาแล้วได้
ศาลชั้นต้นจึงไม่มีอำนาจสั่งขยายระยะเวลาฎีกาให้แก่โจทก์ครั้งที่ 2 การที่โจทก์ยื่นฎีกา ซึ่งเกินกำหนดระยะเวลาขยายฎีกา คำสั่งของศาลชั้นต้นที่รับฎีกาของโจทก์จึงไม่ชอบ ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 (5) มาตรา 246 ประกอบมาตรา 252

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา