27 ธ.ค. 2022 เวลา 03:52
ฎีกาที่ 1125/2564
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 30) พ.ศ.2560 มาตรา 21 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ พระราชบัญญัตินี้ไม่มีผลกระทบถึงกระบวนพิจารณาของศาลและกระบวนวิธีการบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่ได้กระทำไปแล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ” และความในวรรคสองบัญญัติว่า “ ในการขายทอดตลาดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประกาศขายทอดตลาดไว้ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ซึ่งใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์สินนั้นตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในประกาศขายทอดตลาดดังกล่าวต่อไปจนกว่าจะเสร็จสิ้น ” บทบัญญัติดังกล่าวบัญญัติขึ้นโดยมีความมุ่งหมายเพื่อรับรองและคุ้มครองคำสั่งอันเกี่ยวด้วยการบังคับคดีของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งซึ่งใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น กับการดำเนินการของเจ้าพนักงานบังคับคดี
รวมไปถึงการขายทอดตลาดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีได้กระทำไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในประกาศขายทอดตลาดโดยชอบก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับมิให้เสียเปล่าไปหากการบังคับคดีของศาลหรือการกระทำของเจ้าพนักงานบังคับคดีมีข้อผิดแผกไปจากกฎหมายที่บัญญัติขึ้นในภายหลังเท่านั้น
แต่การดำเนินการของเจ้าพนักงานบังคับคดีและวิธีพิจารณาความในศาลภายหลังวันที่พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 30) พ.ศ.2560 มีผลใช้บังคับแล้ว ย่อมต้องบังคับให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่แก้ไขใหม่ซึ่งใช้ในเวลานั้น ดังนั้น การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์พิพาท เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2560
และจำเลยยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดเป็นคดีนี้ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2560 อันเป็นวันที่พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 30) พ.ศ.2560 มีผลใช้บังคับแล้ว คำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของจำเลยจึงตกอยู่ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 295 ที่แก้ไขใหม่โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 30) พ.ศ.2560
ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ยังคงนำบทบัญญัติว่าด้วยการขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309 ทวิวรรคหนึ่ง (เดิม) มาปรับแก่คดีจึงไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย เมื่อการพิจารณาเรื่องการขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 295 ที่แก้ไขใหม่ ข้อฎีกาของจำเลยที่อ้างว่า
เมื่อนำบทบัญญัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309 ทวิ วรรคสอง (เดิม) มาปรับแก่คดีแล้ว คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้เพิกถอนการขายทอดตลาดย่อมเป็นที่สุดผู้ซื้อทรัพย์ไม่อาจยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นได้อีก จึงฟังไม่ขึ้นเช่นเดียวกัน
บทบัญญัติว่าด้วยการเพิกถอนการขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 295 วรรคสอง ที่แก้ไขใหม่ บัญญัติว่า “ ภายใต้บังคับมาตรา 331 วรรคสามถ้าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังดับคดีบกพร่อง ผิดพลาด หรือฝ่าฝืนกฎหมาย เมื่อศาลเห็นสมควรไม่ว่าในเวลาใดก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง หรือเมื่อเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีซึ่งต้องเสียหายเพราะเหตุดังกล่าว
ยื่นคำร้องต่อศาลให้ศาลมีอำนาจสั่งเพิกถอนหรือแก้ไขกระบวนวิธีการบังคับคดีทั้งปวงหรือวิธีการบังคับใด ๆ โดยเฉพาะหรือมีคำสั่งกำหนดวิธีการอย่างใดแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีตามที่ศาลเห็นสมควร ” แสดงว่าการจะเพิกถอนการขายทอดตลาด เพราะที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีบกพรอง ผิดพลาด หรือฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ตามบทมาตรานี้ ยังตกอยู่ภายใต้บังคับมาตรา 331 วรรคสาม ที่แก้ไขใหม่ซึ่งบัญญัติว่า
“ เพื่อให้การขายทอดตลาดเป็นไปด้วยความเที่ยงธรรมบุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีมีสิทธิเต็มที่ในการเข้าสู้ราคาเองหรือหาบุคคลอื่นเข้าสู้ราคาเพื่อให้ได้ราคาตามที่ตนต้องการ และเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเคาะไม้ขายให้แก่ผู้เสนอราคาสูงสุดแล้ว ห้ามมิให้บุคคลผู้มีส่วนได้เสียในดีทั้งหลายหยิบยกเรื่องราคาที่ได้จากการขายทอดตลาดมีจำนวนต่ำเกินสมควรมาเป็นเหตุขอให้มีการเพิกถอนการขายทอดตลาดนั้นอีก ”
ตามบทบัญญัติในมาตรา 331 วรรคสามดังกล่าวบัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ซึ่งเสนอราคาสูงสุดแล้ว กฎหมายห้ามมิให้บุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีโต้แย้งราคาขายของเจ้าพนักงานบังคับคดีโดยหยิบยกเรื่องราคาที่ได้จากการขายทอดตลาดมีจำนวนต่ำเกินสมควรมาเป็นเหตุในการเพิกถอนการขายทอดตลาดอีกต่อไป
เพราะก่อนการขายทอดตลาดกฎหมายได้กำหนดหลักเกณฑ์ให้บุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีมีสิทธิเต็มที่ในการเข้าสู้ราคาเองหรือหาบุคคลอื่นเข้ารู้ราคาเพื่อให้ได้ราคาตามที่ตนต้องการแล้วจึงไม่พึงให้มีการหยิบยกเหตุเกี่ยวกับราคาที่ได้จากการขายทอดตลาดมาเป็นข้อโต้เถียงเพื่อเป็นช่องทางในการประวิงการบังคับคดีให้ล่าช้าอีก สอดคล้องกับเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 30) พ.ศ.2560
ที่เห็นว่า บทบัญญัติของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในส่วนที่เกี่ยวกับการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ใช้บังคับอยู่บางส่วนไม่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ทำให้การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลเป็นไปโดยล่าช้าไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนผู้มีอรรถดีและเปิดโอกาสให้มีการประวิงคดี
ดังนี้ ข้ออ้างตามคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดที่จำเลยยกขึ้นฎีกาอ้างว่า ทรัพย์จำนองมีราคาสูงกว่าราคาขายทอดตลาดเป็นจำนวนมาก การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์จำนองในราคา 840,000 บาท นับว่าต่ำเกินไป จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 331 วรรคสาม ที่แก้ไขใหม่ จำเลยไม่อาจยกขึ้นอ้างเป็นเหตุเพิกถอนการขายทอดตลาดได้ ส่วนข้ออ้างตามฎีกาของจำเลยที่อ้างต่อไปว่าภายหลังจากเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์จำนอง จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ 900,000 บาท จนครบถ้วน
และเสนอขอซื้อทรัพย์จำนองคืนจากผู้ซื้อทรัพย์ในราคาสูงถึง 1,500,000 บาท แต่ผู้ซื้อทรัพย์ซึ่งซื้อทรัพย์ไปในราดาเพียง 840,000 บาท และยังมิได้ชำระราคา กลับปฏิเสธคำเสนอของจำเลยโดยเห็นว่าหากจำเลยต้องการซื้อทรัพย์จำนองคืนต้องซื้อคืนในราคา 2,000,000 บาท พฤติการณ์ของผู้ซื้อทรัพย์ส่อเจตนาไม่สุจริตต้องการหากำไรโดยมิชอบ นั้น เป็นการกล่าวถึงความไม่สุจริตของผู้ซื้อทรัพย์ มิต้องด้วยกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีบกพร่อง ผิดพลาด หรือฝ่าฝืนกฎหมาย
ที่ศาลมีอำนาจสั่งเพิกถอนหรือแก้ไขกระบวนวิธีการบังคับคดีทั้งปวงหรือวิธีการบังคับตามที่ศาลเห็นสมควรดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 295 วรรคสอง ที่แก้ไขใหม่ข้ออ้างตามฎีกาของจำเลยในส่วนนี้จึงมิใช่เหตุที่จะเพิกถอนการขายทอดตลาดและฟังไม่ขึ้น เมื่อข้อเท็จจริงในคดีไม่ปรากฏว่า ในการขายทอดตลาดทรัพย์จำนองพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลย เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการไปโดยบกพร่อง ผิดพลาดหรือฝ่าฝืนกฎหมาย กรณีจึงไม่มีเหตุต้องเพิกถอนการขายทอดตลาดทรัพย์จำนองพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลย
การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของจำเลย ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา