27 ธ.ค. 2022 เวลา 07:47
ฎีกาที่ 1176/2564
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลให้โจทก์ที่ 2 กึ่งหนึ่งของค่าธรรมเนียมธรรมเนียมศาลที่โจทก์ที่ 2 จะต้องชำระตามคำสั่งวันที่ 7 มีนาคม 2561 ต่อมาวันที่ 14 มีนาคม 2561 โจทก์ที่ 2 ยื่นคำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดใหม่อีกครั้ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง วันที่ 19 มีนาคม 2561 โจทก์ที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งและขอให้ไต่สวนคำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลเพิ่มเติม
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำพิพากษาว่า เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 ที่ศาลชั้นต้นยกคำร้องชอบแล้ว หากโจทก์ที่ 2 ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป ให้นำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันอ่านคำพิพากษา (วันที่ 19 ธันวาคม 2561) ให้โจทก์ที่ 2 ฟัง
เมื่อโจทก์ที่ 2 ไม่นำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาชำระภายในกำหนด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์ที่ 2 อันเป็นคำสั่งไม่รับคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 วรรคสอง โจทก์ที่ 2 ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนั้นได้ตามมาตรา 18 วรรคห้า ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์ที่ 2 เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2562 โดยไม่ปรากฏว่ามีการแจ้งคำสั่งดังกล่าวให้โจทก์ที่ 2 ทราบ
โจทก์ที่ 2 ทราบคำสั่งเนื่องจากมาขอคัดถ่ายเอกสารในสำนวนคดีเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 จึงยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำฟ้องเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2562 อันเป็นการยื่นภายในกำหนด 1 เดือน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18, 227 และ 229 แล้ว ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งอุทธรณ์ของโจทก์ที่ 2 จึงไม่ชอบ
แต่เมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาแล้ว เพื่อกระบวนการพิจารณาเป็นไปโดยล่าช้าอันกระทบต่อความยุติธรรม ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหาตามอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์ที่ 2 ที่ว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์ที่ 2 ทั้งหมดชอบด้วยกฎหมายหรือไม่โดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยอีก
เห็นว่า การที่โจทก์ที่ 2 ไม่นำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาชำระภายในกำหนด ศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์ที่ 2 ในส่วนทุนทรัพย์ที่โจทก์ที่ 2 ไม่ได้รับอนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลเท่านั้น และรับคำฟ้องในส่วนทุนทรัพย์ที่โจทก์ที่ 2 ได้รับอนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์ที่ 2 ทั้งหมดตามคำสั่งลงวันที่ 31 มกราคม 2562 นั้น จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
อนึ่ง ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มิได้สั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 167 (พิพากษายกคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 ที่ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ที่ 2 และคำสั่งศาลชั้นต้นที่มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์ที่ 2 ตามคำสั่งวันที่ 31 มกราคม 2562 แล้วให้รับคำฟ้องของโจทก์ที่ 2 เฉพาะในส่วนทุนทรัพย์ที่โจทก์ที่ 2 ได้รับอนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลกึ่งหนึ่ง)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา