จะปีใหม่แล้ว ขอให้เริ่มต้นสิ่งใหม่ ….
สิ่งต่างๆขอให้ผ่านไปอย่างมีคุณค่า
เราจะเปลี่ยนชะตากรรมของตัวเองที่ต้องเจอไม่ได้ ….เพราะนั่นคือผลของอดีต
แต่กำหนดชะตาชีวิตในกาลข้างหน้าได้ ด้วยตัวเราเองเสมอ
ขอแค่มีสติ และกำลังใจที่เข้มแข็ง ….
รับรู้และเป็นไป ยอมรับ ไม่ฝืน แต่รักษาเนื้อ รักษาตัว รักษากาย รักษาใจ
เรายังเป็นคนที่มีทั้งรัก โลภ โกรธ และหลงในหัวใจตัวเอง
ทำอย่างไรไม่ให้สิ่งเหล่านี้ครอบงำเราจนบงการให้เราทำเรื่องแย่ๆ
นั่นต่างหากคือสาระของการมีชีวิตที่ดี
คือคุณภาพ คือศักยภาพความเป็นมนุษย์ที่คนหนึ่งคนควรพัฒนาในตัวเองเสมอๆ
จนลมหายใจสุดท้าย
เงินทองทรัพย์สิน นั่นไม่ใช่สาระของชีวิตแม้สักนิด
แม้ว่าจำเป็นต้องแสวงหาเพื่อเลี้ยงชีพตัวเองก็ตาม เพื่อไม่มีก็ลำบาก จำเป็นต้องหา ต้องใช้ ต้องออม ธรรมชาติโลกมันเป็นแบบนี้
แต่ไม่ใช่สาระ
สาระแท้จริง คือทำอย่างไรให้ชีวิตมีความสุขแท้จริง
โกรธ แต่ไม่ต้องทำร้ายใครก็ได้ ทั้งคำพูด
ทั้งการกระทำ
อยากได้ ไม่จำเป็นต้องลักขโมย
รัก ไม่จำเป็นต้องแย่งหรือครอบครองถ้าเขามีเจ้าของแล้ว คุณจะรักเขาสุดหัวใจก็ได้ มีเหตุมากมายของความรัก แต่คุณไม่ควรแย่งหรือทำลายความรักของคนอื่น ความรักที่ดีจะไม่ทำร้ายใครโดยเฉพาะตัวเอง หรือถ้าทำลงไปเพียงความเพลิดเพลินทางอารมณ์ยิ่งไม่สมควร
เราสามารถคัดกรองคำพูดได้ ไม่จำเป็นต้องโกหก คำพูดที่ตั้งอยู่บนความจริง สิ่งที่ควรพูด พูดจากันดีๆ อาจจะไม่ต้องอ่อนหวาน แค่สุภาพก็รื่นหูคนฟังแล้ว คนฟังสบายใจ
คำพูดที่อยู่บนพื้นฐานความจริง คือคำพูดศักดิ์สิทธิ์ คำว่า เป็นตามที่พูด จะเกิดขึ้น ความน่าเชื่อถือ ความไว้ใจจะเกิดขึ้น….ที่จริงความจริงพูดง่าย เพราะไม่ต้องปั้นเรื่อง แต่การพูดความจริงคือศิลปะ และความชาญฉลาด
และสุดท้าย สติรักษาได้ยาก จึงไม่ควรที่เราจะทำลายสติของตัวเองด้วยของมึนเมาทั้งหลาย
การรักษาการกระทำ และคำพูดให้เหมาะให้ควรนี้ จะเป็นเหตุความสงบสุขของชีวิตทั้งในปัจจุบันและในกาลข้างหน้า
และเป็นบาทฐานการเรียนรู้ชีวิตและธรรมชาติของใจตัวเอง
อันจะก่อให้เกิดความเข้าใจตนเอง …ซึ่ง ตัวเราเองก็ยังทำไม่ได้ดี ทำได้บ้างพลาดบ้าง แต่ก็พยายามประคองให้พลาดน้อยลงๆ
สิ่งเหล่านี้ พาเราไปสู่เส้นทางที่ปลอดภัยและสงบเย็น…ด้วยกัน…
ไม่มีคำว่าสาย ถ้าตั้งใจ
ด้วยรัก ….
ส่งท้ายปีเก่า และ สวัสดีปีใหม่ 2566 นะคะ
ปีเสือไป ปีกระต่ายมา
พอดีเจอบทความที่ไม่ยาก ไม่ซับซ้อนเกินไป จึงนำมาแบ่งปันนะคะ
บทความโดย ดังตฤณ
ผลของกรรมเก่า
คือกายใจแบบนั้น
คือกายใจแบบนี้
หมายความว่าที่พวกเรา
แตกต่างกันขนาดนี้
เพราะเคยก่อกรรมไว้
แตกต่างกันได้ขนาดไหน
นี่คือความจริงที่ชาวพุทธ ๙๙%
ไม่อาจพิสูจน์ได้ไปทั้งชีวิต
ได้แต่เชื่อเพราะคิดว่าน่าเชื่อ
หรืออยู่ในอารมณ์อยากจะเชื่อ
ไม่ใช่เชื่อเพราะรู้เห็นจะแจ้งว่า
จิตคนและสัตว์ดับลงด้วยภาวะแบบไหน
จิตอุบัติใหม่ด้วยกองบุญหรือกองบาปแบบใด
เมื่อเชื่อตามอารมณ์
ก็เป็นธรรมดาที่พร้อมจะ
เปลี่ยนความเชื่อตามอารมณ์ได้ตลอดเวลา
ขอแค่มีใครมาบอกในจังหวะเหมาะว่า
ชีวิตเป็นไปตามฟ้าลิขิต เทวดาบันดาล
ก็มีสิทธิ์หลงเชื่อทันที
เพราะมีแต่แก้วหูไว้ฟัง
ไม่ได้มีจิตไว้หยั่งรู้ว่า
ใครพูดผิด ใครพูดถูก
ใครพูดเพราะเดา ใครพูดด้วยญาณทัศนะ
และการจะพิสูจน์การมีอยู่
ของผลบุญแบบทันตาในชาตินี้
ก็ไม่ใช่ดูกันเป็นเรื่องๆ เป็นวันๆ
แต่ต้องดูกันเป็นระดับชีวิต
ที่เท่าเดิม ยกขึ้น หรือตกต่ำ
เดือดร้อนบ่อยๆ หรืออยู่เย็นยาวๆ
สมดังที่พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ว่า
การคิด การพูด การทำ
อันเกิดขึ้นในเวลาปัจจุบันนี้ คือกรรมใหม่
หมายความว่า
เส้นทางกรรมแตกต่างไปได้เรื่อยๆ
เช่น ถ้ากรรมเก่าตกแต่งสถานการณ์
ให้แค้นอยากฆ่า
เรามีสิทธิ์ห้ามใจไว้ไม่ฆ่าก็ได้
ถ้ากรรมเก่าตกแต่งสถานการณ์
ให้โลภอยากโกง
เรามีสิทธิ์ห้ามใจไว้ไม่โกงก็ได้
ถ้ากรรมเก่าตกแต่งสถานการณ์
ให้หื่นอยากปล้ำ
เรามีสิทธิ์ห้ามใจไว้ไม่ปล้ำก็ได้
การห้ามใจไว้ ไม่ทำผิดทำบาปไปเรื่อยๆ
จะค่อยๆปลดหนี้ ทีละครั้ง ทีละหน
และเขยิบห่างจากวงจรภัยเวร ทีละคืบ ทีละศอก
กระทั่งรู้สึกเบาตัวเบาใจ
เหมือนชีวิตออกสู่ที่โล่ง กว้าง สว่าง
ยิ่งถ้าไปถึงจุดที่ลงทะเลน้ำใจอันใสเย็นได้
ยิ่งอยากรินน้ำใจใสสะอาดให้คนทั้งโลกด้วย
เมื่อทำกรรมดีต่อเนื่อง
จนเกิดเส้นทางกรรมสีขาว
ชีวิตจะเป็นสีขาวขึ้นมาภายในชาติเดียว
ฉะนั้น คนคนหนึ่งจึงได้ชื่อว่า
สามารถพิสูจน์ความมีอยู่จริง
ของผลบุญที่ยกระดับชีวิตให้ต่างไปได้
เป็นสิ่งรู้เฉพาะตนด้วยน้ำพักน้ำแรง
ไม่ใช่รู้เพราะใครบอกด้วยน้ำเสียง
แต่หากทำกรรมชั่วจนชีวิตตกต่ำลง
คนคนหนึ่งอาจไม่เชื่อเรื่องกรรมก็ได้
เพราะจิตที่เศร้าหมองด้วยความตกต่ำดำมืดนั้น
มักโทษโน่นโทษนี่
โทษคนโน้นคนนี้ได้ทั้งโลก
ยกเว้นโทษตัวเอง
ที่ไม่เชื่อเรื่องผลของสิ่งที่ตนทำ!
อ้างอิง: กรรมสูตร
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๘ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๐
สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค นวปุราณวรรคที่ ๕
• ดังตฤณ •
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
