1 ม.ค. 2023 เวลา 09:20
ฎีกาที่ 1499/2563
คดีนี้ โจทก์ยื่นอุทธรณ์เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 ว่า โจทก์ยื่นอุทธรณ์ภายในเวลาที่ศาลอนุญาต รับเป็นอุทธรณ์โจทก์ สำเนาให้จำเลยทั้งสามแก้ภายใน 15 วัน นับแต่ได้รับสำเนาให้โจทก์นำส่งภายใน 7 วัน นับแต่ทราบ หากส่งไม่ได้ให้แถลงเพื่อดำเนินภายใน 15 วัน นับแต่ส่งไม่ได้ หากไม่แถลงถือว่าทิ้งอุทธรณ์ แสดงว่า
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์หลังจากโจทก์ยื่นอุทธรณ์แล้ว 1 วัน และในการสั่งรับอุทธรณ์ศาลชั้นต้นมิได้สั่งให้แจ้งคำสั่งให้โจทก์ทราบ หรือมีข้อความในอุทธรณ์ให้โจทก์มารับทราบคำสั่งในวันใด แม้โจทก์ได้วางค่าใช้จ่ายในการส่งคำคู่ความไว้ต่อศาลในวันที่ยื่นอุทธรณ์ ก็ยังไม่อาจถือได้ว่าโจทก์ทราบคำสั่งศาลชั้นต้นแล้ว การที่ต่อมาเจ้าหน้าที่ศาลชั้นต้นทำรายงานเสนอต่อศาลชั้นต้นว่าส่งหมายให้จำเลยที่ 1 ไม่ได้
และศาลชั้นต้นสั่งรอโจทก์แถลงแต่ศาลชั้นต้นไม่ได้แจ้งผลการส่งหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์ทราบ โจทก์ย่อมไม่มีทางทราบถึงผลการส่งหมายดังกล่าว การที่โจทก์มิได้ยื่นคำแถลงให้ดำเนินการต่อไป จึงยังถือไม่ได้ว่าโจทก์จงใจเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด อันจะถือว่าเป็นการทิ้งฟ้องอุทธรณ์
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (2) ประกอบมาตรา 246 และพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ.2551 มาตรา 7 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ถือว่า โจทก์ทิ้งฟ้องอุทธรณ์แล้วมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีในส่วนของจำเลยที่ 1 ออกจากสารบบความของศาลอุทธรณ์ภาค 3 จึงไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา
กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของจำเลยที่ 1 และที่ 3 (พิพากษายกคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 3 ที่ให้จำหน่ายคดีในส่วนของจำเลยที่ 1 และยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ให้ศาลชั้นต้นแจ้งโจทก์ให้จัดการส่งหมายนัดและส่งสำเนาอุทธรณ์แก่จำเลยที่ 1 แล้วดำเนินการต่อไป)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา