Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าจากดาวนี้
•
ติดตาม
12 ม.ค. 2023 เวลา 02:36 • ประวัติศาสตร์
#การสร้างหลอดไฟ กับประสบการณ์ที่แสนอันตราย
แสงไฟฟ้าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเรามากที่สุด หลอดไฟรุ่นแรก ๆ ไม่ได้ถูก "คิดค้น" ขึ้นในปี 1879 โดยโทมัส อัลวา เอดิสัน หรอก เพราะหลอดไฟนี้มีนักวิทยาศาสตร์นับสิบคนที่พยายามประดิษฐ์หลอดไฟแบบไส้ขึ้น โดยนักประวัติศาสตร์บางคนอ้างว่ามีผู้ประดิษฐ์หลอดไส้มากกว่า 20 ชิ้นก่อนหน้ารุ่นของเอดิสัน
1
ความน่ากลัวของหลอดไฟ
เมื่อนานมาแล้ว การจุดไฟในบ้านคือประสบการณ์ที่แสนอันตราย เพราะไฟจากเทียนและเตาผิงทำให้เกิดไฟไหม้ได้ง่าย และเรื่องนี้ก็กลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างตะเกียงแก๊สซึ่งประดิษฐ์ขึ้นในปลายศตวรรษที่ 18 แม้ในภายหลังจะถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ตะเกียงแก๊สก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนมากนัก เนื่องจากมีควันรวมถึงยากต่อการบำรุงรักษา และง่ายต่อการเกิดระเบิดด้วย
แม้ว่าโทมัส เอดิสันจะได้รับเครดิตในการประดิษฐ์หลอดไฟ แต่ก็มีนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยหลายคนที่ทำงานเกี่ยวกับอุปกรณ์รุ่นก่อนเอดิสัน อาทิ นักประดิษฐ์อย่าง Humphry Davy (ผู้สร้างโคมไฟอาร์ค) ได้สาธิตวิธีการใช้ไฟฟ้าเพื่อสร้างแสงสว่าง
ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 19 มีการปรับปรุงหลายอย่างจนในปี 1840 ต่อมา Sir William Grove สามารถใช้แสงไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่ แต่หลอดไฟมีราคาแพงมากถึง 4 ชิลลิงต่อชั่วโมง (16 ปอนด์หรือ 22 ดอลลาร์ในค่าเงินปัจจุบัน) และหลอดไฟในยุคแรก ๆ เองก็มีราคาแพงและไม่ค่อยน่าเชื่อถือนัก
ไฟแรก
ทว่าความก้าวหน้าเรื่องหลอดไฟหลังจากนั้นก็หยุดไป จนกระทั่งปี 1878 เมื่อนักเคมีโจเซฟ สวอน เปลี่ยนเส้นใยแพลทินัมราคาแพงด้วยกระดาษคาร์บอนที่มีราคาถูก มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นได้สำเร็จ ทำให้ เอดิสัน สร้างหลอดไฟของเขาขึ้นได้ในปี 1879 หนึ่งปีหลังจากนั้นคดีละเมิดสิทธิบัตรที่แสนยาวนานก็เกิดขึ้น ตามมาด้วยการก่อตั้งบริษัท Edison-Swan United ที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ เอดิสัน
จากนั้นหลอดไฟของเอดิสันและสวอน ก็ถูกนักวิทยาศาสตร์หลายคนช่วยกันปรับปรุง และพัฒนา นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิบัตร ลูอิส ลา ติเมอร์ ยังได้พัฒนาไส้หลอดคาร์บอนด้วยการห่อหุ้มไว้ในกระดาษแข็งแทนไม้ไผ่ นวัตกรรมนี้ช่วยให้หลอดไฟใช้งานได้นานขึ้น
ทำให้คำพูดทีว่า “หลอดไฟสมัยใหม่เปลี่ยนวิธีการทำงานของสังคมไปอย่างมาก” ไม่ใช่เรื่องเกินจริง เพราะนอกจากการทำในบ้านจะปลอดภัยขึ้นแล้ว ยังช่วยลดปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการสูดดมควัน หรือก๊าซด้วย อีกทั้งยังปูทางไปสู่การทำงานที่ยาวนานขึ้น ทำให้การออกแบบอาคาร และการสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น โครงข่ายไฟฟ้า ไฟฟ้ารถยนต์ เครื่องบิน ไปจนถึงรถไฟ ทำได้โดยปลอดภัยมากขึ้น
ง่ายขึ้น
Ernest Freeberg ผู้เขียน The Age of Edison: Electric Light and the Invention of Modern America กล่าวในปี 2015 ว่า “แม้ว่าหลอดไฟของเอดิสันจะมีอายุกว่า 135 ปีแล้ว
เราก็ยังคงใช้งานกันอย่างสากลทำให้ความอัจฉริยะที่สร้างสรรค์ขึ้นนี้ถูกเรียกว่าช่วงเวลายูเรก้า”
ทุกวันนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังคงปรับปรุงหลอดไฟแบบใหม่ ๆ ออกมาทุกปี นำไปสู่หลอดไฟที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น ใช้งานง่านขึ้น และปลอดภัยยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้คนบนโลกได้ใช้งานและตอบโจทย์ความต้องการในด้านต่าง ๆ ต่อไป
“การต่อยอดคือจุดที่ยากแต่น่าสนใจที่สุด”
ที่มา :
https://www.bulbs.com/learning/history.aspx
https://www.energy.gov/articles/history-light-bulb
https://www.fi.edu/history-resources/edisons-lightbulb
ติดตามเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/fromthisstar
Blockdit :
https://www.blockdit.com/fromthisstar
Youtube :
https://www.youtube.com/channel/UCnJ-nawjrUuhDDiLLrOHQAw
Instagram :
https://www.instagram.com/fromthisstar/
TikTok:
https://vt.tiktok.com/ZSJSpnyCT/
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย
#เรื่องเล่าจากดาวนี้
ประวัติศาสตร์
เรื่องเล่าจากดาวนี้
ปรัชญา
1 บันทึก
4
1
1
4
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย